ยิ่งคิดยิ่งเจ็บใจ! 5 การตัดสิน เดวิด คู้ท ส่งผลกับ ลิเวอร์พูล

คู้ท เป็นผู้ตัดสินของ พรีเมียร์ลีก ตกเป็นข่าวในทางลบหลังมีคลิปแพร่ออกมาในสื่อโซเชียลเมื่อวันจันทร์ที่ผ่านมาซึ่งเขาด่าทอ คล็อปป์ อดีตกุนซือทีม ลิเวอร์พูล ด้วยคำหยาบ และพาดพิงไปถึงสโมสรด้วย นั่นทำให้ คณะกรรมการผู้ตัดสินฟุตบอลอาชีพ (พีจีเอ็มโอแอล) สั่งพักงานเขาชั่วคราวทันทีเพื่อการสอบสวน

ล่าสุดเมื่อ 12 พ.ย.มีรายงานจากสื่ออังกฤษ ระบุว่า สหพันธ์ฟุตบอลยุโรป (ยูฟ่า) ถอดชื่อ คู้ท ออกจากการทำหน้าที่ในเกม เนชั่นส์ ลีก สัปดาห์นี้แล้วหลังเจ้าตัวซึ่งเคยทำหน้าที่เป็นผู้ตัดสินวีเออาร์เกม ยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ ลีก ซีซั่นนี้ก่อเหตุฉาวโฉ่

สำหรับวิบากกรรมที่ คู้ท สร้างขึ้นมาได้ส่งผลกระทบกับเขาไปเรียบร้อยแล้ว แต่ที่น่าสนใจก็คือการทำหน้าที่ของท่านเปารายนี้ไม่ว่าจะในหรือนอกสนามได้ส่งผลเสียหายกับ "เดอะ เร้ดส์" มากแค่ไหน โดยเฉพาะ 5 เกมสำคัญที่มีผลอย่างมากกับทีมนับตั้งแต่ปี 2019-2024 

1. ดิว็อค โอริกี้ ไม่ได้ฟาวล์เฉยเลย - ปี 2019

ฤดูกาลนั้น ลิเวอร์พูล ผงาดคว้าแชมป์พรีเมียร์ลีก อังกฤษ ซึ่งเป็นสมัยแรกในรอบ 3 ทศวรรษ โดย คู้ท ได้รับบทบาททำหน้าที่เป็นผู้ตัดสินในห้องวีเออาร์ แมตช์ที่ "หงส์แดง" ออกไปเยือนถิ่นโอลด์ แทร็ฟฟอร์ด 

เกมนั้น มาร์คัส แรชฟอร์ด เป็นคนยิงประตูขึ้นนำให้กับ แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด แต่มีประเด็นที่น่าสนใจก่อนหน้านั้นก็คือ ดิว็อค โอริกี้ ได้ วิคตอร์ ลินเดอเลิฟ เตะจากด้านหลังจนลงไปนอนกลิ้ง แต่กรรมการในสนามปล่อยให้เล่นต่อ และนั่นไปสู่ประตูขึ้นนำ 1-0 ของเจ้าบ้าน

แม้จังหวะนั้นดังกล่าว คู้ท  ที่ทำหน้าที่เป็นผู้ตัดสินวีเออาร์ได้ทำการเช็คและมองว่าไม่ใช่จังหวะฟาวล์ แต่เดชะบุญที่บทสรุปสุดท้าย ลิเวอร์พูล ตีเสมอ 1-1 ในช่วงท้ายเกม โดยหลังจบแมตช์ดังกล่าว คล็อปป์ ออกมาพูดว่าประตูที่แมนยูไนเต็ด ได้เป็นการแสดงให้เห็นว่าวีเออาร์ยังคงมีปัญหา 

2. โรเบิร์ตสัน ประท้วงจนหัวร้อน - ปี 2020

ในฤดูกาลที่ "หงส์แดง" ได้แชมป์ เป็นอีกครั้งที่พวกเขาเจอพิษการทำหน้าที่ของ คู้ท  แต่ครั้งนี้เขาลงไปทำหน้าที่เป็นตุลาการสนาม และมีอยู่หนึ่งจังหวะที่ ลิเวอร์พูล ควรจะได้จุดโทษอย่างชัดเจนในเกมเสมอ เบิร์นลี่ย์ 1-1 ที่สนามแอนฟิลด์

มีจังหวะหนึ่งที่ แอนดรูว์ โรเบิร์ตสัน รู้สึกว่าเขาควรจะได้จุดโทษอย่างชัดเจน หลังโดนทำฟาวล์ในเขตโทษ แต่ คู้ท ปฏิเสธ นั่นทำให้เจ้าตัวหัวร้อนมากๆ และรอจนกระทั่งจบเกมจึงรีบเดินปรี่เข้าไปขอเคลียร์กับท่านเปาจอมฉาวทันที

ตอนนั้น "ร็อบโบ้" ใช้คำพูดหยาบคาบแบบเต็มสูบ เนื่องจากไม่พอใจการทำหน้าที่ของ คู้ท เพราะทำเป็นมองไม่เห็นจังหวะที่เขาโดนทำฟาวล์ และยังไม่ยอมให้มีการเช็ควีเออาร์ด้วย 

ยิ่งไปกว่านั้น สตาร์กัปตันทีมชาติสกอตแลนด์ ยังพูดจาประชดประชันใส่ คู้ท  ว่า เวลาจังหวะสำคัญดันมองไม่เห็น แต่จ้องจะแจกใบเหลืองให้กับตน และผู้เล่น "เดอะ เร้ดส์" เท่านั้น 

3. "ลืม" เช็คจังหวะฟาวล์โหดของ พิคฟอร์ด ใส่ ฟาน ไดค์ - ปี 2020

ต้องบอกว่านี่คือหนึ่งในเหตุการณ์สุดอื้อฉาวที่ เดวิด คู้ท  ได้สร้างเอาไว้กับ ลิเวอร์พูล เพราะมันส่งผลกระทบอย่างร้ายแรงให้กับสโมสรในการป้องกันแชมป์พรีเมียร์ลีก อังกฤษ 

คุ้ท รับบทบาทเป็นผู้ตัดสินในห้องวีเออาร์เกมเมอร์ซี่ย์ไซด์ ดาร์บี้ ที่สนามกูดิสัน พาร์ค ในช่วงระหว่างฤดูกาลที่มีการล็อกดาวน์ เนื่องจากการแพร่ระบาดของเชื้อไวรัสโควิด 19

แมตช์นั้นจังหวะที่เป็นประเด็นให้พูดถึงอย่างมากก็คือตอนที่ จอร์แดน พิคฟอร์ด พุ่งเสียบอย่างน่าเกลียดใส่ เฟอร์จิล ฟาน ไดค์ จนได้รับบาดเจ็บหนักที่หัวเข่า และทำให้เขาพลาดลงสนามในฤดูกาลนั้น

ตอนนั้นหลายคนที่เห็นเหตุการณ์ดังกล่าวคิดไปในทิศทางเดียวกันว่า พิคฟอร์ด ต้องโดนไล่ออกแน่ๆ แต่กลายเป็นว่า คู้ท เช็คแค่จังหวะล้ำหน้าของ ฟาน ไดค์ เท่านั้น โดยที่ไม่ได้สนจังหวะเล่นรุนแรงของ นายทวารทีมชาติอังกฤษ หลังเกมดังกล่าว ไมเคิ่ล โอลิเวอร์ ผู้ตัดสินในแมตช์นั้น ยอมรับว่าตนน่าจะให้ใบแดง พิคฟอร์ด  

นอกจากนี้ในเกมดังกล่าว จอร์แดน เฮนเดอร์สัน ยังโดนปฏิเสธประตูชัย เนื่องจากวีเออาร์ระบุว่าเป็นจังหวะล้ำหน้า แต่รูปภาพที่แสดงออกมาไม่มีความชัดเจน ด้วยเหตุนี้แมตช์ดังกล่าวจบลง 2-2 

4. แฮนด์บอลชัดๆ เกมกับ อาร์เซน่อล - ปี 2023

หลายคนที่ได้ดูแมตช์ดังกล่าวมองเห็นอย่างชัดเจนว่า มาร์ติน โอเดอการ์ด ทำแฮนด์บอลในเกมที่แอนฟิลด์ เมื่อฤดูกาลที่ผ่านมา และเป็น คู้ท  คนเดิมที่มองไม่เห็นและไม่สนใจที่จะเป่าฟาวล์

ภาพจากหน้าจอทีวีแสดงให้เห็นว่า จอมทัพกัปตันทีมอาร์เซน่อล เอื้อมมือออกไปเพื่อสกัดลูกบอล แต่ทั้ง คริส คาวานาห์ ผู้ตัดสิน และ คู้ท  กรรมการวีเออาร์ ไม่ให้ลูกทีมของคล็อปป์ได้จุดโทษ

จังหวะนั้น คู้ท  ได้แจ้งกับ คาวานาห์ ว่า โอเดอการ์ด กำลังลื่นล้มจึงยืนแขนออกไปข้างหน้า (นั่นจึงเป็นเหตุผลที่ทำให้บอลไปโดนแขน) ด้วยเหตุนี้จึงไม่เป็นจุดโทษ และการเช็คเสร็จสิ้นสมบูรณ์แล้ว โดยบทสรุปเกมนั้นเสมอกัน 1-1

ทั้งนี้ ฮาวเวิร์ด เว็บบ์ หัวหน้าองค์กรผู้ตัดสินของอังกฤษ ยอมรับว่า จังหวะดังกล่าวนั้นควรเป็นการแฮนด์บอลของ เพลย์เมกเกอร์ทีมชาตินอร์เวย์ และ ลิเวอร์พูล ควรได้ลูกจุดโทษ 

5. ซาลาห์ โดนลากล้มกลิ้งแต่ไม่ได้ฟาวล์ ?! - ปี 2024

เหตุการณ์นี้เพิ่งเกิดขึ้นสดๆ ร้อนๆ เมื่อสัปดาห์ที่ผ่านมา นั่นก็คือแมตช์พบ แอสตัน วิลล่า ซึ่งเป็นหนึ่งในเกมที่ "หงส์แดง" คว้าชัยชนะด้วยสกอร์ 2-0 แม้ว่าจะเกือบโดนทีเด็ดของ คุ้ท เล่นงานก็ตาม

จังหวะนั้นเกิดขึ้นตอนที่ โมฮาเหม็ด ซาลาห์ หลุดเดี่ยวไปลุ้นทำประตู แต่โดน เลออน ไบลีย์ ของ "สิงห์ผงาด" กระชากจนล้มกลิ้ง โดย คู้ท ซึ่งเป็นกรรมการในสนาม ปล่อยให้เล่นต่อ และ ดาร์วิน นูนเญซ วิ่งเข้าไปเอาบอลก่อนจะเป็นคนยิงประตูขึ้นนำ 1-0 

อย่างไรก็ตาม เรื่องนี้หลายคนรู้สึก ไบลีย์ ควรจะโดนลงโทษย้อนหลัง เพราะนั่นเป็นจังหวะที่ตั้งใจทำฟาวล์ "โม ซาลาห์" แต่ คู้ท  ไม่สนใจเหมือนประมาณว่าได้ประตูแล้ว ทุกอย่างก็จบกันไป 

ทอมเม้ง