รุด ฟาน นิสเตลรอย กุนซือรักษาการณ์ของ แมนยู คุมทีมลงเล่นเกมอำลาตำแหน่งได้อย่างยอดเยี่ยมด้วยการพา ปีศาจแดงย้ำแค้น เลสเตอร์ ได้สำเร็จด้วยสกอร์ 3-0 ในเกม พรีเมียร์ลีก ที่สนาม โอลด์ แทรฟฟอร์ด เมื่อวันอาทิตย์ที่ 10 พ.ย.หลังจากเกมแรกนายใหญ่ดัตช์คุมทีมเขี่ย เดอะ ฟ็อกซ์ ตกรอบสี่ถ้วย คาราบาวคัพ ได้เช่นกันก่อนส่งไม้ต่อให้ รูเบน อโมริม ทำงานแทนนับตั้งแต่วันจันทร์นี้เป็นต้นไป
1. ผีได้ อาหมัด ฟิตบู๊ตัวจริง
แมนฯ ยูไนเต็ด ใจชื้นเมื่อ อาหมัด ดิยัลโล่ ฮีโร่ที่เหมาสองประตูเกมพิชิต พีเอโอเค ในศึก ยูโรปาลีก 2-0 ลงเล่นเป็นตัวจริงได้หลังโดนเปลี่ยนตัวออกช่วงสิบนาทีสุดท้ายนัดบู๊กับทีมแชมป์ลีกกรีซ
เทียบจากศึก พรีเมียร์ลีก นัดล่าสุดที่เสมอกับ เชลซี 1-1 รุด ฟาน นิสเตลรอย กุนซือขัดตาทัพจัดทัพทิ้งทวนการคุมทีมนัดสุดท้ายด้วยการสลับโผตัวจริงรายเดียว
นายใหญ่ดัตช์เลือกใช้งานปีกทีมชาติ ไอวอรี่ โคสต์ ลงเล่นเป็นตัวจริงก่อนหน้า อเลฮานโดร การ์นาโช่ ที่โชว์ฟอร์มได้อย่างน่าผิดหวังในสองเกมหลัง
อย่างไรก็ดี เจ้าบ้านยังไม่มี ลุค ชอว์ ในโผตัวสำรองแม้แบ็คซ้ายทีมชาติ อังกฤษ จะลงซ้อมได้แล้ว
ขณะเดียวกัน หากยึดจากเกมปะทะกับ พีเอโอเค ผีแดง สลับโผตัวจริงสามตำแหน่งโดย มาต์ไตส์ เดอ ลิกต์ กับ ลิซานโดร มาร์ติเนซ กลับมาประจำการณ์ในแผงหลังแทน วิคตอร์ ลินเดอเลิฟ กับ จอนนี่ อีแวนส์ รวมถึง มาร์คัส แรชฟอร์ด ที่ได้เสียบแทน การ์นาโช่
2. จิ้งจอกพึ่ง อายิว บุกล้างตา
เลสเตอร์ ซิตี้ ซึ่งแพ้ แมนฯ ยูไนเต็ด 5-2 ในเกม คาราบาวคัพ รอบสี่นัดแรกที่ ฟาน นิสเตลรอย คุมทีมแทน เอริค เทน ฮาก วางหมากให้ จอร์แดน อายิว ลงเล่นเป็นตัวจริงหมายล้างตา
จิ้งจอกสยามเลือกส่ง อายิว ตัวสำรองที่ลงไปยิงประตูในช่วงทดเวลาพาทีมบุกไล่เจ๊า อิปสวิข 1-1 นัดก่อนออกสตาร์ตร่วมกับ เจมส์ จัสติน และ บูบาการี่ ซูมาเร่ เป็นการโรเตชั่นทีมรวมสามราย
จากการจัดทัพของทีมเยือนซึ่งยังไร้ แพตสัน ดาก้า กับ ฮัมซ่า ชูดูรี่ ที่บาดเจ็บหมายความว่า เจมี่ วาร์ดี้ กับ ริคาร์โด้ เปเรยร่า ที่เดี่ยงเพิ่มหลุดไปจากทีมเช่นกัน ขณะที่ สเตฟี่ มาวิดิดี้ นั่งเป็นตัวสำรอง
3. แฟร์นันด์ส ฉลองนัดที่ 250
สำหรับเกมนี้ บรูโน่ แฟร์นันด์ส กัปตันทีม แมนฯ ยูไนเต็ด ลงสนามรับใช้สโมสรเป็นเกมที่ 250 พอดี
และหลังจากเกมผ่านไปได้ 17 นาที สตาร์ทีมชาติ โปรตุเกส ก็แผลงฤทธิ์ซัดจากหน้าเขตโทษด้านซ้ายส่งบอลปะทะตาข่ายที่เสาไกลให้เจ้าบ้านนำ 1-0 หลังได้รับบอลจาก อาหมัด
แม้ต้นซีซั่น แฟร์นันด์ส จะเท้าบอดสอยตาข่ายไม่ได้อยู่นานเนื่องจากฟอร์มตกอย่างหนัก แต่หลายเกมหลังเขาเริ่มพังประตูได้อย่างต่อเนื่องโดยเฉพาะจังหวะสับไกใส่ เลสเตอร์ นัดนี้เหมือนเป็นการบ่งบอกอย่างชัดเจนว่า แฟร์นันด์ส คนเดิมกลับมาแล้ว
ต่อประตูดังกล่าวทำให้กองกลางเลือดฝอยทองคลำเป้า เดอะ ฟ็อกซ์ ได้เป็นเม็ดที่ 9 แล้วจากการลงเล่นเป็นตัวจริง 8 นัดรวมถึง 2 ประตูในถ้วย คาราบาวคัพ เมื่อสองสัปดาห์ก่อนด้วย
พร้อมกันนี้ แฟร์นันด์ส ยิงประตูให้ ผีแดง ได้ 83 ลูกแล้ว และหากนับรวมแอสซิสต์ด้วย เขามีส่วนร่วมกับประตู 155 ลูก
จากนั้นในครึ่งหลัง เขาจัดแอสซิสต์ได้อีกเม็ดจากการผ่านบอลให้ทีมได้เม็ดสามปิดเกมอย่างสมบูรณ์แบบ
4. แรชฟอร์ด ลำบากหนัก
ว่ากันตามเนื้อผ้าและความเป็นธรรม นาทีนี้ มาร์คัส แรชฟอร์ด ตกที่นั่งลำบากที่สุดในบรรดาปีกทีม แมนฯ ยูไนเต็ด เนื่องจากดาวเตะทีมชาติ อังกฤษ ยังเรียกฟอร์มเก่งกลับคืนมาไม่ได้ทั้งๆที่เคยยิงกระจายในซีซั่นแรกของ เอริค เทน ฮาก
ยิ่งไปกว่านั้นนาทีนี้ ผีแดง มี อาหมัด พุ่งขึ้นมาอีกราย และมันทำท่าว่าดาวเตะแอฟริกันจะเป็นที่พึ่งของทีมได้มากกว่า แรชฟอร์ด ซะแล้ว
กระทั่งหลังจาก การ์นาโช่ ลุกจากม้านั่งข้างสนาม ปีกอาร์เจนไตน์สอยตาข่ายให้ทีมนำห่าง 3-0 อย่างงามอันเป็นการตอกย้ำว่า แรชฟอร์ด สมควรนั่งเป็นตัวสำรองมากที่สุดในบรรดาปีกทั้งสามรายของทีมโดยไม่จำเป็นต้องนับรวม อันโตนี่ เข้าไปด้วยให้ยุ่งยาก
อย่างไรก็ดี แรชฟอร์ด ยังมีโอกาสพิสูจน์ตัวเองกับ อโมริม เจ้านายคนใหม่ที่จะย้ายจาก สปอร์ติ้ง ลิสบอน มาเริ่มงานกับ แมนฯ ยูไนเต็ด ตั้งแต่วันจันทร์นี้เป็นต้นไป
5. บอสรุดไร้พ่าย
หลังพาทีมสยบ เลสเตอร์ ในเกมทิ้งทวน เท่ากับว่า ฟาน นิสเตลรอย พาทีมไร้พ่ายตลอดการทำงานสี่นัดในทุกรายการจากผลงานชนะสาม เสมอหนึ่งแม้ทุกเกมจะเป็นการเล่นในบ้านทั้งหมด
อาจเป็นเรื่องน่าเสียดายที่เขาจะไม่ได้คุมทีมอย่างถาวร แถมไม่แน่ด้วยว่า อโมริม จะรั้งตัวให้ช่วยงานเหมือนที่อดีตสตาร์ทีมชาติ เนเธอร์แลนด์ วาดหวังหรือเปล่า แต่ที่้แน่ๆในบรรดานายใหญ่ขัดตาทัพของทีมก่อนหน้านี้ ฟาน นิสเตลรอย สร้างชื่อได้ดีกว่าใครเพื่อน
จากการพาทีมพิชิต เดอะ ฟ็อกซ์ ได้เป็นคำรบสอง ฟาน นิสเตลรอย มีผลงานพาทีมชนะคิดเป็น 75% เหนือกว่าทั้ง ไรอัน กิ๊กส์ (50%) และ ไมเคิ่ล คาร์ริค (66.67%)
สำหรับ กิ๊กส์ เขาได้คุมทีมแบบชั่วคราวแทน เดวิด มอยส์ ท้ายซีซั่น 2013/14 รวมสี่นัดเช่นกันโดยอดีตปีกทีมชาติ เวลส์ พา แมนฯ ยูไนเต็ด ชนะสอง เสมอหนึ่ง และแพ้หนึ่ง
จากนั้น ไมเคิ่ล คาร์ริค อดีตกองกลางได้รับภาระแบบเดียวกันนี้ในซีซั่น 2021/22 แทน โอเล่ กุนนาร์ โซลชา ที่โดนปลดโดยเขาทำงานรวมสามเกม และพาทีมชนะสอง เสมอหนึ่ง แต่ คาร์ริค อาจมีงานที่ยากกว่า ฟาน นิสเตลรอย เนื่องจากสองในสามเกมของเขาเป็นการพาทีมลงเล่นเกมเยือน