ตัดสินใจลำบาก! อโมริม แจงที่จริงอยากคุม แมนยู ตอนจบซีซั่น

ตัดสินใจลำบาก! อโมริม แจงที่จริงอยากคุม แมนยู ตอนจบซีซั่น
รูเบน อโมริม ระบุ ใจจริงอยากรอให้จบซีซั่นนี้ก่อนถึงค่อยไปคุม แมนยู พร้อมรับปากว่าจะไม่ซื้อนักเตะของ สปอร์ติ้ง ในตลาดช่วงเดือนมกราคมนี้

รูเบน อโมริม เทรนเนอร์ สปอร์ติ้ง ลิสบอน เปิดเผยว่าที่จริงตนอยากรอย้ายไปคุม แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด ตอนจบฤดูกาลนี้ แต่ได้รับการแจ้งว่าจำเป็นต้องตัดสินใจตั้งแต่ตอนนี้เท่านั้น

หลังจากตกเป็นข่าวกับเก้าอี้กุนซือของ แมนยูไนเต็ด อย่างหนักในช่วงไม่กี่วันที่ผ่านมา "ปีศาจแดง" ก็ประกาศแต่งตั้ง อโมริม ให้เป็นกุนซือแบบถาวรของทีมแล้ว โดยเขาจะเริ่มงานอย่างเป็นทางการในวันที่ 11 พฤศจิกายนนี้

การที่ อโมริม ตัดสินใจบอกลา สปอร์ติ้ง กลางฤดูกาลนั้นทำให้แฟนบอลบางคนของที่นั่นไม่พอใจอย่างมาก หลังจากตอนนี้ทีมกำลังทำผลงานได้ดีจนถึงขั้นชนะในลีกครบทั้ง 10 เกมและนำเป็นจ่าฝูง ขณะที่ใน ยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ ลีก ก็ยังไม่แพ้ใครเลยจากการเล่นไป 3 นัด ซึ่งล่าสุดกุนซือวัย 39 ปีก็บอกว่าที่จริงไม่อยากทิ้งทีมกลางคันเช่นกัน

อโมริม ให้สัมภาษณ์หลังพาทีมชนะ เอสเตรล่า เด อมาโดร่า 5-1 เมื่อวันศุกร์ที่ 1 พฤศจิกายน ที่ผ่านมาว่า "สถานการณ์ก็คือตั้งแต่ตอนเริ่มฤดูกาลนี้น่ะผมก็ได้คุยกับเขา (ประธานสโมสร สปอร์ติ้ง เฟรเดริโก้ วารันดาส) และ อูโก้ วิอาน่า (ผู้อำนวยการกีฬาของ สปอร์ติ้ง ที่เตรียมจะไปทำงานกับ แมนเชสเตอร์ ซิตี้ หลังจบฤดูกาลนี้) รวมถึงบอกกับทั้งคู่ไปว่าไม่ว่ามันจะเกิดอะไรขึ้น นี่ก็จะเป็นฤดูกาลสุดท้ายของผมกับ สปอร์ติ้ง ท่านประธานเองก็อยู่ที่นี่ เขาสามารถยืนยันถึงเรื่องนั้นได้"

"จากนั้นฤดูกาลก็เริ่มขึ้น เรารู้ว่าเราออกสตาร์ตได้ดีมากๆ แล้วจู่ๆ ก็เกิดสถานการณ์บางอย่างที่ แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด ก่อนที่พวกเขาจะติดต่อเข้ามา พวกเขายอมจ่ายเงินเกินค่าฉีกสัญญาของผม ผมไม่เคยคุยเรื่องการต่อรองกับท่านประธานเลย"

"สิ่งเดียวที่ผมขอก็คือขออยู่คุมทีมไปก่อนจนจบฤดูกาลนี้ ตลอดช่วง 3 วันมานี้ผมย้ำว่าผมอยากอยู่กับทีมไปจนจบฤดูกาลก่อน แต่ผมก็ได้รับการแจ้งว่ามันไม่สามารถเป็นแบบนั้นได้ ผมได้รับการแจ้งว่ามันต้องเป็นในตอนนี้เท่านั้น ไม่อย่างงั้น แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด ก็จะไปหาตัวเลือกอื่น"

"ผมมีเวลา 3 วันให้ตัดสินใจในเรื่องนี้ มันเป็นการเปลี่ยนแปลงครั้งใหญ่ในชีวิตของผม แต่ผมมีเวลาให้ตัดสินใจแค่ 3 วันเท่านั้น และสุดท้ายผมก็ทำการตัดสินใจตามแบบที่รู้กัน"

อโมริม บอกด้วยว่าตอบรับข้อเสนอของ แมนยูไนเต็ด เพราะจะยังสามารถทำงานตามแนวทางของตัวเองได้อย่างเต็มที่ "ที่จริงก่อนหน้านี้ผมมีทางเลือกอื่นด้วยซ้ำ ท่านประธานกับ วิอาน่า สามารถยืนยันได้ว่านี่ไม่ใช่ครั้งแรกหรือครั้งที่สองที่มีทีมอื่นทาบทามผม และผมก็ไม่ต้องการไปรับงานกับทีมอื่นนอกจากนี้แล้วด้วย หลังจากการทำงานกับ สปอร์ติ้ง แล้วนั้น การทำงานที่ แมนเชสเตอร์ ก็เป็นอีกที่เดียวที่ผมต้องการ ผมต้องการทำงานกับที่นั่นเพราะมันเป็นงานที่อนุญาตให้ผมทำตามแนวทางของตัวเองได้ และสโมสรก็เชื่อมั่นในแนวทางนั้นของผม"

"มันเป็นเรื่องธรรมดาที่พอถึงวันหนึ่งมันก็จะถึงเวลาที่ผมต้องก้าวไปข้างหน้าในสายอาชีพของตัวเอง และนั่นก็เกิดขึ้นในตอนนี้ เชื่อผมเถอะว่าสำหรับผมแล้วนี่เป็นการตัดสินใจที่ยากลำบากยิ่งกว่าแฟนบอล สปอร์ติ้ง คนไหนๆ ก็ตามซะอีก แต่ผมจำเป็นต้องตัดสินใจแบบนี้ ตอนนี้ผมจะได้กลับบ้านในแบบที่มีความสุขมากกว่าเดิมเพราะผมได้อธิบายอย่างครบถ้วนแล้ว"

"หลายคนบอกว่า -มันเป็นการตัดสินใจที่มีปัจจัยจากเรื่องเงินเป็นหลัก- แต่ผมบอกเลยว่าก่อนหน้านี้มีอีกทีมที่อยากได้ตัวผมและทีมนั้นก็เสนอค่าเหนื่อยมากกว่า แมนเชสเตอร์ ตั้ง 3 เท่า นี่ถือเป็นช่วงที่ดีที่สุดในชีวิตของผมแล้ว (หมายถึงช่วงที่ดีที่สุดสำหรับงานกุนซือ) ทุกคนที่ สปอร์ติ้ง เข้าใจถึงเรื่องนั้นเป็นอย่างดี"

"นี่ถือเป็นการตัดสินใจที่จะเปลี่ยนชีวิตของลูกๆ ของผมด้วย ดังนั้นมันเลยมีหลายเรื่องที่ต้องพิจารณากัน ผมไม่ได้เป็นแค่โค้ชเท่านั้น แต่ยังเป็นพ่อคนเช่นกัน มันเป็นสิ่งที่ท้าทายมากๆ เหมือนที่ผมเคยรู้สึกตอนรับงานกับ สปอร์ติ้ง ดังนั้นผมเลยตัดสินใจไปรับงานกับที่นั่น และผมไม่คิดว่าตัวเองจะต้องกลับมาที่ โปรตุเกส โดยเร็วเช่นกัน"

"ผมรู้ดีว่าแฟนๆ ผิดหวังกับเรื่องนี้ แต่วันนี้มันยังไม่ใช่วันอำลาของเรา เรายังเหลือเกมสำคัญอีก 2 นัดที่จะเจอกับ แมนเชสเตอร์ ซิตี้ (ใน แชมเปี้ยนส์ ลีก) และกับ บราก้า (ในลีก) เพื่อที่เราจะยังได้เป็นจ่าฝูงต่อไป"

กุนซือหนุ่มชาวโปรตุกีสเสริมว่าจะเอาสตาฟฟ์หลายคนตามไปทำงานกับตนด้วย แต่ก็จะไม่ทำร้ายทีมเก่าด้วยการซื้อนักเตะของ สปอร์ติ้ง ในตลาดช่วงเดือนมกราคมนี้ อย่างเช่น วิคตอร์ เกียวเคเรส กองหน้าคนเก่งของทีมที่นับตั้งแต่ฤดูกาลก่อนทำไปแล้ว 63 ประตูจากการลงเล่น 66 นัดในทุกรายการ

"ผมจะเอาสตาฟฟ์ของผมไปกับผมด้วย นั่นเป็นหนึ่งในเงื่อนไขของผมมาโดยตลอด ผมหนีบพวกเขาไปกับผมตั้งแต่สมัยที่ผมคุม คาซ่า ปิอา แล้ว ส่วน เกียวเคเรส จะมีค่าตัวระดับ 100 ล้านยูโรได้ และมันจะเป็นเรื่องที่ยากมากๆ ที่จะซื้อเขาได้ ผมจะไม่ซื้อนักเตะคนไหนก็ตามของ สปอร์ติ้ง ในช่วงเดือนมกราคมนี้แน่นอน" อโมริม ระบุ


ที่มาของภาพ : gettyimages
ติดตามช่องทางอื่นๆ:
Website : siamsport.co.th
Facebook : siamsport
Twitter : siamsport_news
Instagram : siamsport_news
Youtube official : siamsport
Line : @siamsport