อ็อปชั่นง่ายสุด! วิเคราะห์โอกาส ฟาน นิสเตลรอย คุม แมนยู ถาวร

ไม่ต้องสงสัยเลยว่าอดีตกองหน้าทีมชาติ เนเธอร์แลนด์ เป็นคนที่แฟนบอล ผีแดง โปรดปรานเนื่องจากเขาเคยค้าแข้งกับสโมสรห้าปีแม้จะมีประสบการณ์คุมทีมชุดใหญ่มาแค่ซีซั่นเดียวเท่านั้น

แม้จะเป็นตัวเลือกที่เสี่ยงไม่น้อย แต่เชื่อได้เลยว่า ฟาน นิสเตลรอย รักทีม ผีแดง อย่างแท้จริง และไม่ว่าสุดท้ายแล้วเขาจะได้คุมทีมอย่างถาวรหรือไม่ เราจะไปดูเส้นทางของเขานับตั้งแต่เคยใช้ชีวิตใน โรงละครแห่งความฝัน ก่อนเริ่มต้นจับงานคุมทีม และกลับสู่ถิ่น เธียเตอร์ ออฟ ดรีม อีกวาระ

- ปฐมบทกับ ผีแดง

แมนฯ ยูไนเต็ด ควักกระเป๋าคว้าหอกดัตช์มาจากทีม พีเอสวี ไอนด์โฮเฟ่น ในราคา 19 ล้านปอนด์เมื่อปี 2001 และเขาพังประตูได้ 150 ลูกจาก 219 นัดก่อนย้ายไปค้าเกือกกับ เรอัล มาดริด ในปี 2006

เรเน่ มิวเลนสตีน อดีตโค้ชทีม แมนฯ ยูไนเต็ด ระบุถึงดาวยิงคนดังเอาไว้ว่า "มุ่งมั่นที่จะประสบความสำเร็จ และมองหาช่องทางการสอยตาข่ายฝ่ายตรงข้ามตลอดเวลา"

"ผมบอกกับ รุด ว่าฝ่ายตรงข้ามจะเริ่มวิเคราะห์นาย นายต้องเล่นให้เร็วที่สุด และนายต้องสัมผัสบอลให้ดีก่อนเผด็จศึก" มิวเลนสตีน เผยกับ บีบีซี

"เราทำงานร่วมกัน และเขาใส่ใจรวมทั้งมีวินัยโดยพยายามยกระดับเกมของตัวเองเพื่อประสบความสำเร็จ"

- เรียนรู้การโค้ชในละติน

ในฐานะโค้ช ฟาน นิสเตลรอย มีความมุ่งมั่นไม่แพ้สมัยเป็นนักเตะ

กุนซือดัตช์รับงานโค้ชทีมอะคาเดมี่ของ พีเอสวี หลังรีไทร์การค้าแข้งกับ มาลาก้า ในปี 2012 ก่อนก้าวขึ้นมาคุมทีมชุดใหญ่ในปี 2022

หลังลาออกในปี 2023 โดยเขาพาทีมคว้าแชมป์ ดัตช์คัพ และได้อันดับสองของลีกดัตช์ในซีซั่นเดียวที่เขารับงานกับสังเวียนแข้ง ฟิลิปส์ สเตเดี้ยม ฟาน นิสเตลรอย ได้รับการเสนองานจากหลายสโมสร

อย่างไรก็ดี เขาเลือกใช้เวลาหนึ่งปีเรียนรู้งานโค้ชกับโค้ชหลายรายทั่วโลกทั้งในสโมสร เรอัล มาดริด และสองทีมยักษ์ของลีกอาร์เจนติน่าทั้ง โบคา จูเนียร์ส และ ริเวอร์ เพลท

"เขาไม่มีความเย่อหยิ่ง เขาต้องการเปรียบเทียบไอเดียของเขากับไอเดียของโค้ชคนอื่นๆ" มาร์เซล ฟาน เดอร์ คราน บก.ของ เดอ เทเลกราฟ หนังสือพิมพ์ดัตช์เผย

"เขาฝันที่จะได้เดินทางไปรอบโลก เขาเดินทางไปดูเกมใหญ่ เขาคุยกับ มาร์ติน เดมิเคลิส ผู้จัดการทีม ริเวอร์ เพลท เป็นเวลาหลายชั่วโมงเกี่ยวกับงานโค้ช"

"เขาต้องการได้รับประสบการณ์ที่เกี่ยวกับวัฒนธรรมฟุตบอลเช่นกัน เขาบอกกับผมขณะเข้าดูเกมของ โบคา ที่ บูเอโนส ไอเรส ว่าได้เห็นถึงพลังของ มาราโดน่า ที่ถูกวาดเอาไว้บนกำแพงเพื่อรำลึกถึงตำนานทีมชาติ อาร์เจนติน่า ซึ่งเสียชีวิตในปี 2020"

"เขาบอกว่าคุณจำเป็นต้องรู้วัฒนธรรมของชุมชน"

"ที่ แมนฯ ยูไนเต็ด มันน่าจะสำคัญสำหรับเขามากกว่าทุกสโมสรในอังกฤษเพราะเขารู้ถึงวัฒนธรรมของพื้นที่เป็นอย่างดี"

- สนุกกับนักเตะเยาวชน

"สไตล์การเล่นของเขาชัดเจนมาก ผมไม่ได้บอกว่ามันจะเป็นเกมรุกบุกแหลก แต่ทีมของเขามีพิษสง" ฟาน เดอร์ คราน เสริม

"ถ้าจะให้สรุปการเป็นโค้ชของเขา เขาน่าจะสนุกกับการพัฒนานักเตะเยาวชนมากกว่าการได้โทรฟี่"

ต่อกรณีดังกล่าว ชาฟี ซิมอนส์ อดีตดาวรุ่งทีม พีเอสวี ซึ่งปัจจุบันถูก ปารีส แซงต์ แชร์กแมง ปล่อยให้ แอร์เบ ไลป์ซิก ยืมตัวเอ่ยถึง ฟาน นิสเตลรอย ว่า "สอนเขาทุกอย่าง"

กระนั้นก็ดี ทั้งๆที่ ฟาน นิสเตลรอย พาทีม พีเอสวี คว้าแชมป์ได้สองรายการทั้ง ดัตช์ คัพ และ ดัตช์ ซูเปอร์คัพ รวมทั้งคว้าโควต้าถ้วย แชมเปี้ยนส์ลีก ได้ในซีซั่นแรก เขาประกาศลาออกในเกมรองสุดท้ายก่อนปิดซีซั่น

"มีการแตกคอกันในเรื่องความสัมพันธ์ระหว่างเขากับผู้ช่วย เขายึดมั่นปรัชญาของเขา" ฟาน เดอร์ คราน เผย

นอกจากนี้ เดอ เทเลกราฟ ระบุอีกว่าหกนักเตะ พีเอสวี แจ้งกับบอร์ดถึงความไม่พอใจที่พวกเขามีต่อ ฟาน นิสเตลรอย

- กลับบ้าน

หลังย้ายออกจาก แมนฯ ยูไนเต็ด เมื่อปี 2006 ขณะมีอายุ 30 ปี ฟาน นิสเตลรอย ก็กลับสู่บ้านของเขาอีกคำรบ

จากการให้สัมภาษณ์กับสื่อในปี 2011 อดีตกองหน้าเผยว่ามันเป็นผลมาจากการผิดใจกับกุนซือ เซอร์ อเล็กซ์ เฟอร์กูสัน

"ผมไม่ได้เล่นในนัดชิงชนะเลิศ คาร์ลิ่ง คัพ ปี 2006 ผมไม่ถูกเปลี่ยนตัวลงเล่นด้วยซ้ำ และมันน่าผิดหวังสำหรับผม"

"แอนดี้ โคล กับ ดไวท์ ยอร์ค บอกกับผมเสมอว่า "สนุกกับเวลาที่นี่เอาไว้เพราะในวันใดวันหนึ่งนายจะต้องย้ายออกไป"

"ผมไม่เคยคิดที่จะย้าย แต่ตอนนั้นผมนั่งข้างสนามบ่อยมาก จากนั้นทีมอย่าง มาดริด ก็ติดต่อมา คุณไม่จำเป็นต้องคิดซ้ำสองเลย"

ก่อนหวนกลับสู่ทีม ผีแดง มารับบทสตาฟฟ์ ฟาน นิสเตลรอย เกือบได้คุมทีม เบิร์นลีย์ ในลีก แชมเปี้ยนชิพ แทน แว็งซ็องต์ กอมปานี เมื่อเดือนมิ.ย.แต่เขาปฏิเสธ และกลับมารับงานโค้ชกับ แมนฯ ยูไนเต็ด

แม้จะไม่แฮปปี้กับป๋าเฟอร์กี้ แต่ มิวเลนสตีน เชื่อว่า ฟาน นิสเตลรอย ไม่เคยลืมว่ากุนซือสกอตต์เซ็นสัญญากับเขาทั้งๆที่เขาเจ็บเข่าอย่างหนักในซีซั่นสุดท้ายกับ พีเอสวี

"ตอนที่เขากลับมาที่ แมนฯ ยูไนเต็ด ในซัมเมอร์นี้ เขาไม่มีความคิดที่จะแทนที่ เอริค เทน ฮาก" ฟาน เดอร์ คราน ยืนยัน

"เขากลับมาสวมบทบาทที่เขารัก เขาไม่ใช่นักฉวยโอกาส เขาแค่อยากพัฒนาสโมสร"