เส้นทางของลิเวอร์พูลยังคงผ่านไปด้วยดี..

เชลซี อาร์เซน่อล ไบรท์ตัน และ แอสตัน วิลล่า

โจทย์ข้อแรกผ่านไปเมื่อสัปดาห์ก่อนด้วยชัยชนะเหนือทีมสิงโตน้ำเงินครามที่แอนฟิลด์ เคอร์ติส โจนส์ สอดขึ้นไปทำประตูชัยให้ทีมเก็บสามคะแนนสำคัญต่อยอดผลงานที่ดีเยี่ยมจาก 7 เกมแรก

มันตามมาด้วยชัยชนะเกมเยือนเหนือ แอร์เบ ไลป์ซิก ในเวทีแชมเปี้ยนส์ ลีก

หนึ่งในโจทย์ยากที่สุดของฤดูกาลมาถึงในเกมซูเปอร์ซันเดย์เมื่อคืนวันอาทิตย์.. สองครั้งหลังสุดที่ไปเยือนอาร์เซน่อลในเกมลีก ลิเวอร์พูลไม่มีคะแนนติดมือกลับเมอร์ซี่ย์ไซด์

การจัดทีมของ อาร์เน่อ ชล็อต เลือก เคอร์ติส โจนส์ ลงเล่นในตำแหน่งกองกลางตัวรุกแทนที่ โดมินิก โซโบซไล ที่ฟอร์มไม่ดีนัก ขณะที่คนอื่น ๆ เป็นไปตามคาดรวมถึง หลุยส์ ดิอาซ ที่กลับมาทวงตัวจริงจาก โกดี้ คักโป ในตำแหน่งกองหน้าฝั่งซ้าย

อาร์เซน่อลเจ้าถิ่นน่าสนใจกว่า การบาดเจ็บที่เล่นงานนักเตะในทีมและโทษแบนของ วิลเลียม ซาลิบา ส่งผลต่อความพร้อมในเกมสำคัญนี้ ถ้าเลือกได้ มิเกล อาร์เตต้า ย่อมคงอยากให้ทีมของเขามีขุมกำลังพร้อมสรรพทุกคน

ริคคาร์โด้ คาลาฟิออรี่ กองหลังทีมชาติอิตาลีหายเจ็บไม่ทัน สมทบกับ มาร์ติน โอเดการ์ด, ทาเคฮิโระ โทมิยาสึ และ คีแรน เทียร์นี่ย์ ที่เจ็บอยู่ก่อน แต่การได้ บูกาโย่ ซาก้า กับ ยูร์เรียน ทิมเบอร์ ฟิตกลับมาลงสนามถือว่าเป็นข่าวดี ทำให้สภาพความพร้อมของทีมไม่ย่ำแย่มากไปกว่านั้น

การมี ซาก้า อยู่ในสนามสร้างความแตกต่างได้จริง ๆ เกมนี้ปีกขวาทีมชาติอังกฤษเล่นงาน แอนดี้ โรเบิร์ตสัน จนหอบ ประตูขึ้นนำ 1-0 ของทีมปืนใหญ่ก็มาจากการดวลชนะของเขา ถือเป็นการคืนสนามที่ถูกเวลามาก

การฟิตลงเล่นได้ของทิมเบอร์ก็เป็นอีกปัจจัยบวกให้อาร์เตต้าเช่นกันเพราะทำให้เขามีตัวเลือกมากขึ้น

การรับมือทีมที่มีปีกเก่ง ๆ อย่างลิเวอร์พูลจำเป็นต้องมีการช่วยซ้อนที่ดีจากเพื่อนร่วมทีมก็จริง แต่บางครั้งสถานการณ์เฉพาะหน้าที่ต้องดวลกันแบบหนึ่งต่อหนึ่งอย่างน้อยคุณก็ต้องมีนักเตะระดับที่ดีพอในการชะลอเกมของอีกฝ่ายด้วย

ความฟิตของทิมเบอร์ยังไม่ถึงร้อยเปอร์เซนต์หรอกครับ แต่ด้วยมาตรฐานของเขาและคู่ต่อสู้ที่แบ๊กซ้ายของทีมต้องเจอ อาร์เตต้าจึงส่งแบ๊กชาวดัตช์ลงไปบู๊กับ โมฮาเหม็ด ซาลาห์

การถอย โธมัส ปาร์เตย์ มาเล่นแบ๊กขวาเป็นการบอกให้เรารู้ว่าในมุมมองของอาร์เตต้านั้น ยาคุบ คิวิออร์ ยังไม่น่าไว้วางใจมากพอที่ให้จะเล่นเป็นตัวจริง ณ เวลานี้ เขาถึงได้เลือกกองกลางอาชีพมาเล่นแบ๊กแทนที่จะเป็นกองหลังอาชีพ

กระนั้นวิธีการเล่นของอาร์เตต้าก็ไม่ได้ทำให้คุณภาพในตำแหน่งมิดฟิลด์ของปาร์เตย์เสียของ เพราะกองกลางทีมชาติกานาจะขยับเข้าไปยืนเป็นกองกลางยามที่ทีมตั้งเกมบุก

เมื่อผนึกกำลังกับ ดีแคลน ไรซ์, มิเกล เมริโน่ และ เลอันโดร ทรอสซาร์ แล้วจึงทำให้แดนกลางของเดอะกันเนอร์สยังคงแน่นปึ้ก ครองบอลได้ คุมเกมได้

เกมในครึ่งแรกเป็นของอาร์เซน่อลชัดเจน บอลแน่นอนและแม่นยำกว่า เก็บจังหวะสองได้มากกว่า จึงเป็นทีมปืนใหญ่เดินหน้าบุกเข้าใส่ผู้มาเยือนอยู่แทบตลอด แต่เกมป้องกันของหงส์แดงก็ยังมีสมาธิที่ดีในการรับมือ มีกองกลางและกองหน้าลงมาช่วยปิดพื้นที่อย่างเคย

กระนั้นเกมรับที่ว่าแน่น ๆ ของลิเวอร์พูลก็ถูกทะลวงถึง 2 ลูก เป็นการเสียมากกว่าหนึ่งประตูในนัดเดียวเป็นครั้งแรกของพวกเขาฤดูกาลนี้

มันมาจากการเปลี่ยนจังหวะเกมโดยฉับพลันที่ เบน ไวท์ วางบอลยาวให้ ซาก้า เอาชนะโรเบิร์ตสันยิงแสกหน้า ควีวิน เคลเลเฮอร์ 1 ครั้ง และลูกตั้งเตะที่เป็นอาวุธอันตรายอีก 1 ครั้ง

อันที่จริงฟรีคิกของอาร์เซน่อลส่งสัญญาณเตือนลิเวอร์พูลมาครั้งหนึ่งแล้วก่อนหน้านั้น

บอลจาก ไรซ์ พุ่งได้น้ำหนักและทิศทางที่น่ากลัว ขณะที่การยืนออกันเลยแนวกองหลังก่อนจะรีบกลับเข้ามาประจำที่ตอนที่ไรซ์วาดเท้าเปิดบอลก็สร้างความสับสนให้การป้องกันของหงส์แดง

คุณจะประกบใครหรือต้องระวังใครดีล่ะ ในเมื่อไม่มีคนอยู่ให้ประกบตั้งแต่ตอนแรก โผล่มาอีกทีก็ไม่มีเวลาคิดแล้วเพราะบอลถูกเปิดเข้ามาแล้ว

เชื่อว่าอาร์เซน่อลน่าจะมีลูกสูตรใหม่ ๆ มานำเสนอเรื่อย ๆ มันกลายเป็นอาวุธที่น่ากลัวมากขึ้นทุกทีของทีมปืนใหญ่

อาร์เซน่อลสมควรเป็นฝ่ายขึ้นนำเมื่อจบ 45 นาทีแรกของเกม เล่นดีกว่า ครองบอลมากกว่า โอกาสยิงเยอะกว่า

กระนั้นลิเวอร์พูลก็มีประตูสำคัญที่ได้มาตอนที่ไล่ตีเสมอ 1-1 อยู่ในมือเหมือนกัน

เมื่อการขับเคลื่อนเกมมีปัญหา บอลไปไม่ถึงพื้นที่อันตราย ลิเวอร์พูลก็ต้องพึ่งอาวุธพิเศษของตัวเองที่ลูกตั้งเตะเช่นกัน บอลจากลูกเตะมุมถูกโหม่งเช็ดโดย ดิอาซ ก่อนที่ เฟอร์จิล ฟาน ไดค์ จะเสือกศีรษะโหม่งตัดหน้าปาร์เตย์เข้าไป

เป็นการทำประตูอย่างมีไหวพริบของกัปตันทีมลิเวอร์พูล ไม่มีเวลาให้จัดระเบียบร่างกายมากนักแต่ใช้สัญชาตญาณชิงจังหวะเล่นก่อนคู่ต่อสู้

ประตูของ ฟาน ไดค์ สำคัญเพราะมันทำให้แม้จะถูก เมริโน่ โหม่งลูกฟรีคิกตุงตาข่ายแต่ลิเวอร์พูลยังตามหลังเพียงประตูเดียว

สิ่งหนึ่งที่ผมรู้สึกว่าขาดหายไปของลิเวอร์พูลในครึ่งแรกคือพลังการพุ่งเข้าไปกดดันฝ่ายตรงข้ามของโซโบซไล

ปกติกัปตันทีมชาติฮังการีจะเป็นคนนำทีมเล่นเกมรับแดนบน เขาจะพุ่งเข้าใส่นายประตูหรือกองหลังที่ครองบอลอย่างรวดเร็ว ดุดัน บีบให้คู่ต่อสู้ต้องรีบคายบอล

เราไม่เห็น เคอร์ติส โจนส์ ทำอย่างนั้น แต่บางทีอาจเป็นการกำชับเอาไว้ของ อาร์เน่อ ชล็อต ก็ได้ด้วยรู้ดีว่าอาร์เซน่อลคือทีมที่แก้การไล่บีบพื้นที่ของคู่แข่งได้ดีในระดับท็อป ถ้าไล่ไม่จนสู้สงวนพลังงานไว้เล่นในพื้นที่แดนสองแถวกลางสนามดีกว่า

อาร์เซน่อลชนะในครึ่งแรกแต่สกอร์ไม่ขาด และเมื่อได้พักครึ่งให้น้ำให้ท่าปรับแก้เกมกันใหม่ ลิเวอร์พูลก็กลับออกมาด้วยการเล่นที่เร็วขึ้น เน้นขึ้น และกล้าขึ้น

การครองบอลไม่ได้เป็นของอาร์เซน่อลมากกว่ากันอย่างในครึ่งแรกอีกแล้ว เกมของหงส์แดงกระเตื้องขึ้นเรื่อย ๆ และยิ่งเมื่ออาร์เซน่อลโชคร้าย กาเบรียล มากัลเญส เจ็บขึ้นมาอีกคนจนต้องเปลี่ยนตัวออกก็ดูเหมือนความมั่นใจจะสวิงไปอยู่กับฝั่งผู้มาเยือน

การเล่นโดยไม่มีเซนเตอร์แบ๊กตัวหลักหนึ่งคนนั้นเป็นเรื่องหนึ่ง มันไม่ดีหรอกแต่อย่างน้อยก็มีเวลาวางแผนจัดการกับมันและซักซ้อมกันมา แต่การต้องเล่นโดยขาดเซนเตอร์แบ๊กตัวหลักคนที่สองไปอีกคนกลางคันระหว่างเกมนั้นเป็นอีกเรื่องเลย

มันย่อมมีความเครียดและระแวงเกิดขึ้น ยิ่งเมื่อคำนึงถึงความจริงที่ว่า เบน ไวท์ กับ คิวิออร์ ต่างก็เป็นเซนเตอร์แบ๊กจำเป็นในเกมนี้ทั้งคู่แถมยังแทบไม่เคยลงเล่นคู่กันเลย

กลายเป็นอาร์เตต้าต้องเจอกับปัญหาให้ต้องปรับแก้ทั้งก่อนเตะและระหว่างเตะโดยไม่คาดคิด

หลังจาก กาเบรียล เจ็บต้องเปลี่ยนตัวออกไปในนาทีที่ 54 เกมก็ค่อย ๆ ขยับเป็นของลิเวอร์พูล ชล็อตเติมความสดชื่นลงไปในอีก 10 นาทีให้หลังด้วย คอสตาส ซิมิกาส, คักโป และ โซโบซไล

เกมค่อย ๆ ตกเป็นของลิเวอร์พูลมากขึ้นจนกระทั่งสบโอกาสตีเสมอได้อีกครั้ง

ประตูนี้ต้องชมความเข้าใจสถานการณ์ของทั้ง ซาลาห์ และ ดาร์วิน นูนเญซ

บอลวางยาวทีเผลอจาก เทรนต์ อเล็กซานเดอร์-อาร์โนลด์ ข้ามแนวรับเจ้าถิ่น มันไปตกตรงจุดเกรงใจระหว่าง ซาลาห์ กับ ดาร์วิน แต่สิ่งที่เกิดขึ้นตามมาคือความต่อเนื่องไม่เสียจังหวะอย่างที่เรามักจะเห็นกันบ่อย ๆ

ซาลาห์อาจจะไม่มั่นใจว่าตัวเองล้ำหน้าไหม แต่ที่แน่ ๆ คือเขามองเห็นตำแหน่งของดาร์วินว่าไม่ล้ำหน้าแน่นอน ดาวเตะอียิปต์จึงวิ่งตัดเข้ากลางในทันทีที่เห็นหัวหอกอุรุกวัยแสดงท่าทีว่าจะไปเล่นบอลยาวลูกนี้ของเทรนต์เอง

ความเข้าใจกันจังหวะนี้คือเรื่องน่าพอใจ บอลไม่สะดุดจากความลังเลระหว่างกัน และสุดท้ายมันก็จบด้วยประตูของซาลาห์จากการไหลให้ของดาร์วิน

หนึ่งคะแนนในเกมนี้ถือเป็นแต้มใหญ่ของลิเวอร์พูล เดอะค็อปหลายคนอาจเสียดายที่ทีมไม่โหมบุกเอาประตูที่สามหลังจากตีเสมอ 2-2 และดูเหมือนโมเมนตัมจะสวิงมาอยู่กับฝั่งตัวเอง ประกอบกับอาร์เซน่อลมีปัญหาในเกมรับ

แต่เราไม่ควรลืมว่าแม้ทีมปืนใหญ่จะมีปัญหาเกิดขึ้นในเกมรับ ทว่าพวกเขาไม่ได้มีปัญหาอะไรในเกมรุก นักเตะด้านบนของอาร์เตต้ายังสามารถคายพิษสงได้ทุกเมื่อ

บอลจ่ายเสี่ยงของโกนาเต้ในช่วงท้ายเกมคือตัวอย่างที่ชัดเจน จังหวะนั้น อิบู ที่เล่นดีมาตลอดทั้งเกมจนเป็นแมนออฟเดอะแมตช์รับบอลจาก ฟาน ไดค์ แล้วตัดสินใจแทงขึ้นหน้าแบบได้เสีย

พื้นที่เป้าหมายตรงนั้นมีนักเตะอาร์เซน่อลยืนคุมอยู่และแทบไม่มีช่องได้เปรียบเลย ผลคือถูกตัดบอลได้และมันถูกส่งต่อเป็นทอด ๆ ก่อนจบลงด้วยการได้ยิงของเจ้าถิ่น

ถ้าลูกนั้นเสียประตู ลิเวอร์พูลก็จะได้แต่โทษตัวเองว่าความไม่ละเอียดเพียงครั้งเดียวฆ่าคุณได้

เราจึงเห็นการเล่นอย่างระมัดระวังตลอดเวลา ไม่โหมบุกจนหลังลอย ไม่เร่งสปีดเกมจนเร็วเหมือนขับรถแข่ง นี่คือสิ่งที่ ชล็อต ใส่ลงไปในทัศนคติของลูกทีม คือรักษาความเยือกเย็น อ่านสถานการณ์ คำนวนความได้คุ้มความเสีย ไม่เล่นเสี่ยงโดยไม่จำเป็น

โจทย์ยาก ๆ ของเทอมสองผ่านไป 3 ข้อแล้วทั้งในลีกและยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ ลีก ลิเวอร์พูลยังไปได้ดีและน่าจะทำให้กองเชียร์คลายความกังวลลงไปไม่น้อย

4 คะแนนจากเชลซีที่แอนฟิลด์และอาร์เซน่อลที่เอมิเรตส์ สเตเดี้ยม บวกอีก 3 แต้มจากแอร์เบ ไลป์ซิก ที่ไลป์ซิก การจัดการหมุนเวียนนักเตะลงสนาม ทั้งการเลือกคนลงเล่นตั้งแต่ต้นเกมและเลือกเปลี่ยนตัวออก.. ไม่มีอะไรที่น่าผิดหวัง

ยังเหลือภารกิจยาก ๆ ให้ลิเวอร์พูลทำก่อนถึงฟีฟ่าเดย์เดือนหน้า แต่อย่างน้อยการได้เล่นในบ้านเรียบวุธกับไบรท์ตัน ไบเออร์ เลเวอร์คูเซ่น และ แอสตัน วิลล่า ก็ช่วยบรรเทาความกังวลไปได้มาก (มีเกมเยือน 1 เกมในลีก คัพกับ ไบรท์ตัน คืนวันพุธนี้)

ขณะที่อาร์เซน่อล.. โปรแกรมที่รอพวกเขาอยู่เข้าขั้นโหดหินโดยเฉพาะอย่างยิ่งเมื่อประกอบเข้ากับสถานการณ์เรื่องปัญหาบาดเจ็บเวลานี้

ทีมปืนใหญ่ต้องเล่นเกมเยือน 4 นัดติดทั้ง เปรสตัน นอร์ธเอนด์ ในลีก คัพ นิวคาสเซิ่ล ยูไนเต็ด กับ เชลซี ในพรีเมียร์ลีก และอินเตอร์ มิลาน ในแชมเปี้ยนส์ ลีก

เส้นทางยังอีกยาวไกล และทุก ๆ ทีมต่างก็เจอโจทย์ยากง่ายให้ต้องแก้ด้วยกันทั้งนั้นล่ะครับ

ตังกุย