เวสต์แฮม พบ แมนยู! 5 ประเด็นวีเออาร์พ่นพิษทำผีบุกพ่ายค้อน

1. ค้อนไร้ กูดุส ติดโทษแบน

เวสต์แฮม ภายใต้การคุมทีมของ จูเลน โลเปเตกี ไม่อาจใช้งาน โมฮัมเหม็ด กูดุส ได้เนื่องจากดาวยิงทีมชาติ กาน่า เริ่มต้นชดใช้โทษแบนสามเกมหลังได้ใบแดงแมตช์บุกไปแพ้ สเปอร์ส 4-1

รวมแล้วเจ้าบ้านปรับทัพ 11 คนแรกสี่รายโดยมี ลูคัส ฟาเบียนสกี้ เฝ้าเสาแทน อัลฟงส์ อเรโอล่า ขณะที่่ การ์ลอส โซเลร์ , คอนสแตนตินอส มาฟโรปานอส , เอดินสัน อัลวาเรซ ได้ออกสตาร์ตก่อนหน้า ฌอง แคลร์ โตดิโบ , โทมัส ซูเช็ก

ในรายของ เอเมอร์สัน พัลเมียรี่ ลงเล่นเกม พรีเมียร์ลีก เป็นนัดที่ 100 พอดี

พร้อมกันนี้ ฟาเบียนสกี้ ในวัย 39 ปีกลายเป็นผู้รักษาประตูอายุมากที่สุดใน พรีเมียร์ลีก ซีซั่นนี้ที่ได้ลงสนามโดยเจ้าตัวซึ่งได้ออกสตาร์ตเป็นเกมแรกของซีซั่นจะมีอายุ 40 ปีในเดือนเม.ย.

2. ผีได้กัปตันคัมแบ็ค

แมนฯ ยูไนเต็ด โรเตชั่นทีมเช่นกันโดยเฉพาะการได้ บรูโน่ แฟร์นันด์ส ลงสนามหลังกัปตันทีมโดนแบนลงเล่นเกม ยูโรปาลีก นัดบุกไปเสมอกับ เฟเนบาห์เช่ 1-1 ไม่ได้

อย่างไรก็ดี เอริค เทน ฮาก นายใหญ่ทีมเยือนสร้างความน่ากังขาอีกหนที่ดร็อป มานูเอล อูการ์เต้ นั่งเป็นตัวสำรองทั้งๆที่กองกลางทีมชาติ อุรุกวัย โชว์ฟอร์มได้เยี่ยมเมื่อกลางสัปดาห์จากการได้ลงเล่นเป็นตัวจริง

นอกจาก กาเซมีโร่ ที่กลับมาออกสตาร์ตแล้ว โจชัว เซิร์กซี่ เสียตำแหน่งตามคาดให้กับ ราสมุส ฮอยลุนด์

ขณะเดียวกันถือเป็นเกมแรกในซีซั่นนี้ที่กุนซือดัตช์สลับให้ มาซราวี ลงเล่นเป็นแบ็คซ้ายโดยย้าย ดีโอโก้ ดาโลต์ ไปสวมบทแบ็คขวา

3. ค้อนหนังเหนียวหรือผีทื่อจัด ?

แมนฯ ยูไนเต็ด ทิ้งโอกาสนำหน้า เวสต์แฮม ในครึ่งแรกหลายครั้งหลายคราทั้งจังหวะซัดบอลไปชนคานของ อเลฮานโดร การ์นาโช่ ตั้งแต่สามนาทีแรก และโดยเฉพาะอย่างยิ่งโอกาสทองของ ดาโลต์ ที่ แฟร์นันด์ส ตักให้หลุดเดี่ยวโดยกองหลังเลือดฝอยทองกระดกบอลข้าม ฟาเบียนสกี้ ได้แล้ว แต่กลับซัดออกนอกกรอบเหลือเชื่อทั้งๆที่มันต้องเป็นประตูสถานเดียว

จากนั้นก่อนจบครึ่งแรกอึดใจเดียว ผีแดง ชวดได้สกอร์อีกเมื่อ คริสเตียน เอริคเซ่น โยนฟรีคิกจากกราบซ้ายไปหน้าประตูให้ กาเซมีโร่ โขก แต่โดน ฟาเบียนสกี้ ปัดได้จึงทำให้ ขุนค้อน ยันเสมอ 0-0 ได้สำเร็จ

จากผลลัพธ์ดังกล่าวฟ้องให้เห็นว่า ผีแดง ยังต้องปรับปรุงปัญหาการจบสกอร์ให้ได้เป็นอันดับแรกเนื่องจากพวกเขาไม่เคยสอยตาข่ายในเกม พรีเมียร์ลีก ซีซั่นนี้ได้เลยในช่วง 35 นาทีแรกทั้งๆที่เกมนี้ทีมของ เทน ฮาก น่าจะมีสกอร์นำสองหรือสามประตูอันรวมถึงจังหวะยิงระยะเผาขนของ ฮอยลุนด์ ด้วย แต่เป็นระยะประชิดเกินไปจึงทำให้ ฟาเบียนสกี้ บล็อกได้ทัน

4. ครึ่งหลังหนังคนละม้วน

หลังรอดตายในครึ่งแรก โลเปเตกี กุนซือเลือดกระทิงดุแก้เกมก่อนออกสตาร์ตครึ่งหลังทันทีด้วยการเปลี่ยนตัวสำรองลงเล่นรวดเดียวสามรายทั้ง แคลร์ โตดิโบ , ซูเช็ก และ คริเซนซิโอ ซัมเมอร์วิลล์ ที่ได้เล่นแทน ลูกัส ปาเกต้า , โซแลร์ และ มาฟโรปานอส

ฉับพลันทันใด เกมของเจ้าบ้านที่แย่กว่าอย่างชัดเจนใน 45 นาทีแรกก็พลิกมาเป็นการบุกเข้าหาพื้นที่ของทีมเยือนได้ดีขึ้นเป็นลำดับจนในที่สุด การเปลี่ยนตัวสำรองของ เดอะ แฮมเมอร์ส ก็ส่งผลทำให้พวกเขานำหน้า 1-0 ในนาทีที่ 74

ที่เป็นอย่างนั้นก็เพราะ แดนนี่ อิงส์ ตัวสำรองของ เวสต์แฮม อีกรายที่ได้ลงเล่นแทน มิคาอิล อันโตนิโอ ก่อนหน้านั้นไม่นานมีส่วนแอสซิสต์ให้ ซัมเมอร์วิลล์ เข้าฮอสพา ขุนค้อน นำ 1-0 ซึ่งส่งสัญญาณให้ เทน ฮาก จำเป็นต้องแก้เกมเช่นกัน

กระทั่งนาทีที่ 80 แมนฯ ยูไนเต็ด ก็ตีเสมอได้จากการแอสซิสต์ของ เซิร์กซี่ ที่ถูกส่งลงไปแทน เอริคเซ่น โดยกองหน้าดัตช์เปิดทางให้ กาเซมีโร่ โขกเปลี่ยนสกอร์เป็น 1-1 อันทำให้เป็นเรื่องยากแก่การคาดเดาว่าเกมจะจบลงด้วยสกอร์ไหน

5. ดราม่าวีเออาร์ 

อย่างไรก็ดี เข้าสู่ช่วงทดเวลานาทีที่ 92 ผู้ตัดสินออกไปดูจอมอนิเตอร์ข้างสนามแล้วมอบลูกโทษให้ เวสต์แฮม อย่างน่าเห็นใจ แมนฯ ยูไนเต็ด ไม่น้อยเนื่องจากเข่าของ เดอ ลิกต์ ชนกับเข่าของ อิงส์ จนล้มในเขตโทษชนิดที่ไม่ได้ตั้งใจโดยเป็นอุบัติเหตุมากกว่า

ยิ่งไปกว่านั้น เดอ ลิกต์ โวยว่า อิงส์ ทำแฮนด์บอลก่อนล้มแผละด้วย แต่ท่านเปาไม่สนใจที่จะกลับคำตัดสิน และมอบลูกโทษให้ เดอะ แฮมเมอร์ส โดย จาร์ร็อด โบเว่น กัปตันเจ้าบ้านสังหารให้ทีมเมืองหลวงกำชัย 2-1

จากจังหวะที่น่ากังขาดังกล่าวเชื่อได้เลยว่าหลังเกมจบลง เทน ฮาก ไม่มีทางพอใจสิงห์เชิ้ตดำแน่นอนจากการมอบลูกโทษให้ เดอะ แฮมเมอร์ส ที่เรียกกันว่า Soft Penalty ซึ่งเกิดขึ้นบ่อยเหลือเกินในเกมลีกเมืองผู้ดี และส่งผลให้ทีมฝ่ายใดฝ่ายหนึ่งได้รับความเสียหาย