เกม ยูโรปา ลีก เมื่อคืนที่ แมนยูไนเต็ด ทำได้แค่ออกไปเสมอ เฟเนร์บาห์เช่ 1-1
อดีตตำนาน แมนยู อย่าง พอล สโคลส์ เป็นตัวแทนเด็กผี สับแหลก เอริค เทน ฮาก ออกสื่อไว้แบบตรงไปตรงมา เมื่อไปเป็นนักวิจารณ์ผ่านช่อง ทีเอ็นที สปอร์ต
ตำนานมิดฟิลด์หัวแดงเพลิงบ่นยับถึงการตัดสินใจจัดตัวแบบอินดี้ของกุนซือชาวดัตช์ ที่ไม่ส่ง คาเซมิโร่ ลงเป็น 11 คนแรก แล้วใช้ นุสแซร์ มัซราอุย ลงตัวจริงตำแหน่งมิดฟิลด์ตัวรุก แถมยังดร็อปกองหน้าที่ฟอร์มกำลังดีอย่าง ราสมุส ฮอยลุนด์ ไปนั่งสำรองซะอย่างนั้น เพื่อให้ โจชัว เซิร์คเซ่ ลงเล่นตั้งแต่นาทีแรก
"เอา คาเซมิโร่ ลง เอา เอริคเซ่น ขึ้นไปข้างหน้า แล้วเอา ฮอยลุนด์ ลงสิวะ!"
"เขาอยู่ในช่วงที่จำเป็นต้องชนะ คุณต้องส่งนักเตะที่ดีที่สุดของคุณลง!"
เกมที่อิสตันบูลเมื่อคืนวันพฤหัสบดี ชัดเจนว่าการตัดสินใจของ เทน ฮาก ไม่ถูกต้องนะครับ
มัซราวี ทำได้ไม่ดีกับบทบาทหมายเลข 10 ส่วน เซิร์คเซ่ ก็ทำได้แค่ขึ้นไปเดินแปะบอลไปแปะมา ไม่มีอานุภาพทำลายล้างตาข่ายคู่แข่ง
แถม วิคตอร์ ลินเดอเลิฟ ที่ได้ลงยืนเป็นเซนเตอร์แบ็กตัวจริง จากการที่ เทน ฮาก เลือกดัน มัซราอุย ขึ้นสูง แล้วใช้ ลิซานโดร มาร์ติเนซ เล่นแบ็กซ้าย ก็ก่อความผิดพลาด ปล่อยบอลลอยผ่านตัวเอง ให้กองหน้าคู่แข่งโหม่งตีเสมอง่ายๆ
สุดท้ายยังไม่ทันครบหนึ่งชั่วโมงของเกม พี่โล้นของเราก็ต้องถอด ลินเดอเลิฟ และ เซิร์คเซ่ ที่เล่นได้แย่ออกมา แล้วส่ง คาเซมิโร่ กับ ฮอยลุนด์ ลงสนาม เกมถึงจะดีขึ้น
ไม่มีใครรู้ว่าถ้าหาก เอริค เทน ฮาก จัดตัวแบบไม่ขัดใจแฟนบอลแต่แรก เขาจะทำให้ทีมบุกชนะ เฟเนร์บาห์เช่ ได้หรือเปล่า แต่ที่เห็นๆ เลยคือการตัดสินใจตอนแรกของเขาที่คิดนอกกรอบ มันไม่เข้าท่าอย่างแรง
พอล สโคลส์ ยังวิจารณ์ต่อไปอีกว่า แมนยูไนเต็ด ภายใต้การคุมทีมของ เทน ฮาก ทำผลงานโดยรวมได้ห่วยแตกอย่างชัดเจน
"ผมยังไม่เห็นพัฒนาการอะไรเลย ผมคิดว่าพวกเขาเคยเล่นได้โอเคอยู่บ้าง และเคยพลาดโอกาสไปเยอะเช่นกัน แต่อันดับในลีกมันบอกคุณทุกอย่าง"
"อันดับ 11 ในพรีเมียร์ลีก และอันดับ 21 ใน ยูโรปา ลีก"
"มันไม่มีพัฒนาการ และนั่นคือเรื่องน่าผิดหวังที่สุด เราผ่านมาแล้วกว่า 2 ปี เงินจำนวนมากถูกผลาญ และเรายังไม่เห็นการปรับปรุงแก้ไขเลย"
"คุณอาจจะคิดว่าถึงตอนนี้ พวกเขาน่าจะยกระดับไปท้าทายกับ ลิเวอร์พูล, แมนซิตี้ และ อาร์เซน่อล ได้แล้ว แต่มันไม่ได้รู้สึกแบบนั้นเลย"
ตำแหน่งแชมป์ คาราบาว คัพ และ เอฟเอ คัพ ใน 2 ปีที่ผ่านมา ถือว่าไม่เพียงพอต่อการสอบผ่านนะครับ อันดับในลีกนั่นแหละ ที่เป็นตัวบ่งบอกว่าผลงานโดยรวม มันอยู่ตรงไหน
ในพรีเมียร์ลีก เข้าใจว่าคงยากที่จะไปสู้กับทีมที่ยกระดับนำหน้าไปไกลกว่าตั้งหลายปี แต่การอยู่แค่อันดับ 21 ใน ยูโรปา ลีก ตอนนี้ ถือว่าน่าเกลียดสุดๆ
เพราะหากดูจากชื่อชั้นแต่ละทีมที่มาเล่น ยูโรปา ลีก ในฤดูกาลนี้ โดยไม่มีเจ้าพ่อถ้วยนี้อย่าง เซบีย่า มาร่วมวงสังคายนาด้วย แถมรูปแบบการแข่งขันใหม่ที่ยูฟ่าเพิ่งเริ่มปรับใช้ ที่ไม่มีทีมจาก ยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ ลีก ตกลงมาเป็นก้างขวางคอในรอบน็อคเอาท์ มันน่าจะเพิ่มโอกาสให้ แมนยูไนเต็ด ลุ้นแชมป์ได้ง่ายขึ้น
แต่สถานการณ์ตอนนี้ กลายเป็นว่าขอแค่ชนะก่อนสักนัดยังทำไม่ได้ และไม่รู้ว่าจะมีปัญญาผ่านรอบ ลีก เฟส ไปได้ไหม
ถ้าไปดูอันดับตารางคะแนน ยูโรปา ลีก ตอนนี้ แมนยูไนเต็ด ตามหลังอันดับ 8 ซึ่งเป็นโควตาสุดท้ายที่จะได้เข้ารอบ 16 ทีมโดยไม่ต้องเหนื่อยไปเพลย์ออฟถึง 6 แต้ม
โปรแกรมเหลืออีก 5 นัด ซึ่งจริงๆ แล้วถ้าดูตามหน้าเสื่อ เอริค เทน ฮาก ควรพา แมนยู ชนะเกมที่เหลือทั้งหมด ที่เจอกับทีมอย่าง พีเอโอเค, โบโด/กลิมท์, วิคตอเรีย พัลเซ่น, เรนเจอร์ส และ เอฟซีเอสบี
มันไม่น่าจะเป็นเรื่องที่ยากเกินไป หรือแฟนบอลต้องมาลุ้นกันหนักอีกแล้ว กับการเอาชนะทีมแบบนี้
ผมยังเชื่อว่า แมนยูไนเต็ด น่าจะดีพอติด 24 อันดับแรกไปลุ้นเพลย์ออฟได้
แต่ถ้าหาก แมนยู ยังผิดพลาด ทำชัยชนะหลุดมือกันง่ายๆ แล้วผู้จัดการทีมยังมีหน้ามาให้สัมภาษณ์หลังจบเกม ว่าผลเสมอมันไม่ใช่เรื่องแย่ต่อไป พวกเขาจะคุ้นเคยกับการเป็นทีมที่มีข้ออ้างเวลาไม่ชนะมากขึ้นเรื่อยๆ
นั่นแหละที่จะเป็นเรื่องที่เลวร้ายกว่าการตกรอบเสียอีก เพราะยิ่งเวลาผ่านไป แมนยูไนเต็ด จะยิ่งเซตมาตรฐานตัวเองให้ยิ่งต่ำลง
แล้วถ้าทัศนคติของผู้จัดการทีมยังเอาแต่หาทางไม่แพ้ไปวันๆ มันก็จะกลายเป็นทีมไร้การพัฒนาแบบที่ พอล สโคลส์ ว่าไว้นั่นแหละ
คิดแล้วก็หดหู่ & ห่อเหี่ยวยิ่งนัก !!!