ลุ้น เทน ฮาก, ลิเวอร์พูล ไหวไหม ! 10 เรื่องเด็ดเกมพรีเมียร์ลีก สุดสัปดาห์นี้

ลุ้น เทน ฮาก, ลิเวอร์พูล ไหวไหม ! 10 เรื่องเด็ดเกมพรีเมียร์ลีก สุดสัปดาห์นี้
เกมพรีเมียร์ลีก อังกฤษ ช่วงสุดสัปดาห์นี้ มีเรื่องที่น่าสนใจมากมาย ทั้งอนาคตของ เอริค เทน ฮาก หรือบททดสอบสำคัญ ลิเวอร์พูล เป็นต้น

หลังจากหมดช่วงพักเบรกทีมชาติ บรรดแฟนบอลพรีเมียร์ลีก อังกฤษ จะได้พบกับเรื่องน่าตื่นเต้นในเกมลีกช่วงปลายสัปดาห์นี้ ซึ่งอาจจะเกิดการเปลี่ยนแปลงบางอย่างได้เลยทีเดียว 

โปรแกรมในช่วงสุดสัปดาห์นี้ต้องบอกว่ามีหลายแมตช์ที่น่าสนใจมากๆ อาทิเช่น ลิเวอร์พูล เปิดรังแอนฟิลด์ต้อนรับการมาเยือนของ "สิงโตน้ำเงินคราม" เชลซี ในวันอาทิตย์ที่ 20 ตุลาคม ซึ่งจะเป็นบททดสอบสำคัญของ อาร์เน่อ สล็อต หลังพา "หงส์แดง" คว้าชัยชนะ 6 จาก 7 เกม รั้งจ่าฝูงในเวลานี้ 

ส่วนเกมที่หลายคนสนใจไม่ยิ่งหย่อนไปกว่ากันก็คือ แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด พบ เบรนท์ฟอร์ด ที่โอลด์ แทร็ฟฟอร์ด วันเสาร์นี้ อาจจะเป็นแมตช์ชี้ชะตาอนาคตการกุมบังเหียนของ เอริค เทน ฮาก ก็ได้

นอกจากนี้ยังมีประเด็นที่น่าตื่นเต้นอีกมากมายที่คงทำให้คอลูกหนังลีกสูงสุดต้องตั้งตาคอย ส่วนจะมีเรื่องอะไรกันบ้างลองไปพิจารณากันได้เลย

1. ลอนดอน ดาร์บี้

เกมเปิดหัวประจำสัปดาห์นี้ ถือเป็นแมตช์เรื่องน้ำย่อยสำหรับแฟนบอลได้เลย เพราะมันเป็นศึกลอนดอน ดาร์บี้ ระหว่าง ท็อตแน่ม ฮ็อทสเปอร์ พบ "ขุนค้อน" เวสต์แฮม ยูไนเต็ด  

ทั้งสองทีมออกสตาร์ตในฤดูกาลนี้ไม่ค่อยแตกต่างกันมากนัก โดยพวกเขามีคะแนนห่างกันแค่ 2 แต้มเท่านั้น สำหรับ สเปอร์ส บางแมตช์ก็ทำผลงานได้น่าประทับใจ อย่างเช่นเกมทุบ แมนยูไนเต็ด แต่กระนั้นพวกเขาก็ฟอร์มหลุดทั้งๆ ที่นำสองประตูในเกมแพ้ ไบรท์ตัน 2-3 

ขณะที่ทีมของ จูเลน โลเปเตกี ก็ยังไม่สามารถปลุกปั้น เวสต์แฮม ให้ดีขึ้นได้นับตั้งแต่ที่ทีมแยกทางกับ เดวิด มอยส์ เมื่อช่วงซัมเมอร์ที่ผ่านมา ดังนั้นนี่คือเกมที่จะเรียกความมั่นใจให้กับทั้งสองทีม หลังฟอร์มลุ่มๆ ดอนๆ ก่อนพักเบรกทีมชาติล่าสุด

2. เทน ฮาก ต้องชนะ

สำหรับเกมที่น่าสนใจมากๆ ซึ่งถูกจับตามองเป็นพิเศษคงหนีไม่พ้นเกมที่ แมนยูไนเต็ด ต้องรับมือ เบรนท์ฟอร์ด ในถิ่นโอลด์ แทร็ฟฟอร์ด เพราะมันอาจจะชี้ชะตาชีวิตของ เทน ฮาก ได้เลยทีเดียว

ทัพ "อสูรแดง" พร้อมถือสามง่ามไล่ทิ่มแทง "ผึ้งน้อย" ใน "โรงละครแห่งความฝัน" เพราะนี่ถือเป็นเกมที่ เทน ฮาก เต็มไปด้วยแรงกดดันมหาศาล หลังจากที่พวกเขาออกสตาร์ทได้ย่ำแย่เหลือเกิน โดยรั้งอันดับ 14 มี 8 คะแนนเท่านั้น

ยังไม่หมดแค่นั้น แมนยู สะกดคำว่าชนะไม่เป็น 5 แมตช์หลังสุดในทุกรายการ ดังนั้นอนาคตของ เทน ฮาก อาจจะขึ้นอยู่กับแมตช์นี้ เพราะถ้าไม่สามารถคว้าสามคะแนนได้ นั่นอาจจะเป็นฟางเส้นสุดท้ายที่บอร์ดบริหารจะอดทนกับ กุนซือชาวดัตช์

ขณะที่ เบรนท์ฟอร์ด ผลงานก็อาจไม่โดดเด่นแต่ก็ไม่เลวร้าย เพราะ 7 เกมที่ผ่านมา "เดอะ บีส์" เก็บได้ 10 คะแนน และมีอันดับเหนือกว่า แมนยูไนเต็ด ฉะนั้นถ้าทีมเยือนชนะ อาจจะทำให้เวลาของ เทน ฮาก กับ แมนยู จบลงแค่นี้ก็ได้ 

3. อีแวนส์ กับบทบาทใหม่ในวัย 36 ปี 

ด้วยสถานการณ์ของ แมนยูไนเต็ด ตอนนี้นอกจากฟอร์มการเล่นที่ย่ำแย่แล้ว พวกเขายังเจอกับปัญหานักเตะบาดเจ็บ โดยล่าสุด จอนนี่ อีแวนส์ อาจจะต้องโดนขยับไปเล่นตำแหน่งแบ็กซ้ายจำเป็น !!!

ลุค ชอว์ และ ไทเรลล์ มาลาเซีย ยังไม่สามารถลงสนามให้ "ปีศาจแดง" ในฤดูกาลนี้ ขณะที่ นุสแซร์ มาซราวี ยังอยู่ในกระบวนการรักษาปัญหาหัวใจเมื่อช่วงสัปดาห์ที่ผ่านมา และไม่สามารถลงสนามในเกมพบ เบรนท์ฟอร์ด 

งานนี้ใครจะต้องลงมาทำหน้าที่แบ็กซ้ายล่ะ ? มีความเป็นไปได้สูงว่า อีแวนส์ วัย 36 ปีจะได้ลงไปทำหน้าที่นี้ โดยปราการหลังจอมเก๋า มีส่วนสำคัญในการช่วยทำให้เกมรับ "ผีแดง" แข็งแกร่งในแมตช์เสมอ แอสตัน วิลล่า 0-0 ฉะนั้นนี่คือความท้าทายใหม่ของเจ้าตัว 

มันเป็นเรื่องยากที่จะเห็น อีแวนส์ ขึ้นไปเติมเกมบุกร่วมกับ มาร์คัส แรชฟอร์ด แต่นี่คือผู้เล่นที่มีความคงเส้นคงวาที่สุด นับตั้งแต่ที่หวนกลับมารับใช้สโมสรอีกครั้ง และงานนี้ เทน ฮาก จำเป็นต้องไว้วางใจศักยภาพของเจ้าตัวเพื่อช่วยปัญหาแบ็กซ้ายชั่วคราว 

4. ทีมหนีตกชั้นสู้กันเอง

สถานการณ์ในการหนีตกชั้นก็น่าสนใจเช่นกัน โดยในช่วงสุดสัปดาห์นี้บรรดาทีมที่้ต้องดิ้นรนเพื่อเก็บคะแนนขยับอันดับของตัวเอง หรือทำให้สถานการณ์ในการหนีตกชั้นผ่อนคลายมากขึ้น

เกมวันเสาร์นี้ เลสเตอร์ ซิตี้ ต้องเดินทางไปเยือน เซาธ์แฮมป์ตัน ที่เซนต์ แมรี่ส์ ขณะที่ อิปสวิช ทาวน์ รับมือ "ทอฟฟี่สีน้ำเงิน" เอฟเวอร์ตัน แน่นอนว่าการคว้าชัยชนะจะทำให้สถานการณ์เริ่มดีขึ้น 

อย่างไรก็ตาม ด้วยฟอร์มการเล่นของ เซาธ์แฮมป์ตัน, อิปสวิช, เอฟเวอร์ตัน และ เลสเตอร์ ถือว่ายังไม่มีความแน่นอน ฉะนั้นถ้าหากทีมใดสามารถดึงศักยภาพออกมาได้ โอกาสจะคว้าสามคะแนนก็มีค่อนข้างสูง 

5. เบน เบรเรตัน ดีอาซ จะคว้าชัยได้หรือยัง ?

เบน เบรเรตัน ดีอาซ กองหน้าเซาธ์แฮมป์ตัน ลงสนามไปแล้ว 20 เกมโดยที่ยังไม่สามารถเก็บชัยชนะในเกมพรีเมียร์ลีกได้เลย โดยนักเตะใช้เวลาช่วยครึ่งซีซั่นหลังเมื่อฤดูกาลที่ผ่านมาถูกส่งไปเล่นยืมตัวกับ เชฟฟิลด์ ยูไนเต็ด ก่อนที่ "ดาบคู่" จะร่วมตกชั้น 

สำหรับตอนนี้ เบรเรตัน ดีอาซ กลับมารับใช้ต้นสังกัดแม่แล้ว และผลงานก็ไม่ได้ดีขึ้นไปกว่าเดิมเลย เขาครองสถิติไม่สามารถนำทีมคว้าชัยชนะในลีกสูงสุดยาวนานที่สุด โดยผู้เล่นที่ใกล้เคียงกับสถิติที่น่าสยดสยองนี้ก็คือ มาร์วิน ซอร์เดลล์ ที่ทำเอาไว้ 17 แมตช์ 

งานนี้ต้องมาลุ้นกันว่า เบรเรตัน ดีอาซ จะยืดสถิติที่เลวร้ายนี้ออกไปเป็น 21 แมตช์หรือไม่ หรือเขาจะยุติสถิติที่ไม่น่าจดจำนี้เอาไว้ในเกมที่จะรับมือ เลสเตอร์ วันเสาร์ที่ 19 ต.ค. ซึ่งเชื่อว่าทัพ "นักบุญ" อยากได้อย่างหลังมากกว่า 

6. การกลับคืนสนามของสตาร์บางคน 

แฟนบอลทุกคนอยากเห็นนักเตะที่ดีที่สุดลงสนามเสมอ และในช่วงสุดสัปดาห์นี้มีสตาร์ชั้นนำบางคนอาจจะหายจากอาการบาดเจ็บ และฟิตสมบูรณ์เพื่อลงสนามช่วยต้นสังกัด 

เควิน เดอ บรอยน์ พลาดลงสนามให้ แมนเชสเตอร์ ซิตี้ หลายสัปดาห์ที่ผ่านมา แต่ทัพ "เรือใบสีฟ้า" คาดว่าจะได้ จอมทัพทีมชาติเบลเยียม กลับมาช่วยปั้นเกมในแดนกลางแมตช์พบ วูล์ฟแฮมป์ตัน ที่โมลินิกซ์ กราวนด์ วันอาทิตย์นี้

ขณะที่ ซน ฮึง-มิน กองหน้ากัปตันทีมสเปอร์ส ใกล้จะหายเจ็บกล้ามเนื้อหลังต้นขาแล้ว ส่วน อเล็กซานเดอร์ อิซัค และ คัลลั่ม วิลสัน สองสตาร์นิวคาสเซิ่ล ยูไนเต็ด อาจจะฟิตสมบูรณ์ในเกมพบ ไบรท์ตัน ก็ได้ 

7. อาร์เซน่อล รับมือแข้งเจ็บได้ไหม ?

 หนึ่งทีมที่เจอกับปัญหานักเตะคีย์แมนหลายคนบาดเจ็บนั่นก็คือ อาร์เซน่อล โดยพวกเขาไม่มี มาร์ติน โอเดอการ์ด เพลย์เมกเกอร์กัปตันทีม และ เบน ไวท์ ก่อนช่วงพักเบรกทีมชาติล่าสุด 

ขณะที่ บูกาโย่ ซาก้า และ กาเบรียล มาร์ติเนลลี่ ก็โดนโรคเดี้ยงเล่นงานขณะที่ช่วยทีมชาติอังกฤษ กับ บราซิล ตามลำดับ งานนี้ มิเกล อาร์เตต้า ผู้จัดการทีม อาจไม่มีนักเตะตัวเลือกแรกในตำแหน่งแนวรุกริมเส้นทั้งสองฝั่ง รวมทั้งขาดเพลย์เมกเกอร์สำคัญในเกมเยือน บอร์นมัธ ช่วงเย็นวันอาทิตย์นี้

อาร์เซน่อล ถือเป็นสโมสรที่โชคดีมากๆ ที่ไม่ค่อยมีนักเตะบาดเจ็บเมื่อฤดูกาลที่ผ่านมา นั่นทำให้ทัพ "เดอะ กันเนอร์ส" สามารถไล่กดดัน แมนเชสเตอร์ ซิตี้ ในการลุ้นแชมป์ลีกจนกระทั่งจบซีซั่น 

"ปืนใหญ่" ต้องเจอกับความท้าทายในเรื่องนี้ช่วงสัปดาห์แรกๆ ของซีซั่นนี้ และนี่จะเป็นบทพิสูจน์ของ อาร์เซน่อล ว่าสามารถรับมือกับสถานการณ์แบบนี้ได้ดีแค่ไหน รวมทั้งไล่บี้เบียดลุ้นแชมป์กับบรรดาคู่แข่งไปจนกระทั่งวันสุดท้ายของลีกไหม 

8. ปืนใหญ่กับโอกาสคว้าชัยชนะ 2,000 เกม

อาร์เซน่อล มีโอกาสที่จะกลายเป็นทีมอันดับที่สองที่สามารถคว้าชัยชนะครบ 2,000 แมตช์ในลีกสูงสุดถ้าหากพวกเขาสามารถคว่ำ บอร์นมัธ ในเกมพรีเมียร์ลีก อังกฤษ วันเสาร์นี้ได้ 

ลิเวอร์พูล เป็นสโมสรแรกที่สามารถคว้าชัยชนะครบ 2,000 เกมเมื่อ 2-3 ฤดูกาลก่อน โดยปัจจุบันพวกเขาคว้าชัยในลีกไปแล้ว 2,065 แมตช์ ส่วน แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด อยู่อันดับ 3 คว้าชัยไปแล้ว 1,908 เกม

ส่วน เอฟเวอร์ตัน ทำเอาไว้ 1,900 เกม และ แอสตัน วิลล่า จำนวน 1,723 แมตช์ ที่ติดอยู่ท็อปไฟว์ แน่นอนว่า อาร์เตต้า คงมีสมาธิในการนำ อาร์เซน่อล คว้าชัยชนะเกมนี้ให้ได้ และถ้าหากทำสำเร็จนั่นจะเป็นการสร้างประวัติศาสตร์ที่ยิ่งใหญ่ของ "เดอะ กันเนอร์ส" อย่างแท้จริง 

9. ฮาลันด์ ได้เจอกับทีมที่ยิงประจำ

เออร์ลิง ฮาลันด์ ยิงประตูได้เป็นกอบเป็นกำในการสู้กับทุกทีม แต่ทีมที่โดนเจ้าตัวส่งบอลเข้าไปซุกก้นตาข่ายบ่อยเป็นพิเศษก็คือ วูล์ฟแฮมป์ตัน วันเดอเรอร์ส ซึ่งถือเป็นทีมที่เจ้าตัวรักที่จะยิงประตูซะเหลือเกิน

เพียงแค่สี่แมตช์ที่ได้ดวลกับทัพ "หมาป่า" สตาร์กองหน้าทีมชาตินอร์เวย์ ก็ตะบันไปแล้ว 8 ประตู นั่นถือเป็นสถิติการยิงที่เขาทำได้มากกว่าการปะทะกับทีมอื่นๆ ลีกสูงสุดเมืองผู้ดีเลยทีเดียว

สำหรับตอนนี้ ฮาลันด์ ซัดไปแล้ว 10 ประตูในลีกฤดูกาลนี้ และคงเต็มไปด้วยความมั่นใจว่าจะสามารถเพิ่มสถิติการยิงประตูได้มากขึ้นเมื่อลงไปปะทะกับ วูล์ฟส์ ในแมตช์สุดสัปดาห์นี้ 

ขณะที่ทีมของกุนซือแกรี่ โอนีล เพิ่งจะเก็บได้แค่แต้มเดียวจาก 7 แมตช์ และเสียไปแล้ว 21 ประตู ถ้าพวกเขาไม่สามารถขันเกมรับให้เหนียวแน่นได้ โอกาสที่จะโดน ฮาลันด์ กระซวกตาข่ายมีสูงเลยทีเดียว  

10. บททดสอบสุดหินของ "หงส์แดง"

หากไม่รับแมตช์อุบัติเหตุลูกหนังที่แพ้ น็อตติงแฮมป์ ฟอเรสต์ คาถิ่นแอนฟิลด์ ต้องบอกเลยว่า อาร์เน่อ สล็อต สานต่องานของ เจอร์เก้น คล็อปป์ ได้อย่างยอดเยี่ยมจริงๆ 

กระนั้นมีหลายคนอาจมองว่า "เดอะ เร้ดส์" ยังไม่เจอเกมหนัก แต่สำหรับแมตช์วันอาทิตย์นี้ต้องบอกเลยว่าเป็นบทพิสูจน์ที่ดีมากๆ สำหรับ กุนซือชาวดัตช์ ในการรับมือ เชลซี ที่กำลังอยู่ในช่วงฟอร์มเข้าฝักพอดี 

"สิงห์บลูส์" อาจจะฟอร์มกระท่อนกระแท่นในช่วงแรก แต่หลังจากที่ เอ็นโซ่ มาเรสก้า ปรับจูนทีมได้แล้ว พวกเขากลายเป็นสโมสรที่เล่นได้อย่างคงเส้นคงวา โดยเฉพาะ โคล พาลเมอร์ ที่ฟอร์มร้อนแรงเหลือเกิน 

แม้ว่าฤดูกาลที่แล้ว ลิเวอร์พูล จะไล่ต้อน เชลซี ขาดลอย 4-1 แต่พวกเขาไม่ใช่ทีมเดิมที่เจ้าบ้านจะมาปู้ยี่ปู้ยำเหมือนเดิมได้อีกแล้ว ที่สำคัญขุมกำลังของทีมเยือนเต็มไปด้วยนักเตะที่ศักยภาพสูง และฟอร์มกำลังคึกสุดๆ

ถ้าหาก โค้ชอาร์เน่อ สามารถนำ "หงส์แดง" คว้าชัยชนะได้ มันถือเป็นบทพิสูจน์ว่าเขาคือของจริง ! แต่ถ้าแพ้นั่นอาจเป็นสัญญาเตือนว่าพกวเขายังต้องพัฒนากันต่อไป ก่อนจะต้องเจอศึกใหญ่ทั้ง แมนซิตี้ และ อาร์เซน่อล 

ทอมเม้ง


ที่มาของภาพ : getty images
ติดตามช่องทางอื่นๆ:
Website : siamsport.co.th
Facebook : siamsport
Twitter : siamsport_news
Instagram : siamsport_news
Youtube official : siamsport
Line : @siamsport