วูล์ฟส์ พบ ลิเวอร์พูล! 5 ประเด็นหงส์บุกจิกบ๊วยผงาดนำฝูง

1.หมาป่าขาดสองหลังคีย์แมน

วูล์ฟส์ ประสบกับปัญหาปราศจากสองเซ็นเตอร์ฮาล์ฟตัวหลักทั้ง เคร็ก ดอว์สัน ที่มีอาการป่วยและ เยอร์สัน มอสเกร่า ที่เจ็บเข่าอย่างหนักในเกมบุกไปแพ้ แอสตัน วิลล่า 3-1 

ด้วยเหตุนี้ หมาป่า จึงต้องส่ง โตตี้ โกเมส ที่หายเจ็บกล้ามเนื้อต้นขาด้านหลังพอดีจับคู่กับ ซานติ บูเอโน่ คุมเกมรับโดยข้างสนามกุนซือ แกรี่ โอนีล ตัดสินใจใส่ชื่อ อัลฟี่ พอนด์ เซ็นเตอร์ฮาล์ฟวัย 20 ปีนั่งเป็นตัวสำรองด้วย

2. หงส์ปรับทัพยกชุดเหลือแค่ โชต้า 

ลิเวอร์พูล ซึ่งเฝ้าบ้านเขี่ย เวสต์แฮม ตกรอบสามถ้วย คาราบาวคัพ เมื่อกลางสัปดาห์ด้วยสกอร์ 5-1 เปลี่ยนทีมรวมสิบตำแหน่งยกเว้น ดีโอโก้ โชต้า รายเดียวที่ได้ออกสตาร์ตต่อ

เกมนี้ทีมเจ้าบ้านได้ อลิสซง ที่เดี้ยงไปสองเกมฟิตกลับมาเฝ้าเสาแทน ควีวิค เคลเลเฮอร์ ขณะที่ ดาร์วิน นูนเญซ กองหน้าทีมชาติ อุรุกวัย มีอาการป่วยทำให้ไม่มีส่วนเกี่ยวข้อง

สำหรับ เฟเดริโก้ เคียซ่า ปีกตัวใหม่กลับไปนั่งข้างสนามตามเดิมแม้จะมีฟอร์มที่ดีในเกมบู๊กับ เดอะ แฮมเมอร์ส

3. โกนาเต้ เบิกเม็ดแรกในลีก

อิบราฮิม่า โกนาเต้ ย้ายจาก แอร์เบ ไลป์ซิก มาค้าแข้งกับ ลิเวอร์พูล ในซีซั่น 2021/22

ดาวเตะทีมชาติ ฝรั่งเศส เปิดตัวกับ เร้ด แมชีน ได้ไม่เลวด้วยการเช็กบิลได้ 3 ประตูในซีซั่นแรกของเขากับถิ่น แอนฟิลด์

อย่างไรก็ดี ซีซั่นต่อมา สตาร์วัย 25 ปีคลำเป้าไม่ได้เลยจากการลงเล่น 24 นัดในทุกรายการ

สำหรับซีซั่นนี้ โกนาเต้ สอยตาข่ายเพิ่มเป็น 2 เม็ดแล้วหลังพาทีมบุกไปนำ วูล์ฟส์ 1-0 ในช่วงทดเวลาของครึ่งแรก

ถึงกระนั้น ประตูที่ โมลินิวซ์ กราวด์ เป็นประตูแรกของเขาที่ทำให้ ลิเวอร์พูล ได้ในเกม พรีเมียร์ลีก โดยสี่ประตูก่อนหน้านั้นเกิดขึ้นในรายการอื่นทั้งหมดโดยแบ่งเป็น 3 ประตูจาก 12 เกมในถ้วย แชมเปี้ยนส์ลีก

ขณะเดียวกัน ทั้่ง 5 ประตูที่ โกนาเต้ ทำได้ในสีเสื้อทีม เครื่องจักรสีแดง ล้วนเกิดจากลูกโหม่งทั้งสิ้น

4. บังโม นำหงส์ครองจ่าฝูง

หลังได้ลูกโทษ โม ซาลาห์ ดาวยิงทีมชาติ อียิปต์ ไม่ทำให้สาวก เดอะ ค็อป ผิดหวังเมื่อสังหารตุงตาข่ายเป็นประตูพาทีมบุกมากำชัยเหนือ วูล์ฟส์  2-1 ขยับนำทั้งทีม ปืนใหญ่ และ เรือใบสีฟ้า ได้หนึ่งแต้ม

ถึงขณะนี้ บังโม ยิงลูกโทษพาต้นสังกัดเก็บสามแต้มได้ในเกม พรีเมียร์ลีก ได้เป็นประตูที่ 10 แล้วโดยเป็นรองแค่ แฟร้งค์ แลมพาร์ด 18 ประตู และ อลัน เชียเรอร์ 10 ประตู

นอกจากนี้ สตาร์แอฟริกันมีส่วนกับการทำประตูให้ ลิเวอร์พูล ในเกม พรีเมียร์ลีก เพิ่มเป็น 231 ลูก (159 ประตู 72 แอสซิสต์) ด้อยกว่าห้าสตาร์อย่าง เวย์น รูนีย์ ของ แมนฯ ยูไนเต็ด 276 , ไรอัน กิ๊กส์ ของ แมนฯ ยูไนเต็ด 271 , แฮร์รี่ เคน ของ สเปอร์ส 259 , เธียร์รี่ อองรี ของ อาร์เซน่อล 249 และ แฟร้งค์ แลมพาร์ด ของ เชลซี 237

ยิ่งไปกว่านั้น ซาลาห์ สอยตาข่ายในซีซั่นนี้เป็น 5 ประตูแล้วเท่ากับ หลุยส์ ดิอาซ ปีกทีมชาติ โคลอมเบีย พอดี

ด้าน เนลสัน เซเมโด้ กองหลังทีม หมาป่า สร้างผลงานในเกม พรีเมียร์ลีก ได้อย่างเลวร้ายโดยถึงขณะนี้เขาทำเสียลูกโทษ 5 ลูกแล้วนับตั้งแต่ประเดิมสนามในเกมลีกอิงลิชเมื่อเดือนก.ย.2020 โดยเป็นรองแค่ แม็ตตี้ แคช รายเดียวเท่านั้น

5. ฟ้ากับเหว

อย่างที่เห็นกันว่าหลังจบเกมที่ โมลินิวซ์ กราวด์ ลิเวอร์พูล ขยับนำเป็นจ่าฝูงได้สำเร็จโดยที่ วูล์ฟส์ รั้งตำแหน่งบ๊วย

แน่นอนว่าทีม หมาป่า ยังกำชัยเกม พรีเมียร์ลีก ซีซั่นนี้ไม่ได้จากการลงสนาม 6 นัด และเก็บได้หนึ่งแต้มเท่ากับ เซาธ์แฮมป์ตัน รองบ๊วย แต่ทีมของ โอนีล มีสถิติเกมรับที่น่าเป็นห่วงมากที่สุดเนื่องจากพวกเขาเสียประตูมากถึง 16 เม็ดแล้ว

เท่านั้นไม่พอ วูล์ฟส์ ยังเก็บคลีนชีตในเกม พรีเมียร์ลีก ไม่ได้นานถึง 18 นัดแล้วโดยนัดสุดท้ายที่พวกเขาตาข่ายไม่ขาดเป็นเกมบุกไปสยบ เชฟฯ ยูไนเต็ด 1-0 เมื่อเดือนก.พ.

จากผลงานดังกล่าวนับเป็นการเริ่มซีซั่นที่ย่ำแย่ของพวกเขาหลังจากออกสตาร์ต 6 นัดแรกเช่นเดียวกับซีซั่น 1926/27 ซึ่งพวกเขาเก็บได้ 1 แต้มเช่นกันในช่วงที่เล่นอยู่ใน ดิวิชั่นสอง และเกมในลีกสูงสุดซีซั่น 1964/65 รวมทั้งเกม พรีเมียร์ลีก ซีซั่น 2003/04

ขณะที่ วูล์ฟส์ เสียประตูในเกมลีกซีซีซั่นนี้มากที่สุด 16 ประตู ลิเวอร์พูล เสียประตูน้อยที่สุดแค่ 2 ประตูเท่านั้น

ยิ่งไปกว่านั้น วูล์ฟส์ แพ้ทาง ลิเวอร์พูล เห็นๆเนื่องจากพวกเขาเสียท่าให้ทีมจาก แอนฟิลด์ มากกว่าคู่แข่งทุกรายในเกม พรีเมียร์ลีก รวมเป็น 17 นัดเข้าไปแล้ว