เหงื่อตกอย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้ซะแล้วสำหรับ แมนฯ ซิตี้ แชมป์ พรีเมียร์ลีก ที่มีอันต้องเสีย โรดรี้ กองกลางคนสำคัญไปตลอดทั้งซีซั่น
หลังล้มเจ็บในเกม พรีเมียร์ลีก นัดเสมอกับ อาร์เซน่อล 2-2 ที่ เอติฮัด สเตเดี้ยม เมื่อวันอาทิตย์ที่ผ่านมา สื่อหลายสำนักประโคมข่าวว่าดาวเตะทีมชาติ สเปน มีปัญหาเอ็นไขว้หน้าเข่าขวาฉีกขาด และจำเป็นต้องเข้ารับการผ่าตัด
ปฏิเสธไม่ได้ว่าดาวดังวัย 28 ปีลงเล่นในซีซั่นก่อนให้กับทั้งสโมสรและทีมชาติมากถึง 63 นัด และได้แชมป์ลีกเมืองผู้ดี รวมทั้งแชมป์ ยูโร 2024 ซึ่งเขาเจ็บกล้ามเนื้อต้นขาด้านหลัง และต้องเปลี่ยนตัวออกในช่วงพักครึ่งของแมตช์ชิงชนะเลิศ
จากปัญหาดังกล่าวทำให้ โรดรี้ ไม่มีส่วนร่วมในเกมปรีซีซั่นกับ แมนฯ ซิตี้ รวมทั้งสี่เกมแรกในซีซั่นก่อนที่เขาจะลงเล่นเป็นตัวสำรองในเกมลีกแมตช์เปิดบ้านชนะ เบรนท์ฟอร์ด 2-1 เมื่อสัปดาห์ก่อน
กระทั่งถัดมาในเกม แชมเปี้ยนส์ลีก นัดเสมอกับ อินเตอร์ มิลาน 0-0 ที่ เอติฮัด สเตเดี้ยม โรดรี้ ได้ลงเล่นเป็นตัวจริงเกมแรกของซีซั่นนี้โดยเขาอยู่ในสนามครบ 90 นาที
ฉะนั้นแล้วจึงไม่แปลกที่สตาร์เลือดกระทิงดุจะได้ลงเล่นเป็นตัวจริงในเกมปะทะกับ อาร์เซน่อล แต่หลังจากผ่านไปได้ 17 นาที เขาก็บาดเจ็บจนถึงขั้นต้องเปลี่ยนตัวออกจากจังหวะปะทะกับ โธมัส ปาร์เตย์
กระทั่งล่าสุด สื่อสำนักต่างๆเผยว่า โรดรี้ จะร้างสนามไปตลอดทั้งซีซั่นนี้เนื่องจากเอ็นไขว้หน้าเข่าขวาฉีกขาด
ต่อปัญหาดังกล่าวของ เรือใบสีฟ้า เราจะมาดูกันว่าทีมของ เป๊ป กวาร์ดิโอล่า จะได้รับผลกระทบมากน้อยแค่ไหน
- เรือใบชนะ74%ในทุกรายการหากมี โรดรี้
นับตั้งแต่ โรดรี้ ย้ายมาจากทีม แอตเลติโก มาดริด ในช่วงซัมเมอร์ปี 2019 ด้วยค่าตัว 62.5 ล้านปอนด์ แมนฯ ซิตี้ กำชัยได้ 74% เสมอ 15% และแพ้แค่ 11% จาก 260 นัดในทุกรายการที่กองกลางทีมชาติ สเปน ลงสนาม
ในกรณีที่ แมนฯ ซิตี้ ลงเล่นโดยไม่มี โรดรี้ พวกเขากำชัยได้ 64% เสมอ 11% และแพ้มากถึง 24% จากจำนวน 45 นัด
นับเฉพาะเกมใน พรีเมียร์ลีก แมนฯ ซิตี้ มีผลงานกำชัยได้ 129 นัดจาก 174 นัดนับตั้งแต่ โรดรี้ ได้ประเดิมสนามในซีซั่น 2019/20 โดยพวกเขาเสมอ 26 นัด และแพ้แค่ 19 นัด
เท่านั้นไม่พอ โรดรี้ ยังมีผลงานไร้พ่ายเกม พรีเมียร์ลีก นานถึง 51 นัดนับตั้งแต่เขาแพ้เกมสุดท้ายนัดฟัดกับ สเปอร์ส (1-0) ในเดือนก.พ.2023 ซึ่งเป็นสถิติที่ยอดเยี่ยมที่สุดในบรรดานักเตะของห้าลีกใหญ่ในทวีปยุโรปนับตั้งแต่เขาย้ายมาค้าแข้งกับทีมเงินถังของลีกเมืองผู้ดีในปี 2019
นับจากช่วงเวลาดังกล่าว ทีมของ กวาร์ดิโอล่า กำชัยได้ 74.14% หากมี โรดรี้ อยู่ในสนาม และเก็บได้ 413 แต้ม แต่หากไร้ดาวเตะสแปนิช พวกเขาชนะแค่ 61.9% ซึ่งเป็นตัวเลขที่เพิ่มขึ้นมาอีก 5% ในซีซั่นนี้เนื่องจาก แมนฯ ซิตี้ ชนะเกมลีกสี่นัดแรกโดยที่ โรดรี้ ไม่ได้ลงบู๊
- เรือใบไม่ชนะเกม พรีเมียร์ลีก เกือบ 40% หากไม่มี โรดรี้
รวมทั้งสิ้น โรดรี้ พลาดการลงเล่นเกม พรีเมียร์ลีก 21 นัดโดย แมนฯ ซิตี้ ชนะ 13 นัด เสมอ 1 นัด และแพ้ 7 นัด เก็บได้ 40 แต้ม และทำแต้มตกหล่น 23 แต้ม
เทียบกันแล้ว แชมป์ลีกเมืองผู้ดีเก็บแต้มได้เฉลี่ยนัดละ 2.37 แต้มหากมี โรดรี้ โลดแล่นอยู่ในสนาม แต่ตัวเลขดังกล่าวลดลงเหลือ 1.86 หากเขาไม่ได้ลงบู๊
และที่สำคัญ แมนฯ ซิตี้ แพ้เกม พรีเมียร์ลีก ซีซั่นก่อนสามนัดซึ่ง โรดรี้ ติดโทษแบนในเกมออกไปเยือนทั้งหมดบู๊กับ อาร์เซน่อล ,วูล์ฟส์ และ แอสตัน วิลล่า แต่นั่งเป็นตัวสำรองโดยที่ไม่ถูกเปลี่ยนตัวลงเล่นแมตช์ถล่ม ลูตัน 5-1
อย่างไรก็ดี อย่างที่บอกเอาไว้ก่อนแล้วว่า เรือใบสีฟ้า จัดแจงกับสถานการณ์ปราศจาก โรดรี้ ในต้นซีซั่นนี้ได้อย่างยอดเยี่ยมตลอดสามเกมแรกของ พรีเมียร์ลีก ที่พวกเขาชนะ เชลซี , อิปสวิช และ เวสต์แฮม โดยเกมบุกไปทุบ ขุนค้อน 3-1 ช่วงปลายเดือนส.ค.
เขานั่งอยู่ในซุ้มโดยไม่ถูกเปลี่ยนตัว
- ใครจะแทน โรดรี้?
เป็นที่ถกเถียงกันว่า แมนฯ ซิตี้ ไม่มีตัวตายตัวแทนของ โรดรี้ แต่จะว่าไปพวกเขายังมีกองกลางอเนกประสงค์อยู่ในทีมซึ่ง กวาร์ดิโอล่า สามารถเลือกใช้งานแก้ขัดได้
ดังจะเห็นว่า มาเตโอ โควาซิช ได้ลงเล่นเป็นตัวจริงในสี่เกมแรกของซีซั่นจากการปราศจากพ่อค้าแข้งสัญชาติกระทิงดุ และเขาน่าจะได้รับบทกองกลางตัวรับอย่างต่อเนื่องอีกครั้ง
ไม่เพียงเท่านั้น ริโก้ ลูอิส ซึ่งโชว์ฟอร์มได้อย่างโดดเด่นในซีซั่นนี้กับ เรือใบสีฟ้า พร้อมทำหน้าที่แบ็คขวาไฮบริดที่เปิดโอกาสให้เขาขยับขึ้นสูงมาเล่นเป็นมิดฟิลด์ได้เนื่องจาก กวาร์ดิโอล่า แสดงให้เห็นว่าให้ความเชื่อมั่นในตัวดาวรุ่งพุ่งแรงวัย 19 ปีรายนี้
นอกจากนี้ จอห์น สโตนส์ เป็นกองหลังอีกรายที่สามารถเล่นในแดนกลางได้เช่นกัน ขณะที่ เควิน เดอ บรอยน์ , แบร์นาร์โด้ ซิลวา และ มาเตอุส นูเนส ต่างก็พร้อมเล่นเป็นมิดฟิลด์ตัวต่ำแม้ในขณะนี้กองกลางทีมชาติ เบลเยี่ยม จะร้างสนามด้วยปัญหาที่ขาหนีบ แต่ไม่นานนักเขาน่าจะคืนสนามได้