ศึกอภิมหายุทธ์ที่ อิสต์แลนด์ส ระหว่าง แมนซิตี้ พบ อาร์เซน่อล จบลงด้วยการเสมอกัน 2-2 แบบมีครบทุกรสชาติ และต่อไปคือสิ่งที่อยากจะบอก
1. ตอนแรก คิดว่าเกมนี้อาจไม่สะเด่าอย่างที่คิด ด้วยคาดว่า อาร์เซน่อล จะมาเล่นแบบเพลย์เซฟ เพื่อไม่แพ้เอาไว้ก่อนเหมือนฤดูกาลที่แล้ว
ที่ไหนได้นะครับ เพราะมันเป็นเกมที่อุดมด้วยคุณภาพ และความบันเทิงถึงขนาดจัดเป็นเกมยอดเยี่ยมประจำฤดูกาลนี้ได้เลย
ใครไม่ได้ดูสดๆ ถือว่าพลาด !!!
2. พลันที่ เออร์ลิ่ง ฮาลันด์ ตะบันให้เจ้าถิ่นขึ้นนำอย่างรวดเร็ว ผู้ชมทางบ้านอย่างผมคิดว่าเกมคงจบล่วงหน้าแน่นอน เพราะแผนรถบัสของไอ้ปืนใหญ่ที่ มิเกล อาร์เตต้า วางลงมา มันดันแตกซะแล้ว
ทว่า อาร์เซน่อล กลับทำได้ไฉไลเกินคาดจากการยิงอย่างสุดสวยของ ริคคาร์โด้ คาลาฟิโอรี่
เมื่อตีเสมอเป็น 1-1 ได้เร็ว เกมจึงน่าจะสนุกขึ้นอีกเป็นกอง ก่อนทีมเยือนจะพลิกกลับมานำเป็น 2-1 จากลูกเตะมุมที่ตัวเองใช้เป็นทีเด็ดในการทำประตูได้แบบเป็นสม่ำ
3.สูตรลูกเตะมุมของ อาร์เซน่อล คือการใช้ผู้เล่น 4-5 คน ไปกองกันที่เสา 2 ก่อนจะค่อยๆ ขยับเข้ามาตรงกลาง เพื่อล้อมผู้รักษาประตูไม่ให้ออกมาตัดลูกกลางอากาศ
ขณะที่เป้าหมายอย่าง กาเบรียล จะยืนอยู่วงนอก บริเวณจุดโทษ ก่อนโถมเข้ามาโขกลูกที่ บูกาโย่ ซาก้า เปิดลูกเตะมุมเข้ามาแบบพุ่งๆ มาที่เสาไกล โดยนัดหมายกับกองหลังแซมบ้าเอาไว้แล้ว
นอกจากจะสมบูรณ์แบบทั้งคนเปิดและคนโหม่ง
นักเตะของ แมนซิตี้ ที่ประกบ กาเบรียล อย่าง ไคล์ วอล์คเกอร์ ยังพลาดที่มัวแต่แหงนหน้ามองบอล แทนที่จะมองคนแล้วตามติดแบบเนื้อประกบเนื้อ
นี่คือปัญหาเวลาป้องกันลูกตั้งเตะ เพราะส่วนใหญ่ตัวประกบมักจะมองบอลมากกว่ามองคน
จริงๆ ไม่ต้องมองบอลเลยก็ได้ หากคุณพัวพันอยู่ติดกับคนที่ตัวเองต้องประกบแบบไปไหนไปด้วย เพื่อให้เขาเล่นลูกกลางอากาศไม่ถนัด
4.ประเด็นเรื่องผู้ตัดสิน ไมเคิ่ล โอลิเวอร์ ที่ควักใบเหลืองที่ 2 = แดง ให้ เลอันโดร ทรอสซาร์ ข้อหาเตะบอลทิ้ง หลังเป่าฟาวล์ (ถ่วงเวลา ไม่ให้คู่แข่งเล่นฟรีคิกเร็ว)
เข้าใจครับว่ามันเป็นการตัดสินตามกฎ
เลอันโดร ทรอสซาร์ ที่มีใบเหลืองติดตัวควรจะระมัดระวังอย่างจงหนัก เพราะผู้ตัดสินพรีเมียร์ลีกมีนิสัยบ้าอำนาจเกือบทุกตัว แต่ผมว่ามันก็อะลุ้มอล่วยกันได้ ไม่จำเป็นต้องเคร่งกฎอะไรขนาดนั้น
คือมันเป็นความผิดที่หน่อมแน้มว่ะ มันไม่ใช่ความผิดร้ายแรงแบบการทำฟาวล์แบบน่าเกลียดสักหน่อย ไม่ต้องลงโทษรุนแรงขนาดควักใบเหลืองออกมาก็ได้
5.เมื่อ 'เดอะ กันเนอร์ส' เหลือผู้เล่น 10 คน แถมเยือนโคตรทีมมหากาฬอย่าง แมนซิตี้
ผู้เป็นกุนซือก็ไม่มีทางเลือก นอกจากติดตั้งแผนการเล่นแบบ 'พาร์ค เดอะ ฟัคกลิ้ง บัส' ปรับระบบเป็น 5-4-0 เพิ่มเซ็นเตอร์แบ็คเป็น 3 คน บวกฟูลแบ็ค 2 คนในระนาบเดียวกัน แล้วก็ถอยต่ำตั้งรับลึก ปิดพื้นที่หน้าประตูให้แน่นหนามากที่สุด
แล้วก็อุด...อุด...อุด และอุด แบบโคตรมหาอุด
แต่การเล่นเกมรับมันทั้งเหนื่อย และสิ้นเปลืองพลังงานมากกว่าการเล่นเกมรุก แถมมีผู้เล่นน้อยกว่า มันทั้งกดดันและตึงเครียด มิหนำยังไม่ได้รับอนุญาตให้แสดงความผิดพลาดออกมาอีกต่างหาก
ทีมสีฟ้าเจ้าถิ่นขึงเกมรุกบุกกระหน่ำพลางล่อเป้าอยู่ข้างเดียวเหมือนการทุบให้ผู้มาเยือนยุบไปเรื่อยๆ
สุดท้าย อาร์เซน่อล ที่ตั้งรับอย่างเหนียวแน่นมาตลอดก็พลาด ด้วยการปล่อยให้ผู้เล่นของ แมนฯ ซิตี้ มีพื้นที่ว่างและเวลาตะบันแบบเต็มๆ จนนำมาซึ่งประตูตีเสมอในนาทีสุดท้ายของช่วงทดเจ็บ
โบนัส แทร็ค: แมนซิตี้ รอดพ้นจากการคาบ้านหวุดหวิด และน่าดีใจที่ได้ 1 แต้ม มากกว่าเสีย 2 แต้มนะครับ
ส่วน อาร์เซน่อล น่าเสียดายที่รักษาชัยชนะไม่สำเร็จ แต่การได้ 1 แต้มในถิ่นของเต็งหนึ่ง และแชมป์เก่า มันก็ไม่ได้เลวร้ายอะไรมากนักหรอก