จากเกมยากสู่เกมที่ยากกว่าของ อาร์เซนอล

โดยที่ไม่มี กัปตัน โอเดอการ์ด และห้องเครื่องอย่าง เดแคลน ไรส์ ซะด้วยสิ.....

นั่นคือจังหวะดีของ "ไก่เดือยทอง" ที่มีโอกาสฝังเดอะ กันเนอร์ส ได้เมื่อทีมของ มิเกล อาร์เตต้า ขาดสองคีย์แมนที่เป็นหัวใจของทีมทั้งสองคน

คนหนึ่งเดี้ยงมาจากทีมชาติ อีกคนอุบัติเหตุใบแดงก่อนฟีฟา เดย์

อีกทั้งจะว่าไปสภาพทีมโดยรวมสเปอร์ส ดูมีทางเลือกมากกว่า ยกเว้นก็ฟอร์มก่อนลงเล่นกับอาร์เซนอล ที่พวกเขาเก็บมาได้สี่แต้มจากการใช้โอกาสสุดแสนเปลืองใน 50 กว่า shots ที่ เสมอเลสเตอร์, ชนะ เอฟเวอร์ตัน แพ้ นิวคาสเซิล

ขณะที่เราสงสัยกันว่า อาร์เตต้า จะส่งใครลงแทนสองคีย์แมน สเปอร์ส เองมีตัวรุกให้เลือกอยูไม่น้อย.... ทั้ง กัปตันซน,โซลันกี, จอห์นสัน, คูลูเซฟสกี้, แมดดิสัน แม้ก่อนแข่ง อีฟ บิสซูมา ไม่มีชื่อเช่นเดียวกันกับ ริชาร์ลิซอนก็ตาม

มิเกล อาร์เตต้า บอก “นอนไม่ค่อยหลับ5 คืน เพื่อหาแผนมาเล่นกับสเปอร์ส โดยที่ไม่มี โอเดการ์ดและ ไรส์”

ก่อนยกความดีความชอบให้ นิโกลัส โยเว่อร์ โค้ช set piece

“จริงๆแล้วช่วงอยู่ ซิตี้ ผมขอให้ดึงเขามาร่วมทีม ก่อนดึงมาอาร์เซน่อล“

“นี่คือหนึ่งในแผนงานที่จะต้องหาชัยชนะ”  

เกมนี้ อาร์เตต้า ส่ง จอร์จินโญ เล่นกับ โทมัส ปารเตย์ โดยมี ทรอสซาร์  ลงมาเหมือนจะเป็น 4-3-3  แต่เอาเข้าจริงๆ อาร์เตต้า เซอร์ไพรส์ เจ้าบ้านด้วยการเล่น 4-4-2 เมื่อดัน ทรอสซาร์ ยืนหน้าคู่กับ ฮาแวรตส์  โดย มาร์ติเนลลี เหมือนมิดฟิลด์ด้านซ้าย และ ซาก้า มิดฟิลด์ ด้านขวา มาประสานกับ ปาร์เตย และ จจญ ยืนไลน์สี่คนแดนกลาง เป็นสองชั้นกับ 4 กองหลัง เพื่อน้น เกมรับในแดนทั้ง มิดเดิล บลอค และ โลว์ บลอค รอจังหวะสวนกลับอย่างเดียว เปิดโอกาสให้สเปอร์ส เดินหน้าลุยเต็มที่

ครึ่งแรก....ทีมตราไก่ครองบอลเยอะและวูบวาบสิบนาทีแรก จากนั้นการเจาะเกมรับปืนยากลำบากมากขึ้น ตรงกันข้ามกับการโจมตีฝั่ง มาร์ติเนลลี เล่นเอา วิคาริโอ ต้องออกแรงเซฟ ลูกยาก... 

อาร์เซนอล สร้างความหวาดเสียวมากกว่า....แม้ครองบอลน้อยกว่า ตามเกมแพลน ที่ MK วางเอาไว้ ด้วยการเล่นเกมรับอย่างมีวินัย รัดกุม 

จุดชี้ขาดเกมนี้....อยู่ที่ลูกตั้งเตะซึ่งเป็นจุดแข็งของอาร์เซนอล และเป็นจุดบอดของสเปอร์ส 

เรียกว่ามันคือแรงบวก...

การป้องกันแบบ แมน ทู แมน ของ ปอสเตโคกลู หลุดแค่เสี้ยววินาที โดนลงโทษนาทีที่ 64 

แมดดินสัน ประกบ ไวท์ ไม่ให้ไปบังทาง วิคาริโอ แล้วพอเสียสมาธิตรงนั้น เท่ากับ วิคาริโอ ไปพะวงกับ แมดดี และไวท์ ขณะที่ ซากา อินสวิง ครอส เข้ากรอบ6 หลา โดย กาเบรียล ยืนรอแถวจุดโทษก่อนวิ่งเข้าหาบอล 

โรเมโร ตัวประกบแม้เห็นแต่พอถึงจังหวะนั้นดันเสียเหลี่ยม กาเบรียล ที่เอามือผลักเบาๆ ซึ่งจะว่าไปมันก็ฟาวล์เล็กๆ ละครับ แต่จังหวะแบบนี้ ผตส เลิกเน้นความจุกจิก เพราะมันไม่ได้ทำให้ โรเมโร กระเด็นกระดอนไปไหน หรือมีอิมแพกต์ อะไรมากมาย

โรเมโร เองต่างหากที่ควรจะละเอียดมากกว่านี้ 

กาเบรียล โขกเต็มกบาลแสกหน้า วิคาริโอ เป็นประตูสำคัญของเกมที่ตัดสินให้พวกเขาชนะเกมที่ก่อนลงสนามดูว่ายากพอตัว....

กาเบรียล กลายเป็นกองหลังที่พังประตูมากสุดใน 5 ลีกดังยุโรป นับย้ายมาร่วมทีมอาร์เซนอลเมื่อปี 2020

ที่สำคัญคือว่า อาร์เซนอลได้ประตูจากลูกตั้งเตะ (ไม่นับจุดโทษ) 24 ลูก นับจากต้นซีซั่นก่อน จนถึงล่าสุด มากสุดในพรีเมียร์ลีก เช่นกันกับที่สเปอร์ส กลายเป็นทีมที่เสียประตูจากลูกตั้งเตะ 18ลูก มากสุดลำดับสองรองจาก ฟอเรสต์ (23 ลูก) 

ความดีความชอบนี้ยกเครดิตให้ นิโกลาส โจเวอร์ ซึ่งย้ายจากแมนฯซิตี มาเป็นทีมงานของ มิเกล อาร์เตต้า เมื่อปี2021 พร้อมทั้งซ้อมลูกสูตรทั้งฟรีคิก,เตะมุมจนช่ำชองและนำมาใช้จนเกิดผล

มีหลากหลายแบบ....หนึ่งในนั้นคือให้ผู้เล่นรอที่เสาสองก่อนเคลื่อนที่มายังเสาแรก เมื่อจะได้เตะมุม มีทั้งแบบโค้งเข้าหาประตูและโค้งหนีออกประตู

ไม่ว่าอะไรก็แล้วแต่สเปอร์สนั้นรู้ทั้งรู้เพราะโดน อาร์เซนอล จัดมา 3 ใน4 ประตูล่าสุดที่โดนยิงก็เซตพีสของคู่ปรับอย่างอาร์เซนอลนี่แหละ

ลักษณะเหมือนเจ็บแล้วไม่จำ....

นี่โดนพลพรรคกันเนอร์ส บุกมาเก็บสามแต้มสามปีติดถึงบ้านก็ยังแก้คืนไม่ได้ซะที

แน่นอนครับ...ฟุตบอลในบางเกมนั้นตัดสินด้วยรายละเอียดเล็กๆน้อยแบบนี้

แต่มันทำให้ทีมได้สามคะแนนอันมีค่า

อาร์เซนอลยังคงอยู่ในเส้นทางการไล่ล่าแชมป์กับ "เรือใบสีฟ้า"

โดยเฉพาะวันอาทิตย์ที่ 22 ก.ย. พวกเขาเตรียมตัวบุกเยือนแมนเชสเตอร์ ซิตี้ ถึงเอติฮัด สเตเดี้ยม...

ถ้าต้องการประกาศตัวว่าพร้อมกระชากแชมป์จากอ้อมอก เป๊ป กวาร์ดิโอล่า 

MK คงต้องเนี้ยบและพร้อมที่สุดเท่าที่จะเป็นไปได้ พร้อมทั้งมีเกมแพลนที่สามารถสร้างปัญหาและฉกฉวยโอกาสเอาชนะ "เรือใบสีฟ้า" ให้ได้

แม้พึ่งเกมที่5 ในสัปดาห์หน้า แต่ถ้าชิงจังหวะเชือดเรือใบได้ก่อน

ย่อมสร้างความเชื่อมั่นให้กับทีมในการต่อสู้แย่งแชมป์ไปตลอดเส้นทางปีนี้

ใช่ครับ....จะล้มซิตี้ มันคือความยากลำบาก แต่มันไม่ได้หมายความว่าจะหมดหนทางซะเมื่อไหร่ วางเกมแพลนเน้นๆ บวกกับเกมรับของเรือใบใช่ว่าจะ "รัดกุม" อะไรขนาดนั้น

หากเปิดแผลได้ก่อน....สาวกกูนเนอร์ส มีโอกาสได้เฮ ตั้งแต่ต้นซีซั่นเช่นกัน

JACKIE