ลิเวอร์พูล พบ ฟอเรสต์! 5 ประเด็นหงส์ช็อกคาบ้านโดนเจ้าป่าบุกหักปีก

1. เคียซ่า พร้อมกี่โมง?

ลิเวอร์พูล วางหมาก 11 คนแรกรับมือ ฟอเรสต์ โดยที่ยังไม่มี เฟเดริโก้ เคียซ่า ปีกทีมชาติ อิตาลี ที่ย้ายมาจาก ยูเวนตุส อยู่ในโผ แถมไม่มีชื่อนั่งเป็นตัวสำรองด้วยแม้สมาชิกใหม่จะเมินเดินทางไปกับทีมชาติในเกม เนชั่นส์ ลีก เพื่อฟิตซ้อมอยู่กับสโมสร

อย่างไรก็ดี อาร์เน่อ สล็อต จัดทัพด้วยนักเตะชุดเดิมทุกรายจากศึกแดงเดือดที่พวกเขาบุกไปขยี้ แมนฯ ยูไนเต็ด 3-0 ก่อนเข้าช่วงเบรกเกมทีมชาติโดย ฮาร์วีย์ เอลเลียตต์ บาดเจ็บเพิ่มเติม และไม่มีเอี่ยวในแมตช์นี้

ด้าน อเล็กซิส แม็ค อัลลิสเตอร์ มิดฟิลด์ทีมชาติ อาร์เจนติน่า ซึ่งฟิตทันเวลาลงเล่นให้ หงส์แดง ครบ 50 นัดพอดีนับตั้งแต่ย้ายมาจาก ไบรท์ตัน เมื่อช่วงซัมเมอร์ปี 2023

2. เจ้าป่าส่ง วอร์ด เพราส์ ประเดิมสนาม

ฟอเรสต์ ที่ยังไม่แพ้จากสามเกมแรกของซีซั่นใหม่บุกมาเยือน แอนฟิลด์ ด้วยการโรเตชั่นทีมสี่ตำแหน่งจากแมตช์โดน วูล์ฟส์ บุกมาตีเสมอ 1-1

นูโน่ เอสปิริโต้ ซานโต้ กุนซือ เจ้าป่า ส่ง เจมส์ วอร์ด เพราส์ กองกลางที่ย้ายมาจาก เวสต์แฮม ลงสนามเป็นเกมแรกให้กับสโมสรเช่นเดียวกับ นิโคลัส โดมิงเกซ , อเล็กซ์ โมเรโน่ และ ไรอัน เยสต์ ที่ได้ออกสตาร์ตแมตช์นี้

สำหรับนักเตะทีมเยือนสี่รายที่หลุดจากโผตัวจริงประกอบไปด้วย แอนโธนี่ อีลังก้า , เนโก วิลเลี่ยมส์ , อิบราฮิม ซานกาเร่ และ คัลลั่ม ฮัดสัน โอดอย

3. มหาอุตม์มีอยู่จริง

ลิเวอร์พูล ส่อแววเก็บสามแต้มเป็นเกมที่สี่ติดต่อกันได้ไม่ยากเนื่องจากได้เล่นในบ้านต้อนรับทีมประเภทวัวเคยขาม้าเคยขี่ และมีโอกาสสอยตาข่ายหลายครั้งโดยเฉพาะ หลุยส์ ดิอาซ ซึ่งซีซั่นนี้เปิดตัวได้อย่างร้อนแรง หากแต่น่าเสียดายที่ปีกทีมชาติ โคลอมเบีย ตะบันบอลไปชนเสา

นอกจากจังหวะที่ว่า เร้ด แมชีน เกือบได้สกอร์นำอีกหลายครั้งแต่กลายเป็นว่า เจ้าป่า เอาตัวรอดไปได้ตลอด 45 นาทีแรกจากการเล่นเกมรับได้อย่างเหนียวแน่น และรักษาสกอร์เสมอ 0-0 ได้อย่างไม่น่าเชื่อ

หลังจบครึ่งแรก หงส์แดง เหนือกว่าแทบข้างเดียวทั้งการครองบอลในสัดส่วน 65.8%:34.2% และได้สับไก 6 ครั้งเข้ากรอบ 2 ครั้ง ขณะที่ ฟอเรสต์ ไม่มีสิทธิ์ได้ง้างเลยสักครั้ง แต่ยันเสมอแบบโนสกอร์ได้สำเร็จราวกับว่าพวกเขาพกคาถามหาอุตม์ลงสนาม

4. นูโน่ สั่งเปิดหน้าสู้

อย่างไรก็ดี หลังคว้าผลลัพธ์ 0-0 กับ ลิเวอร์พูล ได้ในครึ่งแรกดูเหมือนจะทำให้ เอสปิริโต้ ซานโต้ มั่นใจอยู่ลึกๆว่าสามารถทำแสบให้เจ้าบ้านได้ และเลือกเปลี่่ยนตัวรุกลงสนามเป็นการเปิดหน้าสู้แบบเต็มตัวแทนที่จะเน้นเกมรับต่อเพื่อหวังคว้าหนึ่งแต้มเป็นอย่างน้อย

ไม่เพียงจะปล่อย  ฮัดสัน โอดอย ลงบู๊เล่นในครึ่งหลังเท่านั้น กุนซือเลือดฝอยทองยังเปลี่ยน อีลังก้า ลงไปเติมเกมรุกอีกรายเช่นกัน และปรากฏว่าอดีตกองหน้า แมนฯ ยูไนเต็ด โชว์ความจี๊ดจ๊าดสร้างปัญหาให้กับเจ้าบ้านได้หลายหนก่อนจัดแอสซิสต์ให้ ฮัดสัน โอดอย ซัดประตูโทน

อย่างไรก็ดี ต้องชมเชยแผงหลัง ฟอเรสต์ เช่นกันที่ทำหน้าที่ได้อย่างสมบูรณ์แบบตลอด 90 นาทีโดยไม่เปิดโอกาสให้ ลิเวอร์พูล ทวงประตูคืนแม้ว่า สล็อต จะส่งตัวสำรองทั้ง ดาร์วิน นูนเญซ และ โคดี้ กัคโป ลงเล่นตั้งแต่ช่วงหนึ่งชั่วโมง แต่มันก็ไม่อาจทำให้พวกเขาเบิกสกอร์ได้ แถมยังโดนอาคันตุกะกระซวกตาข่ายก่อนอีกต่างหาก

จบเกม 90 นาที แน่นอนว่า ลิเวอร์พูล เพิ่มการครองบอลได้มากขึ้นไปอีกเป็น 69.5%:30.5% และได้ยิง 14 ครั้งเข้ากรอบ 5 ครั้ง แต่ที่น่าสังเกตคือ เจ้าป่า ได้ยิงตลอด 45  นาทีหลังรวม 5 ครั้ง และเข้ากรอบ 3 ครั้งซึ่งชี้ให้เห็นว่าพวกเขาเน้นเกมรุกสู้มากขึ้นกระทั่งได้รางวัลตอบแทนชิ้นโต

5. พรีเมียร์ลีก ไม่หมู

หลังเปิดตัวได้อย่างน่ายกนิ้วให้กับการคุมทีมแทน เจอร์เก้น คล็อปป์ สล็อต ก็เสียสถิติจนได้เมื่อพาทีมแพ้เกมแรกคาบ้านให้กับ ฟอเรสต์ ซึ่งแสดงให้เห็นว่า พรีเมียร์ลีก ไม่ใช่ลีกที่ง่ายแน่นอนสำหรับอดีตโค้ช เฟเยนูร์ด

จะว่าไป หงส์แดง เดินหน้าบุกใส่ เจ้าป่า ตลอดทั้งเกมก็จริง แต่พวกเขาประสบกับปัญหาในการทำสกอร์กระทั่งพ่ายไปอย่างไม่น่าเชื่อ 1-0 ซึ่้้งทำให้กุนซือวัย 55 ปีต้องใช้ความพยายามที่มากขึ้นไปอีกในการทำหน้าที่อีกหลายสิบนัดที่เหลืออยู่ของซีซั่นนี้

เทียบจากสามเกมแรกก่อนหน้านี้ซึ่ง หงส์แดง ชนะรวดชนิดไม่เสียประตูเลย กูรูหลายรายมองตรงกันว่าทีมจากเมอร์ซีย์ไซด์จะเป็นผู้ท้าชิงที่แท้จริงของ แมนฯ ซิตี้ แต่ทันทีที่สะดุดคาบ้านเป็นครั้งแรกให้กับ ฟอเรสต์ นับตั้งแต่ปี 1969 หรือ 55 ปีก่อน (แพ้ 0-2 วันที่ 15 ก.พ.สมัยยังเป็นดิวิชั่นหนึ่งเดิม) สล็อต ก็น่าจะเจอกับภาระหนักเหมือนกับกุนซือร่วมชาติหลายราย

นั่นเป็นเพราะนับจากอดีตจนถึงปัจจุบันมีผู้จัดการทีมชาวเมืองกังหันลมรับงานกับทีมใน พรีเมียร์ลีก มาแล้ว 9 ราย แต่ไม่มีเลยสักรายที่ได้สัมผัสกับแชมป์ลีกเมืองผู้ดีดังรายนามต่อไปนี้

- แฟร้งค์ เดอ บัวร์ (คริสตัล พาเลซ)

-เรเน่ มิวเลนสตีน (ฟูแล่ม)

- ดิ๊ก แอดโวคาท (ซันเดอร์แลนด์)

- รุด กุลลิท (เชลซี , นิวคาสเซิ่ล)

- โรนัลด์ คูมัน (เซาธ์แฮมป์ตัน , เอฟเวอร์ตัน)

- มาร์ติน โยล (สเปอร์ส , ฟูแล่ม)

-กุส ฮิดดิ้ง (เชลซี)

- หลุยส์ ฟาน กัล (แมนฯ ยูไนเต็ด)

- เอริค เทน ฮาก (แมนฯ ยูไนเต็ด)