หลังจากเป็นข่าวมานานเกี่ยวกับเรื่องการพิจารณาความของแมนเชสเตอร์ ซิตี้ กรณีละเมิด, ฝ่าฝืนกฏพรีเมียร์ลีกทั้งเรื่องงบการเงิน, การเล่นแร่แปรธาตุ เงินกระเป๋าซ้ายย้ายมากระเป๋าขวา และการไม่ให้ความร่วมมือกับพรีเมียร์ลีกในการตรวจสอบเอกสารทั้งหมด
รวมแล้ว 115 กระทงความผิด
ล่าสุด...ดีเดย์ สำหรับการไต่สวนพิจารณาคดี กำลังจะเริ่มต้นแล้ว
จันทร์ที่ 16 ก.ย. คณะกรรมการพิจารณาความอิสระ ที่พรีเมียร์ลีกแต่งตั้งขึ้นมา จะเริ่มไต่สวน "จำเลย" คือแมนเชสเตอร์ ซิตี้ ที่จ้างทีมทนายความระดับทอปของประเทศอังกฤษมาสู้คดี
สื่ออังกฤษเรียกว่า "การไต่สวนแห่งศตวรรษ"
โจทก์ คงไม่ใช่แค่พรีเมียร์ลีก อาจหมายถึงสโมสรในพรีเมียร์ลีกส่วนมาก
จำเลยคือ แมนเชสเตอร์ ซิตี้ ที่โดนแซะว่าเป็น The115ers
หรือทีม แมนฯซิตี้ 115 ตามความผิดที่พรีเมียร์ลีกได้ระบุเอาไว้ตลอดระยะเวลา 14 ปี
ผมเขียนในเพจjackie มาหลายปีแล้ว ตามความคืบหน้าของข้อมูล
ไม่ขอเขียนซ้ำว่ามันเกิดอะไรขึ้นบ้าง เอาแบบย่อๆพอเข้าใจความ แต่หากใครอยากได้ ข้อมูล #แมนเชสเตอร์ซิตี้ เชิงลึกลองสืบค้นกันตามแฮชแทกนี้ครับ
เพื่อให้เข้าใจแบบง่ายๆ สำหรับคนที่ตามบ้างไม่ตามบ้าง เพราะมันไม่ใช่เรื่องกระแส
มันคือเรื่องเชิงลึกนอกสนามฟุตบอล ผมขอสรุปเหตุการณ์ให้เห็นภาพ
-Football Leaks เปิดโลกอีกใบของซิตี้
ย้อนไปเมื่อปี 2018 แดร์ สปีเกิล นิตยสารออนไลน์แนวข่าวสะท้อนสังคมเพราะชื่อ แดร์ สปีเกิ้ล แปลว่า "กระจก" (The mirror) ย่อมสะท้อนเรื่องราวของสังคมในทุกแง่มุมออกมา
ได้พาดหัวข่าวว่า แมนฯซิตี้ เดินเกมนอกกฏยูฟา ในการบริหารจัดการ เรื่องการเงินของสโมสร โดย แดร์ สปีเกิ้ล อ้างว่าได้ข้อมูลมาจากแหล่งข่าว ผู้แจ้งเบาะแส นามว่า "จอห์น" ซึ่งในเวลาต่อมาทราบว่าคือแฮกเก้อร์ชาวโปรตุเกส ชื่อ รุย ปินโต้ ที่ทำคอนเท้นต์ football leaks เพื่อแฉวงการฟุตบอล
แดร์ สปีเกิ้ล นำหลักฐานจากการแฮ้กของรุย มาเปิดเผย ไม่ว่าจะเป็น อีเมล การโต้ตอบระหว่างผู้บริหารระดับสูงของแมนฯซิตี้ ในหลายๆซีซั่น เกี่ยวกับการเล่นแร่แปรธาตุ ทางการเงินที่ไม่ถูกตามกฏ แถมยังโจมตียูฟาอีกต่างหากในหลายเมล
เช่น... เจ้าของทีมคือกลุ่มทุน ADUG (Abudhabi United Group) เอาเงินจากแบรนด์ที่ตัวเองเป็นเจ้าของนั่นคือ เอติฮัด แอร์ไลน์ , บริษัท โทรคมนาคม Etisalat มาสนับสนุนทีมแมนฯซิตี้ ซึ่งผิดกฏ ยูฟา อยู่แล้ว เจ้าของทีมไม่สามารถเติมงบประมาณด้วยเงินตัวเองให้ทีม
เจ้าของทีมใช้งบประมาณได้เฉพาะ สร้างสนาม, ศูนย์ฝึกซ้อม, ช่วยเหลือชุมชนอะไรก็แล้วแต่...หากจะใช้เพื่อเติมงบในการเดินบัญชีเพื่อเป็นรายได้สโมสร ถือว่าผิดกฏยูฟา (พรีเมียร์ลีกยึดแนวทางเดียวกัน)
นี่คือหนึ่งในตัวอย่างการละเมิดกฏงบการเงินยูฟา
เวลาสองปีจากนั้นยูฟา ดำเนินการพิจารณาเอกสาร ซีซั่น 2012-16โดยแมนฯซิตี เองไม่ยอมส่งเอกสารการเงินให้ ก่อนยูฟาสรุปว่าผิดจริง จึงสั่งแบนแมนฯซิตี้ ออกจากการแข่งขันยูฟา แชมเปี้ยนส์ ลีกสองปี และปรับเงินก้อนหนึ่ง
ทว่า...หลังจากมีบทลงโทษช่วงต้นปี 2020 แค่สองสามเดือนจากนั้น เรือใบสีฟ้ายื่นฟ้องศาลกีฬาโลก Court of Arbitration for Sport (Cas) ปรากฏว่าชนะคดียูฟา ด้วยเหตุผล2 ข้อง่ายๆเลย ซึ่งทีมทนายของเรือใบเดินหมากดีกว่า
1 ความผิดหมดอายุความ
2 หลักฐาน football leaks ไม่อาจใช้เป็นหลักฐานได้ เพราะได้มาด้วยมิชอบทางกฏหมาย....
5555 ทั้งโลกหัวเราะให้กับ ยูฟา....
แล้วทั้งโลกก็รับรู้จากเมลที่ ปินโต้ แฮ้ก มาเปิดเผยว่า แมนเชสเตอร์ ซิตี้ "ผิดจริง"
แต่ทางกฏหมายเอาผิดไม่ได้ พวกเขาชนะคดี ด้วยกฏหมาย แต่ ในทางสังคมนั้น
เรือใบสีฟ้า....โดนพิพากษาให้ผิดเรียบร้อยไปแล้ว
ตัดตอนมาที่พรีเมียร์ลีก รับลูกต่อ เพราะพวกเขาเองมีกฏ กติกา ตามแนวทางของยูฟา อยู่แล้ว...
-พรีเมียร์ลีกตั้งข้อหา 115
ก.ค. 2021 มีการเปิดเผยว่า พรีเมียร์ลีกยื่นข้อกล่าวหาต่อแมนฯซิตี ว่าหน่วงเหนี่ยว, ไม่ยอมส่งเอกสารการเงินให้ตามกฏ จนต้องฟ้องศาล พร้อมตั้งข้อกล่าวหาจำนวน 115 ความผิด
ดังสรุปง่ายๆว่ามีอะไรบ้าง
54 ความผิดไม่จัดส่งเอกสารข้อมูลการเงินที่ถูกต้องระหว่างซีซั่น 2009-10 ถึง 2017-18
14 ความผิดไม่จัดส่งรายละเอียดของค่าใช้จ่ายนักเตะและผู้จัดการทีมระหว่างซีซั่น 2009-10 ถึง 2017-18
5 ความผิด ในการทำผิดกฏข้อบังคับของยูฟาเรื่องงบการเงิน Financial Fair Play (FFP) 2013-14 ถึง 2017-18
7 ความผิด ฝ่าฝืน ละเมิดงบการเงินพรีเมียร์ลีก Profitablity and Sustainability R ules (PSR) ซีซั่น 2015-16 ถึง 2017-18
35 ความผิด ไม่ให้ความร่วมมือพรีเมียร์ลีกในการสอบสวนช่วง ธันวาคม 2018- ก.พ.2023
-แมนฯซิตี้ จะโดนลงโทษมั้ย??
คำถามที่รอคำตอบในอนาคต นับจาก 16 ก.ย. ไปอีก10 สัปดาห์ ซึ่งคาดว่าต้นปี 2025 น่าจะทราบกันว่า ทางกฏหมายเอาผิด เรือใบสีฟ้าได้หรือไม่ หรือทีมทนายของเรือใบซึ่งรวมหัวกะทิของสหราชอาณาจักรมาต่อสู้ให้ "จำเลย" ซึ่งว่ากันว่าศึกครั้งนี้ เจ้าของทีมเรือใบสีฟ้า ไม่ยอมแพ้อย่างแน่นอน
ด้วยเพราะพรีเมียร์ลีกมีข้อตกลงชัดเจนกับสโมสรสมาชิกว่า การไต่สวนอิสระ ไม่สามารถนำคดีความไปสู้กันนอกประเทศ ไม่มีการยื่นอุทธรณ์กับศาลกีฬาโลกใดๆ
นี่แหละที่....แมนฯซิตี้ จำต้องสู้ด้วยตัวเอง โดยใช้เงินจ้างทนายตัวทอปมาลุย
กับคณะกรรมการไต่สวนอิสระของพรีเมียร์ลีก
ลอร์ด เดวิด แพนนิค KC ที่เคยชนะคดีดังๆในอังกฤษมากมายรวมทั้ง เคยเป็นทีมงานกฏหมายของอดีตนายกรัฐมนตรีUK บอริส จอห์นสัน และแน่นอนการล้มยูฟา ที่ศาลกีฬาโลกก็เป็นผลงานของเขาด้วยเช่นกัน
ท่านลอร์ด ค่าทำงานคิดชั่วโมงละ £5000 หรือชั่วโมงละ 225,000 บาท
โดยแทกติกของทีมลอร์ด แพนนิค ที่เริ่มทำไปแล้วคือดึงความสนใจของทีมทนายพรีเมียร์ลีกด้วยการยื่นฟ้องศาลอนุญาโตตุลาการว่า พรีเมียร์ลีก ออกกฏ APT (Associated Party Transaction) ไม่ชอบด้วยกฏหมาย
อธิบายกฏ APT นี้แบบเข้าใจง่ายๆ คือว่ากฏนี้ออกมาหลังจากนิวคาสเซิล ได้เจ้าของใหม่เป็นกองทุนรัฐซาอุ (PIF) เมื่อปี 2021
สาระสำคัญของกฏนี้คือว่า...เจ้าของทีมไม่สามารถใช้เงินจาก "ธุรกิจ" ตัวเองมาสนับสนุนสโมสรฟุตบอลที่ตัวเองเป็นเจ้าของได้
ตอนนี้สู้กันในชั้นศาลอยู่ครับ ถ้าแมนฯซิตี้ ชนะ โฉมหน้าเรื่องงบการเงินจะเปลี่ยนแปลงไป แต่ไม่น่าจะมีผลกับ 115 ที่พรีเมียร์ลีก จะเริ่มไต่สวน แต่มันคือแทกติกที่ทีมกฏหมายเรือใบ นำมาสู้กับ พรีเมียร์ลีกอีกทาง โดยท่านลอร์ด แพนนิค นี่แหละ
คดี APT นี้ไม่เกี่ยวกับ 115 โดยแมนฯซิตี เป็นโจทก์ ส่วนพรีเมียร์ลีก จำเลย (น่าจะได้ข้อสรุปเร็ววันนี้)
ส่วน 115 นั้น พรีเมียร์ลีกเป็นโจทก์ แมนฯซิตี เป็นจำเลย (จะเริ่มพิจารณาจันทร์นี้
ข่าวล่าสุดรายงานว่าทีมกฏหมายแมนฯซิตี้ มั่นใจว่า "ชนะ" คดีเรื่องกฏ APT ของพรีเมียร์ลีก ส่วน 115 รอลุ้นนะครับ มันคนละคดีความกัน
**********************************************************
สรุปๆ ถ้าโดนลงโทษนะครับ...
ปรับเงิน, ตัดแต้ม, ปรับตกชั้นหรือถึงขั้นขับออกจากพรีเมียร์ลีก
คือไม่ให้ร่วมการแข่งขันเลย
คหสต....ผมยังมองว่าถ้ามีบทลงโทษกรณีที่ เรือใบแพ้คดี ไม่น่าจะล่อกันถึงตายอย่างแน่นอน
เป็นไปได้มากที่สุดนะครับและผมเชื่อว่าน่าจะออกมาแบบนี้
ตัดแต้ม...ปรับเงิน
ปรับเงินไม่ใช่ปัญหา ขนหน้าแข้งเจ้าของทีมไม่ร่วง
ตัดแต้มนี่แหละ.....ที่จะไปถึงกี่แต้ม
10 20 30 40 50
JACKIE