เควิน เดอ บรอยน์ จอมทัพแมนซิตี้ ออกอาการหัวเสียกับพวกผู้ใหญ่ที่ยัดโปรแกรมให้นักเตะลงสนามจนแทบไม่ได้พัก ชี้เสียงของเงินดังกล่าวเสียงของนักเตะ
เควิน เดอ บรอยน์ เพลย์เมกเกอร์แมนเชสเตอร์ ซิตี้ ยอมรับรู้สึกกังวลกับโปรแกรมที่การแข่งขันที่แน่นเอี๊ยดจะส่งผลเสียมากกว่าผลดี พร้อมระบุองค์กรฟุตบอลที่เกี่ยวข้องเห็นเงินสำคัญกว่าสภาพร่างกายของนักเตะ
สำหรับฤดูกาล 2024/2024 การแข่งขันยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ ลีก มีการเปลี่ยนแปลงโดยทุกทีมที่ได้เข้าร่วมโม่เกือกจะต้องลงสนาม 8 แมตช์ในรอบลีก เฟส มากกว่าของเดิมที่เล่นแค่ 6 เกมเท่านั้น ซึ่งเมื่อรวมโปรแกรมในเกมลีก กับฟุตบอลถ้วย นั่นหมายความว่านักเตะจะต้องลงสนามทุกๆ 3 วันเลยทีเดียว
ยิ่งไปกว่านั้นศึกชิงแชมป์สโมสรโลก (ฟีฟ่า คลับ เวิลด์ คัพ) มีการเปลี่ยนแปลงใหม่ โดยจะจัดให้มีการแข่งกันทุกๆ 4 ปี รวมถึงจะมีทีมที่ได้สิทธิ์ลงแข่งขันครั้งละ 32 ทีมด้วยกันซึ่งจะฟาดแข้งกันช่วงซัมเมอร์ปี 2025
เดอ บรอยน์ เปิดใจว่ารู้สึกกังวลกับโปรแกรมที่เพิ่มขึ้นอย่างบ้าคลั่งซึ่งอาจส่งผลกระทบกับสภาพร่างกายในอนาคต "ปัญหาที่แท้จริงจะเกิดขึ้นหลังเกมชิงแชมป์สโมสรโลก (2025) เรารู้ว่าจะมีเวลาเพียง 3 สัปดาห์ระหว่างรอบชิงชนะเลิศเกมชิงแชมป์สโมสรโลก และนัดแรกของพรีเมียร์ลีก เรามีเวลาพัก 3 สัปดาห์ และเตรียมลุยอีก 80 แมตช์"
"บางทีปีนี้มีหลายๆ อย่างอาจจะพอรับไหว แต่ปีหน้าอาจมีปัญหาใหญ่ สมาคมฟุตบอลอังกฤษ และสมาคมนักเตะจะต้องพยายามหาวิธีแก้ปัญหา แน่นอนว่าปัญหาก็คือ ยูฟ่า กับ ฟีฟ่า ดันเพิ่มการแข่งขันเข้าไปอีก และเราสามารถแจ้งความกังวลในเรื่องนี้ได้ แต่ก็ยังไม่มีวิธีแก้ปัญหา มันดูเหมือนเงินเสียงดังกว่าเสียงนักเตะ" เดอ บรอยน์ ระบุ