ว่ากันตามตรงถึงจะประเดิมแพ้คาบ้านแต่ภาพรวมแล้วเชลซีภายใต้เอ็นโซ่ มาเรสก้าก็ยังมีอนาคตรออยู่ ด้วยความที่เพิ่งเริ่มต้นก็ด้วย
ด้วยความที่เข้ามาแล้วก็พยายามโอนถ่ายปรัชญาตัวเองให้ทีมด้วย อย่างน้อยก็มีบางโมเมนต์ของเกมที่จู่โจมแมนฯซิตี้ได้น่าดูชม
11ตัวจริงเมื่อวันอาทิตย์มีอายุเฉลี่ยแค่23ปีกับ180วันเท่านั้น นั่นก็ยังชี้ถึงทิศทางข้างหน้าได้ว่าโค้ชใหม่ต้องการอะไร
เรื่องธรรมดาเลยครับทุกคนต้องการเวลา อย่างยิ่งกับสโมสรที่ทำตัวประหนึ่งต้นสนลู่ลม โอนเอียงไปมาตลอด มีการเปลี่ยนกุนซือต่อเนื่อง มีการทุ่มฟ่อนธนบัตรซื้อนักเตะเข้ามาอย่างคลุ้มคลั่งราวกับว่าเป็นกระดาษทิชชู่
"ผมคิดว่ามันชัดเจนในสนาม นักเตะเริ่มเข้าใจถึงสิ่งที่ผมต้องการเพียงแต่ว่ามันจำเป็นต้องใช้เวลาอีกสักระยะเพื่อให้ผลออกมาอย่างที่ต้องการ "คำพูดของมาเรสก้าหลังเกมกับซิตี้
ใช่เลย การเจอทีมแชมเปี้ยน4สมัยติดถือเป็นงานที่ยากอยู่แล้ว ทีมหนึ่งมีความลงตัวสูงที่ทุกๆคนซึมซึมปรัชญาของโค้ชที่อยู่กับทีมมาแปดปี
ลองเอากระจกมาตั้งส่องไปอีกด้าน...
งานที่มาเรสก้าแบกอยู่ไม่ใช่แค่การทำทีมให้ทีมชนะ ชนะและชนะ มันอยู่ที่การต้องคอยรับมือกับสิ่งที่อยู่รอบด้านตั้งแต่ตื่นเช้ามา สายตรงจากเบื้องบนกับคำสั่งเร่งด่วน พอเข้าสนามซ้อมก็แทบจะเดินชนกับลูกทีมที่เขาเองก็คงเกาหัวว่าจะจัดการอย่างไรเพื่อลดขนาดลงได้โดยให้มีผลกระทบน้อยที่สุด
บ้าไปแล้วที่เชลซีมีผู้เล่นถึง 48 คน!!
เอาแค่ตำแหน่งผู้รักษาประตูก็ปาไป 6 ชีวิตแล้ว หลายๆคนในนั้นจำนวนสัญญาที่เหลือก็ยังอีกยาวตั้งแต่ 4-8 ปี
ล่าสุดราฮีม สเตอร์ลิ่งที่ไม่มีชื่อเกมกับแมนฯซิตี้ก็มีออกแถลงการณ์ต้องการความชัดเจนซึ่งหมากเกมนี้ก็ดูง่ายเหลือเกินครับว่าจะลงเอยอย่างไร
ในโลกของลูกหนังมีโมเดลให้ลอกเลียนแบบเต็มไปหมด คุณอยากสร้างทีมแบบไหนกันแต่แน่นอนว่าเชลซีทีมนี้ไม่สามารถเป็นโมเดลให้ใครได้ ก็ต้องเชื่อว่าจากทีมชุดแชมป์ยุโรปปี 2021มาถึงเกมเมื่อวันอาทิตย์จะไม่หลงเหลือแม้แต่คนเดียวที่อยู่ในสนาม
ไม่ใช่ซิ มีมาเตโอ โควาซิชอยู่คนแต่ตลกร้ายดาวเตะโครแอตสวมเสื้ออีกฝั่งแถมทำประตูสุดสวยได้อีกด้วย
หลายครั้งในเกมก็มีเสียงตะโกนจากแฟนเจ้าถิ่นถึงคอนอร์ กัลลาเกอร์ดังต่อเนื่อง มันเป็นปฎิกิริยาที่อยากส่งให้พวกกลุ่มทีมบริหารรู้ว่าอะไรคือสิ่งที่ควรต้องทำ
เด็กท้องถิ่น เด็กที่ครอบครัวก็เชียร์เชลซี เด็กที่ทุกเกมใส่เต็มร้อยไม่เคยยั้ง
ใครก็รู้ว่ามาเรสก้าเป็นศิษย์เป๊ป กวาร์ดิโอล่าดังนั้นแล้วสไตล์การเล่นจึงคล้ายกัน ทว่าคงเป็นไปไม่ได้ที่มาเรสก้าจะทำทีมได้ประสบความสำเร็จเหมือนอาจารย์ตราบใดที่ท็อดด์ โบห์ลี่ย์และชาวคณะไม่มีวิสัยทัศน์เหมือนกลุ่มอาบูดาบี
โอเค ถึงจะมีการตกลงกันว่าทีมไม่ได้วางเป้าหมายว่าต้องไปยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ลีกฤดูกาลหน้า อีกนั่นแหละทุกเกมหมายถึงความกดดัน นี่คือสิ่งที่มาเรสก้าย่อมสะท้านเต็มอก
เชลซีต้องหาดีเอ็นเอให้พบโดยเร็ว
ครั้งหนึ่งพวกเขาเคยมีอย่างชัดเจนสมัยโรมัน อบราโมวิชปกครองสโมสร นั่นทำให้ถึงจะเปลี่ยนโค้ชบ่อยแต่ก็ไม่ได้มีผลมากนัก
ต่างจากนาทีนี้
"ไก่ป่า".......