ย้อนรอย 10 แข้งทำแฮตทริกตั้งแต่นัดเปิดฤดูกาล พรีเมียร์ลีก

ย้อนรอย 10 แข้งทำแฮตทริกตั้งแต่นัดเปิดฤดูกาล พรีเมียร์ลีก
ศึก พรีเมียร์ลีก อังกฤษ ฤดูกาล 2024-25 ใกล้ที่จะเปิดฉากขึ้นแล้ว โดยในวันที่ 16-19 สิงหาคมนี้นั้นแต่ละทีมก็จะได้ลงเล่นเป็นนัดแรกของพวกเขา

เริ่มจากเกมระหว่าง แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด กับ ฟูแล่ม ในวันศุกร์ที่ 16 สิงหาคม ปิดท้ายที่เกมระหว่าง เลสเตอร์ ซิตี้ กับ ท็อตแน่ม ฮ็อทสเปอร์ ในวันที่ 19 สิงหาคม

แน่นอนว่านอกจากชัยชนะของทีมตัวเองแล้วนั้น สิ่งที่แฟนบอลอยากเห็นคือการทำประตูกันแบบถล่มทลาย ซึ่งที่ผ่านมาเคยมี 10 ครั้งด้วยกันที่มีนักเตะทำแฮตทริกได้ตั้งแต่การลงเล่นนัดแรกใน พรีเมียร์ลีก ให้ก้บต้นสังกัดของตัวเองในซีซั่นนั้นๆ ลองไปดูกันหน่อยว่ามีใครบ้าง

- 1993-94 : ไมค์ ควินน์ (โคเวนทรี ซิตี้)

อาร์เซน่อล ประเดิมฤดูกาลนั้นด้วยความฮึกเหิมสุดขีด หลังจากพวกเขาเพิ่งได้ทั้งแชมป์ เอฟเอ คัพ และ ลีก คัพ ในซีซั่น 1992-93 แถมพวกเขายังได้ลงเล่นใน ไฮจ์บิวรี่ ตั้งแต่เกมลีกนัดแรกด้วย

อย่างไรก็ตาม กลับกลายเป็นว่า โคเวนทรี บุกมาชนะพวกเขาได้ถึง 3-0 จากผลงานอันสุดยอดของ ควินน์ โดยหลังจากนั้น ควินน์ ทำประตูในลีกได้อีกเพียง 5 ลูกเท่านั้น ก่อนที่ "ช้างกระทืบโรง" จะจบซีซั่นด้วยการเป็นอันดับที่ 11

- 1995-96 : แม็ทธิว เลอ ทิสซิเยร์ (เซาธ์แฮมป์ตัน)

"นักบุญ" เปิดหัวซีซั่นใหม่ด้วยการเปิด เดอะ เดลล์ เจอกับ ฟอเรสต์ ดังนั้นมันจึงไม่น่าแปลกใจที่แฟนบอลเจ้าถิ่นหวังที่จะได้เห็นทีมรักเก็บ 3 แต้มตั้งแต่นัดเปิดหัว ซึ่งเกมนั้น เลอ ทิสซิเยร์ ก็โชว์ฟอร์มได้สุดยอดสมฉายา "เลอ ก็อด" เพราะเขาทำแฮตทริกให้กับทีมได้ แถมยังถือเป็นครั้งแรกที่แฮตทริกใน พรีเมียร์ลีก มาจากลูกเซตพีซทั้งหมดด้วย เนื่องจาก 3 ประตูในวันนั้นของพวกเขามาจากลูกจุดโทษ 2 ลูก กับลูกฟรีคิก 1 หน

น่าเศร้าที่ถึงแม้ เลอ ทิสซิเยร์ จะเล่นได้ยอดเยี่ยมแบบนั้น แต่สุดท้าย เซาธ์แฮมป์ตัน ก็ยังแพ้ ฟอเรสต์ ไป 3-4 และนี่ก็ถือเป็นครั้งเดียวที่มีคนทำแฮตทริกในนัดแรกของฤดูกาลประจำศึก พรีเมียร์ลีก ได้ แต่ทีมของตัวเองกลับเป็นฝ่ายปราชัย

- 1996-97 : ฟาบริซิโอ ราวาเนลลี่ (มิดเดิ้ลสโบรห์)

ราวาเนลลี่ เพิ่งย้ายจาก ยูเวนตุส มาอยู่กับ มิดเดิ้ลสโบรห์ ในช่วงซัมเมอร์ ปี 1996 ด้วยค่าตัว 7 ล้านปอนด์ ซึ่งเขาก็ได้ลงเล่นในเกมลีกตั้งแต่นัดแรกที่ มิดเดิ้ลสโบรห์ เปิดบ้านเจอกับ ลิเวอร์พูล

อดีตดาวเตะชาวอิตาเลียนระเบิดฟอร์มโหดได้ทันทีหลังจากเหมาคนเดียว 3 ประตูจนช่วยให้ต้นสังกัดใหม่เสมอกับ ลิเวอร์พูล 3-3 จนทำให้เขาเป็นนักเตะคนเดียวจนถึงตอนนี้ที่ทำแฮตทริกได้ตั้งแต่นัดประเดิมสนามของตัวเองใน พรีเมียร์ลีก โดยสุดท้ายฤดูกาลนั้นเขาก็ยังทำประตูได้เรื่อยๆ จนยิงในลีกได้ถึง 16 ลูก แต่ถึงอย่างงั้นทีมก็ยังตกชั้นอยู่ดี

- 1996-97 : เควิน แคมป์เบลล์ (น็อตติ้งแฮม ฟอเรสต์)

ใช่แล้ว นอกจาก ราวาเนลลี่ แล้วนั้น ซีซั่น 1996-97 ยังมีนักเตะอีกคนที่ทำแฮตทริกได้ตั้งแต่นัดแรกของฤดูกาล โดยของ แคมป์เบลล์ เกิดขึ้นในเกมที่ ฟอเรสต์ บุกไปชนะ โคเวนทรี 3-0

ผลงานดังกล่าวทำให้เขาเป็นนักเตะคนแรกที่ทำแฮตทริกใน พรีเมียร์ลีก ได้กับถึง 3 ทีม เพราะเขาเคยทำแฮตทริกได้ตอนเล่นให้ อาร์เซน่อล กับ เอฟเวอร์ตัน ไปก่อน แต่ในฤดูกาลนั้นเขายิงในลีกเพิ่มได้อีกเพียง 3 ลูก จนสุดท้าย ฟอเรสต์ ต้องตกชั้น 

- 1997-98 : ดิออน ดับลิน (โคเวนทรี ซิตี้)

ด้วยความที่เพิ่งรอดตกชั้นมาอย่างหวุดหวิดจากฤดูกาล 1996-97 ทำให้แทบไม่มีใครคิดว่า โคเวนทรี จะสร้างปัญหาให้กับ เชลซี ได้ในการลงเล่นนัดแรกของซีซั่น 1997-98 แม้ว่า โคเวนทรี จะได้เล่นในบ้านของตัวเองก็ตาม

ถึงกระนั้น โคเวนทรี ก็เก็บ 3 แต้มได้แบบสุดเซอร์ไพรส์ ซึ่งหลักๆ แล้วก็มาจากความยอดเยี่ยมของ ดับลิน ที่เหมา 3 ลูกจนช่วยให้ทีมชนะ เชลซี 3-2 ซึ่งผลงานจากเกมนั้นมีส่วนช่วยให้ ดับลิน ได้เป็นดาวซัลโวสูงสุดร่วมของ พรีเมียร์ลีก ในฤดูกาลดังกล่าว จากการทำได้ 18 ลูกเท่ากับ ไมเคิ่ล โอเว่น และ คริส ซัตตัน

- 2008-09 : กาเบรียล อั๊กบอนลาฮอร์ (แอสตัน วิลล่า)

นัดแรกของฤดูกาลนั้น วิลล่า เปิดบ้านเจอกับ แมนเชสเตอร์ ซิตี้ โดยที่ อั๊กบอนลาฮอร์ ได้ลงเล่นเป็นตัวจริง ซึ่งตอนนั้นเขามีอายุแค่ 21 ปีกับ 308 วันเท่านั้น

อย่างไรก็ตาม อั๊กบอนลาฮอร์ ก็แผลงฤทธิ์ด้วยการทำแฮตทริกได้ แถมยังเป็นเพอร์เฟ็กต์แฮตทริก หรือก็คือการทำประตูทั้งด้วยเท้าขวา, เท้าซ้าย และศีรษะอีกต่างหาก ทำให้ อั๊กบอนลาฮอร์ นับเป็นนักเตะอายุน้อยที่สุดที่ทำแฮตทริกได้ตั้งแต่นัดแรกประจำฤดูกาลของ พรีเมียร์ลีก ขณะที่สุดท้ายแล้วซีซั่นนั้น อั๊กบอนลาฮอร์ ทำประตูในลีกได้ 12 ลูก

- 2010-11 : ดิดิเย่ร์ ดร็อกบา (เชลซี)

หลังจากได้แชมป์ลีกในฤดูกาล 2009-10 เชลซี ก็เริ่มภารกิจป้องกันแชมป์ลีกด้วยการเปิด สแตมฟอร์ด บริดจ์ เจอกับ เวสต์บรอมวิช อัลเบี้ยน ซึ่ง ดร็อกบา กลายเป็นฮีโร่ของเกมนั้นด้วยการทำได้ 3 ประตู ก่อนที่ เชลซี จะชนะไปแบบถล่มทลาย 6-0

ผลงานระดับนั้นทำให้ ดร็อกบา เป็นนักเตะคนที่ 4 ที่ทำแฮตทริกใน พรีเมียร์ลีก ได้ 2 เกมติดต่อกัน เพราะเขาเคยทำแฮตทริกได้ในนัดสุดท้ายของฤดูกาล 2009-10 มาแล้ว โดย ดร็อกบา ทำประตูในเกมลีกตลอดทั้งซีซั่น 2010-11 ได้ 11 ลูก ก่อนที่ เชลซี จะจบด้วยการเป็นเพียงรองแชมป์ลีก

- 2019-20 : ราฮีม สเตอร์ลิง (แมนซิตี้)

นัดแรกของซีซั่นนั้น แมนซิตี้ ต้องไปเยือน เวสต์แฮม ยูไนเต็ด แต่มันก็ไม่ใช่งานยากสำหรับทีมของกุนซือ โจเซป กวาร์ดิโอล่า เพราะพวกเขาชนะไป 5-0 โดยเกมนั้น สเตอร์ลิง ถึงขั้นทำแฮตทริกได้ด้วย

หลังจากนั้นดาวเตะชาวอังกฤษก็ยังสานต่อฟอร์มอันยอดเยี่ยมได้จนทำประตูในลีกได้ 20 ลูก จนส่งผลให้มันเป็นซีซั่นที่เขาทำประตูใน พรีเมียร์ลีก ได้เยอะที่สุดในอาชีพการค้าแข้งของตัวเอง แต่มันก็ยังไม่ดีพอที่จะทำให้ทีมได้แชมป์ลีกเพราะ แมนซิตี้ แพ้ ลิเวอร์พูล ไปถึง 18 คะแนน

- 2020-21 : โมฮาเหม็ด ซาลาห์ (ลิเวอร์พูล)

ลิเวอร์พูล เริ่มต้นการป้องกันแชมป์ลีกด้วยการเปิดบ้านเจอ ลีดส์ ยูไนเต็ด ซึ่งอีกฝ่ายมาสู้ได้ดีพอตัว แต่ว่า ลิเวอร์พูล มีชายที่ชื่อว่า ซาลาห์ ที่พร้อมช่วยทีมทุกเมื่อ โดยเกมนั้นดาวเตะชาวอียิปต์ทำแฮตทริกได้จนทำให้ทีมชนะไป 4-3

นั่นถือเป็นครั้งแรกนับตั้งแต่ฤดูกาล 1988-89 ที่มีนักเตะ ลิเวอร์พูล ทำแฮตทริกในเกมลีกได้ตั้งแต่นัดแรกของฤดูกาล โดยคนสุดท้ายก่อนหน้า ซาลาห์ ที่ทำแบบนั้นได้คือ จอห์น อัลดริดจ์ ซึ่งหลังจากนั้น ซาลาห์ ก็ยังผลิตสกอร์ได้อย่างต่อเนื่องจนทำให้เขายิงในลีกได้ถึง 22 ลูก แต่ ลิเวอร์พูล จบด้วยการเป็นเพียงอันดับ 3 เท่านั้น

- 2021-22 : บรูโน่ แฟร์นันด์ส (แมนยู)

บรูโน่ ถือเป็นคีย์แมนของ แมนยู ที่ทีมแทบจะขาดไม่ได้ และเขาก็ออกตัวได้อย่างสวยหรูในซีซั่น 2021-22 ด้วยการซัดแฮตทริกใส่ ลีดส์ จนช่วยให้ทีมชนะไปแบบถล่มทลาย 5-1

ผลงานนั้นทำให้ บรูโน่ เป็นนักเตะคนแรกของ แมนยู นับตั้งแต่ฤดูกาล 1977-78 ที่ทำแฮตทริกในนัดแรกประจำฤดูกาลของ พรีเมียร์ลีก ได้ โดยตอนนั้นคนที่ทำแบบนั้นได้คือ ลู มาคาริ ซึ่งสุดท้ายซีซั่นนั้น บรูโน่ ทำประตูในลีกได้ 10 ลูก แต่ต้นสังกัดของเขามีผลงานโดยรวมน่าผิดหวังจนได้เพียงที่ 6 ของตารางคะแนน


- เด็กเกร็ดบอล -


ที่มาของภาพ : gettyimages
BY : เด็กเกร็ดบอล
เด็กเกร็ดบอล
ติดตามช่องทางอื่นๆ:
Website : siamsport.co.th
Facebook : siamsport
Twitter : siamsport_news
Instagram : siamsport_news
Youtube official : siamsport
Line : @siamsport