คนเก่งมีงานรออยู่เสมอ ! 5 ทางเลือกสำหรับ แกเร็ธ เซาธ์เกต หลังลาทีมชาติอังกฤษ

สำหรับตอนนี้สื่อหลายสำนักกำลังเล่นข่าวเกี่ยวกับผู้จัดการทีมคนใหม่ที่จะเข้ามาทำงานแทน เซาธ์เกต โดย สมาคมฟุตบอลอังกฤษ (เอฟเอ) กำลังเร่งเดินเครื่องในเรื่องนี้ แต่ก็ไม่ใช่งานง่ายๆ ที่จะทำให้เกิดขึ้นในเวลาไม่กี่วัน

ขณะที่อนาคตของ เซาธ์เกต ก็น่าสนใจเช่นกัน เพราะจากผลงานที่เขาได้สร้างเอาไว้กับ อังกฤษ ทำให้ตอนนี้เจ้าตัวถือเป็นกุนซือเนื้อหอม และมีหลายสโมสรที่สนใจอยากใช้บริการ แต่กระนั้นไม่ใช่แค่งานกุมบังเหียนเท่านั้นที่เขาจะทำหลังอำลาทัพ "ทรี ไลอ้อนส์"

ดังนั้นบทบาทใหม่ของ เซาธ์เกต จะเป็นงานอะไร และแน่นอนว่ายังคงเกี่ยวข้องกับแวดวงลูกหนังเหมือนเดิม เพียงแต่ว่าจะเป็นการคุมทีม หรือเป็นนักวิเคราะห์เกม หรืออาจจะก้าวขึ้นไปทำงานระดับบริหารให้กับสมาคมลูกหนังบ้านเกิดก็ได้ 

1. นิวคาสเซิ่ล ยูไนเต็ด 

ด้วยการที่ เอ็ดดี้ ฮาว นายใหญ่ทัพ "สาลิกาดง" เป็นหนึ่งในแคนดิเดตที่จะได้นั่งเก้าอี้ทีมชาติอังกฤษ และหากเกิดกรณีที่เขาได้รับเลือกจริงๆ งานนี้อาจจะทำให้ทั้งสองคนได้แลกตำแหน่งกันก็ได้ 

จะว่าไปแล้ว เซาธ์เกต มีประสบการณ์ในการทำงานร่วมกับนักเตะสำคัญในระดับชาติซึ่งนั่นทำให้เขาเหมาะสมกับการคุมสโมสรให้มีความคงเส้นคงวาสำหรับการแข่งขันระดับสูง และเขาก็มีความสัมพันธ์ที่ดีเยี่ยมกับผู้เล่นตัวหลักทัพ "สาลิกาดง" นั่นก็คือ คีแรน ทริปเปียร์

หลังจากประสบความสำเร็จได้เข้าไปเล่นในศึกยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ ลีก เมื่อซีซั่นก่อน แต่สำหรับฤดูกาลที่ผ่านมาพวกเขาทำผลงานได้น่าผิดหวังมากๆ งานนี้ เซาธ์เกต รู้ว่าจะต้องทำยังไงในการสร้างทีมให้กลับมาอยู่ในฟอร์มที่ยอดเยี่ยมอีกครั้ง และมีความสามารถในการรักษาขุมกำลังที่มีอยู่ไม่ว่าจะได้รับเงินในการสร้างทีมหรือไม่ก็ตาม 

สิ่งที่แตกต่างก็คือผ่านมา 15 ปีแล้วนับตั้งแต่ที่ เซาธ์เกต คุมทีม (มิดเดิ้ลสโบรช์) ในศึกพรีเมียร์ลีก เห็นได้ชัดว่าการแข่งขันเปลี่ยนแปลงไปเยอะมาก และการหวนกลับไปทำงานคุมทีมระดับสโมสรของเขาย่อมมีความเสี่ยงพอสมควร 

2. งานวิเคราะห์เกมให้ช่อง "ไอทีวี"

เซาธ์เกต เคยมีข่าวพัวพันกับงานใหม่แล้ว โดยเป็นที่ทราบกันดีว่า "ไอทีวี" เป็นแฟนตัวยงของผู้จัดการทีมรายนี้ โดย "เดลี่ เมล" สื่อดังเมืองผู้ดีรายงานว่ารายการทีวีช่องนี้อยากได้เขาไปทำหน้าที่วิเคราะเห์เกม 

จะเห็นได้ชัดเจนว่า "ไอทีวี" และ "บีบีซี" จ้างบรรดาผู้จัดการทีมหลายคนให้ทำหน้าที่เป็นกูรุในช่วงการแข่งขัน ยูโร 2024 บนแผ่นดินเยอรมนี อาทิเช่น อังเก้ ปอสเตโคกลู นายใหญ่สเปอร์ส และ โธมัส แฟร้งค์ กุนซือเบรนท์ฟอร์ด แน่นอนว่า เซาธ์เกต ก็คงได้รับข้อเสนอแบบเดียวกัน

คำถามสำคัญก็คือ เซาธ์เกต ต้องการที่จะอำลาการทำงานกุมบังเหียนเพื่อเข้ามาทำงานทีวีหรือไม่  นั่นอาจจะต้องขึ้นอยู่กับข้อเสนออื่น ๆ ที่เข้ามาหาเพื่อให้เขาพิจารณาด้วย

3. ผอ.เทคนิคเอฟเอ

ช่วงที่ผ่านมา เซาธ์เกต ทำงานปลุกปั้นทีมชาติอังกฤษระดับเยาวชนมาแล้ว  โดยเขาให้ความสำคัญกับแข้งดาวรุ่งของชาติมาตลอด โดยเฉพาะสมัยที่กุมบังเหียน อังกฤษ รุ่นยู 21 และสร้างแข้งวัยละอ่อนจนยกระดับฝีเท้าขึ้นมาโดดเด่น

ฟิล โฟเด้น และ มาร์ค เกฮี เป็นนักเตะที่พัฒนาขึ้นมาจนกลายเป็นสตาร์ตัวหลักให้กับทีมชาติชุดใหญ่เมื่อประมาณ 7 ปี หลังจากได้ลิ้มรสชาติความสำเร็จในการคว้าแชมป์ฟุตบอลโลก รุ่นอายุไม่เกิน 17 ปี

ขณะที่ แอรอน แรมส์เดล และ เมสัน เมาท์ ก็เป็นหนึ่งในผู้เล่นที่ประสบความสำเร็จกับทีมชาติระดับเยาวชนเช่นกัน ส่วน ยูโร 2024 ทั้ง โคล พาลเมอร์ และ แอนโธนี่ กอร์ดอน ก็ผ่านการคว้าแชมป์ยูโร รุ่นยู 21 ก่อนจะมีชื่อติดทีมชาติชุดใหญ่

สำหรับ ลี คาร์สลี่ย์ เฮดโค้ชทัพ "สิงโตน้อย" รุ่น ยู 21 มีความเป็นไปได้สูงที่จะเป็นทายาทของ เซาธ์เกต ซึ่งหากเป็นแบบนั้นทั้งสองคนจะได้ทำงานเคียงบ่าเคียงไหล่กันอีกครั้ง เพียงแค่อยู่กันคนละสถานะเท่านั้นเอง 

4. คริสตัล พาเลซ

จะว่าไปแล้วอดีตผู้จัดการทีมชาติอังกฤษบางคนก็เคยผ่านงานคุมคริสตัล พาเลซ มาแล้ว อาทิเช่น แซม อัลลาร์ไดซ์ ก็หวนกลับมาทำงานครั้งแรกหลังอำลางานคุมทัพ "สิงโตคำราม" ขณะที่ รอย ฮ็อดจ์สัน ก็นั่งเก้าอี้นายใหญ่ "ดิ อีเกิ้ลส์" 2 สมัย มาแล้ว

สำหรับ เซาธ์เกต ถือว่ามีความผูกพันกับ พาเลซ เช่นกัน โดยสมัยเป็นนักเตะเจ้าตัวก็เติบโตมาจากอะคาเดมี่ของสโมสรก่อนจะก้าวขึ้นมาสู่ทีมชุดใหญ่ และลงเล่นให้ทีมเกือบ 200 แมตช์ 

งานกุมบังเหียน พาเลซ ดูเหมือนจะรอคอยเขาอยู่  ที่สำคัญ เซาธ์เกต มีความชื่นชอบขุมกำลังของสโมสรแห่งนี้ หลังจากตัดสินใจใช้งาน เกฮี ในฐานะตัวจริงตำแหน่งเซนเตอร์แบ็ก ขณะเดียวกับยังเรียกตัวเ อเบอเรชี่ เอเซ่, ดีน เฮนเดอร์สัน และ อดัม วอร์ตัน ติดธงลุยยูโรบนแผ่นดินไส้กรอก 

แน่นอนว่าอุปสรรคสำคัญก็คือปัจจุบัน พาเลซ มี โอลิเวอร์ กลาสเนอร์ ทำหน้าที่กุมบังเหียนอยู่แล้ว ซึ่งกุนซือชาวออสเตรีย ค่อนข้างเนื้อหอมสุดๆ และได้รับความสนใจจากหลายทีมในยุโรป หลังปั้น ไอน์ทรัค แฟร้งค์เฟิร์ต ได้อย่างสุดยอด ฉะนั้นหาก เซาธ์เกต สนใจงานนี้จริงๆ คงต้องรออีกซักระยะ

5. แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด

ทำไมถึงมีชื่อของ แมนฯ ยูไนเต็ด ทั้งๆ ที่พวกเขาเพิ่งจะขยายสัญญาฉบับใหม่กับ เอริค เทน ฮาก ? จริงๆ แล้วชื่อของ เซาธ์เกต กับ "ผีแดง" มีมาตั้งแต่ต้นซัมเมอร์นี้ แต่ด้วยการที่เขายังมีสัญญากับ อังกฤษ และต้องนำทีมลุยศึกยูโร 2024 ทำให้การเจรจาต้องยุติไป

อย่างไรก็ตาม เซอร์ จิม แรตคลิฟฟ์ มหาเศรษฐีเจ้าของร่วม "ปีศาจแดง" เป็นแฟนตัวยงของ เซาธ์เกต และพยายามจะโน้มน้าวให้เขามาคุม แมนฯ ยูฯ แต่แผนทุกอย่างต้องพับลงหลัง เทน ฮาก นำทีมคว้าแชมป์เอฟเอ คัพ 

ขณะเดียวกัน เซาธ์เกต ยังมีความสัมพันธ์ที่ดีเยี่ยมกับ แดน แอชเวิร์ธ ผู้อำนวยการกีฬาแมนฯ ยูไนเต็ด ซึ่งเคยทำงานในตำแหน่งผู้อำนวยการฝ่ายพัฒนาระดับสูงองค์กรลูกหนังเมืองผู้ดี ในช่วงที่ กุนซือวัย 53 ปี ทำงานอยู่ที่นั่น

กระนั้นต้องจำเอาไว้ว่านี่เป็นเพียงการคาดเดาสำหรับการทำงานใหม่ของ เซาธ์เกต ซึ่งอาจจะไม่ได้เกิดขึ้นทันที แต่ถ้าเขาตัดสินใจอำลา อังกฤษ ก่อนหน้านั้นซัก 1-2 เดือนที่แล้ว เชื่อว่า แมนฯ ยูฯ คงเตรียมตำแหน่งรอเขาแน่นอน

ทอมเม้ง