หรือคิดไปเองคนเดียว! สิ่งที่อยากบอกหลัง เอฟเวอร์ตัน เจ๊า ลิเวอร์พูล

สิ่งที่ท่านผู้ชมทางบ้านอย่างผมอยากจะบอกทุกคน หลังศึกเมอร์ซี่ย์ไซด์ ดาร์บี้ ที่ เอฟเวอร์ตัน กับ ลิเวอร์พูล เย่อกันอย่างถึงใจพระเดชพระคุณ

1.อุ๊ย !!!

2.ถือเป็นเกม 0-0 ที่มีอัตราความเมามันเต็ม 80 ตีนถีบ เพราะต่างฝ่ายต่างมีโอกาสทำลายตาข่ายแบบน่าจะได้ประตูชนิดที่เสาและคานทำงานกันหนักหน่วงยิ่งนัก

ใครไม่ได้ดู...ก็ดูไฮไลท์เอาก็ได้

3.มองแบบเป็นกลางในฐานะ "นักข่าว" ผมมองว่าจังหวะที่ เฟอร์จิล ฟาน ไดค์ ประทับฝ่าเท้าพร้อมตุ่มสตั๊ดเข้าไปที่หน้าแข้งของ อมาดู โอนาน่า สามารถให้ใบแดงได้เลยก็จริง

แต่ที่ช่วยให้พี่เขารอด เพราะปราการหลังของหงส์แดงผู้นี้มิได้เจตนาทำฟาวล์ หรือตั้งใจทำร้ายคู่แข่งให้บาดเจ็บ คือมันเป็นจังหวะฟุตบอล หรือเป็นอุบัติเหตุซะมากกว่า

VAR เลยนิ่งเฉย

ส่วนจังหวะได้ประตูของ เอฟเวอร์ตัน VAR ตีเส้นล้ำหน้าห่างกันชัดเจน เพราะหลังศึกแดงเดือด ได้ข่าวว่าโดนทัวร์ลง

4.ผู้เล่นทีมลูกอมแสดงความมุ่งมั่นและทุ่มเทออกมาเป็นพิเศษ แถมยังบวกเป็นบวกตามเสียงเชียร์ของแฟนบอลเจ้าถิ่นที่ กูดิสัน พาร์ค 

นอกจากนี้ยังเล่นได้ตามแผนที่ผู้จัดการทีมวางเอาไว้อย่างเคร่งครัด คือบดบี้แดนกลางหนักหน่วงสลับกับลงไปปิดพื้นที่แน่นหนา แล้วหาจังหวะสวนกลับอย่างฉาบฉวย

แต่ด้วยคุณภาพผู้เล่นที่จำกัดจำเขี่ย ก็เลยทำได้แค่เสมอ

ขณะที่ ลิเวอร์พูล มีปัญหาทุกครั้งเวลาเจอคู่แข่งเล่นด้วยสูตรนี้แล้วตัวเองดันชิงจังหวะขึ้นนำก่อนไม่ได้

การส่งดาวรุ่งอย่าง ฮาวี่ย์ เอลเลียต กับ ฟาบิโอ คาร์วัลโญ่ ลงเล่นพร้อมกันในแดนกลางถือเป็นการตัดสินใจที่ผิดของ 

เจอร์เก้น คล็อปป์ เพราะอ่อนพรรษาเกินไปสำหรับเกมที่เดือดดาลระดับนี้ 

มิเท่านั้น

โม ซาล่าห์ ก็เล่นไม่ค่อยออกอีกแล้ว แถมช่วงหลังๆ มักเป็นแบบนี้บ่อยซะด้วย

เช่นเดียวกับ เทรนต์ อเล็กซานเดอร์ อาร์โนลด์ ที่ดูแปลกๆ ชอบกล ไม่เหมือนจอมแอสซิสต์คนเดิม 

5.ทำไม ผมดันมีความรู้สึกว่าตอนที่ ดิโอโก้ โชต้า ลงมาในสนามแล้วเกมรุกของหงส์แดงมีความน่ากลัวมากกว่าตอนที่ ดาร์วิน นูนเญซ อยู่ในสนามก็ไม่รู้ ???

เข้าใจว่าผมคงคิดไปเองคนเดียวซะมากกว่านะครับ ฮรี่ๆๆๆๆ

บอ.บู๋

ที่มาของภาพ : gettyimages

ติดตามช่องทางอื่นๆ:

Website : siamsport.co.th

Facebook : siamsport

Twitter : siamsport_news

Instagram : siamsport_news

Youtube official : siamsport

Line : @siamsport