ควีวิน เคลเลเฮอร์ ผู้รักษาประตูชาวไอร์แลนด์ ต้องเจอกับช่วงเวลาที่ดีและร้ายกับ ลิเวอร์พูล เมื่อฤดูกาล 2023/2024 และนั่นทำให้เกิดคำถามที่ว่านักเตะจะอยู่ในถิ่นแอนฟิลด์ต่อไปหรือไม่
นายทวารเลือดไอริช วัย 25 ปี มีโอกาสได้โชว์ศักยภาพของตัวเองอย่างเต็มทีมเนื่องจาก อลีสซง เบ็คเกอร์ มีปัญหาบาดเจ็บ และเจ้าตัวก็ทำผลงานได้อย่างสุดยอดโดยมีส่วนสำคัญที่ทำให้ทีมได้ลุ้น 4 แชมป์แต่สุดท้ายทำได้แค่แชมป์เดียวเท่านั้น
อย่างไรก็ตามหลังจากที่ อลีสซง หายเจ็บก็ได้กลับมาเป็นมือ 1 ตามเดิม ด้วยเหตุนี้ทำให้ เคลเลเฮอร์ เริ่มมีความคิดเรื่องที่จะย้ายไปเฝ้าเสาให้กับสโมสรในช่วงซัมเมอร์นี้
สำหรับ "หงส์แดง" ในยุคกุนซืออาร์เน่อ สล็อต คงต้องมีการวิเคราะห์ถึงความสำคัญของ เคลเลเฮอร์ ในการเป็นกำลังสำรองว่าเหมาะสมมากแค่ไหนที่จะโน้มน้าวให้เจ้าตัวอยู่กับสโมสรต่อไป
พร้อมเสมอเมื่อได้โอกาส
ช่วงต้นฤดูกาล 2023/2024 เคลเลเฮอร์ ไม่เคยได้ลงสนามมากกว่า 2 เกมในพรีเมียร์ลีก แถมฤดูกาลก่อนหน้านั้นนายทวารหน้าหล่อได้ทำหน้าที่เฝ้าเสาเพียงแค่เกมเดียวเท่านั้น
อย่างไรก็ตามอาการบาดเจ็บของ อลีสซง ทำให้ นายทวารดาวโรจน์ ได้โอกาสทำหน้าที่มือ 1 และเจ้าตัวก็ไม่ปล่อยโอกาสทองหลุดลอยไป เมื่อเขาสร้างผลงานดีมีคุณภาพทั้งในเกมลีกและฟุตบอลถ้วย
แม้ว่าในเกมชนะ ฟูแล่ม เจ้าตัวจะทำพลาดเสีย 2 ลูกก็ตาม แต่หลังจากนั้นเขาก็ยกระดับฟอร์มการเล่นขึ้นมาเรื่อยๆ และนั่นทำให้ "เดอะ เร้ดส์" มีลุ้นความสำเร็จถึง 4 แชมป์เลยทีเดียว
หลังจากที่ อลีสซง หายเจ็บเขาก็ได้สิทธิ์ในการยึดตัวจริงมาจาก เคลเลเฮอร์ และทำผลงานได้อย่างยอดเยี่ยมเหมือนเดิม ซึ่งนั่นทำให้ โกลทีมชาติไอร์แลนด์ ต้องกลับมานั่งอยู่ที่ซุ้มม้านั่งสำรองเหมือนเดิม
ทั้งนี้ เคลเลเฮอร์ จบซีซั่นล่าสุดด้วยการลงเฝ้าเสาจำนวน 26 เกมในทุกรายการมากกว่าซีซั่นที่ดีที่สุดของเขาที่ได้ลงเล่น 8 แมตช์เมื่อฤดูกาล 2021/2022 ถึง 3.25 เท่าเลยทีเดียว
บทพิสูจน์แชมป์บอลถ้วย
บางทีหนึ่งในเรื่องที่สาวก "เดอะ ค็อป" ประทับที่สุดที่ เคลเลเฮอร์ ทำเรื่องที่เหนือกว่า อลีสซง ก่อนที่เขาจะหวนกลับมาลงเฝ้าเสาในช่วงท้ายฤดูกาลล่าสุดนั่นก็คือการคว้าแชมป์คาราบาว คัพ
เคลเลเฮอร์ อยู่ร่วมทัพ "หงส์แดง" ทุกแมตช์ในเกมฟุตบอลถ้วยใบเล็กประเทศอังกฤษ และช่วยให้ต้นสังกัดคว้าแชมป์รายการนี้ซึ่งเป็นโทรฟี่สุดท้ายในการกุมบังเหียนของกุนซือเจอร์เก้น คล็อปป์
สำหรับเกมนัดชิงกับ "สิงโตน้ำเงินคราม" เชลซี เจ้าตัวโชว์ฟอร์มโคตรเหนียวหนึบด้วยการเซฟสำคัญถึง 9 ครั้ง และรักษาคลีนชีตจนทำให้ทีมได้ชูถ้วยแชมป์คาราบาว คัพ ได้สำเร็จ
กระนั้น นายด่านชาวไอริช ก็มีช่วงที่ผิดหวังเช่นกันเพราะเขาเป็นหนึ่งในทัพ "หงส์แดง" เกมแพ้ "ปีศาจแดง" แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด ตกรอบก่อนรองชนะเลิศ ศึกเอฟเอ คัพ ตามด้วยแพ้ยับ อตาลันต้า รอบ 8 ทีม ยูฟ่า ยูโรปา ลีก นัดแรก
อย่างไรก็ตามถ้าหากมองแค่ฟุตบอลถ้วย เคลเลเฮอร์ ถือว่าประสบความสำเร็จอย่างมาก เมื่อมีส่วนสำคัญนำทีมคว้าแชมป์ทั้ง เอฟเอ คัพ (2022) และ คาราบาว คัพ (2022 และ 2024) ส่วน แชมเปี้ยนส์ ลีก ปี 2019 เจ้าตัวเป็นแค่ยางอะไหล่เท่านั้น
มีความสุขกับการเป็นสำรอง ?
ในขณะที่ ลิเวอร์พูล หวังที่จะเก็บหนึ่งในผู้รักษาประตูสำรองที่ดีที่สุดไว้ แต่ เคลเลเฮอร์ ก็ยอมรับอย่างเปิดเผยว่าเขาอาจมองหาการย้ายไปเล่นที่อื่นเพื่อโอกาสได้ลงเฝ้าเสาเป็นตัวจริง
อลีสซง เพิ่งอายุ 31 ปีเท่านั้น ซึ่งด้วยวัยแค่นี้สำหรับตำแหน่งนายทวารถือว่ายังน้อยมาก และที่สำคัญ โกลชาวบราซิเลียน ยังมีสัญญาจนถึงฤดูกาล 2026/2027 ซึ่งถ้าเขาไม่โดนอาการเดี้ยงเล่นงานอย่างหนัก ยังไงซะก็ได้เป็นมือ 1 เหมือนเดิม
ขณะที่ เคลเลเฮอร์ อายุครบ 26 ปีเมื่อซีซั่นล่าสุด และกำลังเข้าสู่ช่วงพีดสุดๆ ในอาชีพนายทวาร โดยตอนนี้ศักยภาพของเขาสามารถที่จะเบียดแย่งตำแหน่งกับ อลีสซง ได้อย่างเต็มที่แล้ว และนั่นทำให้เขาเริ่มสัมผัสถึงความรู้สึกของการเป็นผู้เล่นกำลังหลักมากขึ้น
สำหรับตอนนี้ เคลเลเฮอร์ จำเป็นต้องคิดว่าจะอยู่ต่อไปเผื่อลุ้นให้ อลีสซง เจอปัญหาบาดเจ็บคล้ายๆ ฤดูกาลล่าสุดในช่วงอีกหลายปีข้างหน้า หรือจะเลือกย้ายไปเป็นมือ 1 ให้กับสโมสรอื่น ?
ไม่ใช่เรื่องแปลกที่ เคลเลเฮอร์ ต้องการที่จะลงทำหน้าที่อย่างต่อเนื่องเพื่อโอกาสเป็นมือ 1 ให้กับทีมชาติสาธารณรัฐไอร์แลนด์ แต่ ลิเวอร์พูล ต้องการที่จะเก็บเจ้าตัวเอาไว้ต่อไป
ในกรณีนี้ก็เหมือนกับ แมนเชสเตอร์ ซิตี้ เมื่อพวกเขามี เอแดร์ซอน ทำหน้าที่เป็นตัวจริง แต่ในขณะเดียวกันทัพ "เรือใบสีฟ้า" ก็มีกำลังสำรองชั้นยอดอย่าง สเตฟาน ออร์เตก้า ที่พร้อมลงทำหน้าที่ทันทีเมื่อถูกสั่งให้ลงสนาม
ดังนั้น สล็อต และทีมสตาฟฟ์ของเขาต้องพยายามทำงานอย่างหนักเพื่อโน้มน้าวให้ เคลเลเฮอร์ อยู่กับทีมต่อไป หรือจะควานหาโกลยางอะไหล่คนใหม่ที่มีคุณภาพระดับเดียวกัน ซึ่งมันไม่ใช่เรื่องง่ายเอาซะเลย