แดนนี่ เมอร์ฟี่ ระบุ แมนยู ยังควรจะต้องแยกทางกับ เอริค เทน ฮาก โดยบอกว่าเหล่ากองเชียร์ของทีมอื่นคงดี๊ด๊าสุดๆ ถ้าหาก เทน ฮาก ยังได้อยู่กับ "ปีศาจแดง" ต่อ
แดนนี่ เมอร์ฟี่ ตำนานกองกลางของ ลิเวอร์พูล แสดงความเชื่อว่า แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด ยังควรจะต้องปลด เอริค เทน ฮาก ออกจากการเป็นผู้จัดการทีมอยู่ดี
ก่อนถึงเกม เอฟเอ คัพ นัดชิงชนะเลิศ เมื่อวันเสาร์ที่ 25 พฤษภาคม ที่ผ่านมา กระแสข่าวเกี่ยวกับอนาคตของ เทน ฮาก เทไปในทิศทางว่าเขาจะโดนปลด หลังพาทีมทำผลงานได้น่าผิดหวังจนได้แค่ที่ 8 ในลีก แต่พอกุนซือชาวดัตช์พาทีมชนะ แมนซิตี้ ได้แล้วนั้น มันก็มีบางคนที่แสดงความเห็นว่านี่คือผลงานที่คู่ควรสำหรับการให้เขาได้คุมทีมต่อไป
เมอร์ฟี่ กล่าวผ่านคอลัมน์ของตัวเองใน เดลี่ เมล สื่อของเมืองผู้ดีว่า "ผมรู้สึกดีใจที่เขาได้แชมป์เป็นรายการที่ 2 ของตัวเอง (กับ แมนยู) เพราะที่ผ่านมาเขาต้องเจอกับหลายเรื่องในการทำงานที่ โอลด์ แทร็ฟฟอร์ด แต่ในขณะเดียวกันนั้นมันก็เป็นเรื่องปกติอยู่แล้วที่คนเป็นกุนซือต้องเจอกับการโดนตำหนิอย่างหนักเมื่อทำงานกับทีมใหญ่"
"การเกิดเรื่องดีๆ แค่ครั้งเดียวมันไม่ได้หมายความว่าสถานการณ์โดยรวมมันจะดีขึ้นตามไปด้วย ความจริงก็คือเขาไม่ได้แสดงให้เห็นถึงเทคนิคการสร้างแรงจูงใจหรือความสามารถด้านแท็กติกที่ดีพอตลอดช่วงที่ผ่านมา เขาทำพลาดซ้ำแล้วซ้ำเล่าและผมไม่คิดว่าเกมนัดชิงชนะเลิศหนนี้มันจะช่วยเขาได้ เพราะกลุ่มเจ้าของทีม ยูไนเต็ด ไม่สามารถทำการตัดสินใจโดยยึดกับผลการแข่งขันแค่นัดเดียวเป็นหลักได้"
"ฤดูกาลนี้ ยูไนเต็ด ทำผลงานได้เข้าขั้นหายนะเยอะเกินไป บรรดากองเชียร์ของทีมอื่นคงอยากให้ เทน ฮาก อยู่ต่อแน่ๆ เพราะพวกเขาไม่เชื่อว่าเขาคือคนที่จะพาทีมก้าวไปข้างหน้าได้ ที่ผ่านมาหลายสโมสรโดนตำหนิจากการที่เปลี่ยนตัวกุนซือโดยที่ไม่มีการเตรียมตัวแทนรอเอาไว้ แต่มันก็มีบางครั้งที่พวกเขาโดนตำหนิจากการที่ให้ความสนใจในตัวกุนซือคนอื่นๆ เหมือนกัน เพราะมันถูกมองว่าเหมือนเป็นการไม่ให้เกียรติคนที่อยู่ในตำแหน่ง"
"ตามมุมมองของผมนั้น ถ้าพิจารณาจากผลงานในฤดูกาลล่าสุดของ ยูไนเต็ด แล้วล่ะก็ มันก็เลี่ยงไม่ได้ที่สโมสรจะต้องมองหาทางเลือกอื่น ผมไม่คิดว่าผู้บริหารของพวกเขาคงจะรู้สึกผิดหรอกถ้าหาก เทน ฮาก จะโกรธกับการตัดสินใจของพวกเขา ตัวของเขาเองคงจะได้รับค่าชดเชยก้อนงามหากเขาออกจากทีม และถ้าทีมเล่นดีตั้งแต่แรกน่ะเขาก็คงไม่ต้องมานั่งลุ้นแบบทุกวันนี้หรอกว่าจะโดนไล่ออกรึเปล่า"
"ยูไนเต็ด จำเป็นต้องได้ลุ้นแชมป์ในรายการใหญ่ๆ แต่พวกเขาไม่เข้าใกล้กับระดับนั้นเลยในช่วง 1 ปีที่ผ่านมา และคนที่ต้องรับผิดชอบกับเรื่องนี้ก็คือตัวผู้จัดการทีม ต้องบอกเลยว่าผมคงจะแปลกใจมากๆ ถ้ามันไม่เกิดการเปลี่ยนแปลง (ในตำแหน่งกุนซือ) ต่อให้เมื่อวานนี้พวกเขาจะได้แชมป์ก็ตาม"