ใครจะเป็นรายต่อไป! 7 กุนซือคนหนุ่มที่อาจได้คุม เชลซี

ใครจะเป็นรายต่อไป! 7 กุนซือคนหนุ่มที่อาจได้คุม เชลซี
เชลซี ต้องเริ่มนับหนึ่งอีกครั้งในการสร้างทีมใหม่ หลังพวกเขาตัดสินใจแยกทางกับ เมาริซิโอ โปเช็ตติโน่ อย่างเป็นทางการเมื่อวันอังคารที่ผ่านมา และงานนี้พวกเขาจำเป็นต้องควานหากุนซือคนต่อไปเพื่อนำสโมสรให้บรรลุเป้าหมายที่ต้องการ

 "พอช" เข้ามากุมบังเหียนเมื่อช่วงซัมเมอร์ที่ผ่านมา โดยการทำงานของเขาในช่วงแรกไม่ค่อยดีนักเนื่องจากทีมไม่ค่อยได้ผลการแข่งขันที่ต้องการ อย่างไรก็ตาม กุนซือชาวอาร์เจนไตน์ ค่อยๆ ยกระดับฟอร์มของทีมจนในที่สุดสามารถจบอันดับ 6 คว้าตั๋วไปเล่นศึกยูฟ่า คอนเฟอเรนซ์ ลีก ได้สำเร็จ

 การแยกทางกับ โปเช็ตติโน่ ในครั้งนี้ เชลซี มีเป้าหมายชัดเจนว่าต้องการ "กุนซือคนหนุ่ม" ที่จะเข้ามาสร้างทีม โดยตัวเก็งเต็งหนึ่งในเวลานี้คงหนีไม่พ้น โรแบร์โต้ เด แซร์บี้ นายใหญ่ชาวอิตาเลียน แล้วยังมีใครอีกที่เป็นเฮดโค้ชคนรุ่นใหม่ที่ "สิงห์บลูส์" อยากได้มานั่งเก้าอี้สำคัญนี้ ?!!? 

1. โรแบร์โต้ เด แซร์บี้

งานปัจจุบัน : ฟรีเอเจนต์ (งานล่าสุดคุม ไบรท์ตัน)

 เชลซี ไม่รู้ไปติดอกติดใจอะไรกับไบรท์ตัน แอนด์ โฮฟ อัลเบี้ยน นักหนา เพราะก่อนหน้านี้พวกเขามักใช้บริการบุคลากรของ "เดอะ ซีกัลส์" หลายคน อาทิเช่น แกรม พอตเตอร์ (กุนซือโดนปลดไปแล้ว), มอยเซส ไกเซโด้ และ มาร์ค กูกูเรย่า ดังนั้นหากจะมีการแต่งตั้งผู้จัดการทีมคนใหม่อาจหนีไม่พ้นสมาชิกในถิ่นเอแม็กซ์ สเตเดี้ยม 

 คงไม่ใช่เรื่องเซอร์ไพรส์ที่ เด แซร์บี้ ซึ่งเข้ามากุมบังเหียนแทน พอตเตอร์ ตอนที่ย้ายไปคุม "สิงห์บลูส์" จะเป็นเต็งหนึ่งที่จะได้นั่งเก้าอี้ร้อนในถิ่นสแตมฟอร์ด บริดจ์ หลังเจ้าตัวประกาศอำลา "นกนางนวล" เมื่อสัปดาห์ที่ผ่านมา 

 เด แซร์บี้ สร้างปรากฎการณ์สุดยิ่งใหญ่ให้กับ ไบรท์ตัน ด้วยการนำสโมสรผ่านไปเล่นยูโรปา ลีก เมื่อฤดูกาล 2022/2023 ซึ่งเป็นครั้งแรกในหน้าประวัติศาสตร์สโมสร แม้ผลงานของเขาอาจไม่ค่อยสวยหรูเพราะซีซั่นนี้นำทีมจบอันดับ 11

 ด้วยสไตล์การทำทีมสนุกเร้าใจ จึงไม่ใช่เรื่องแปลกที่ บาเยิร์น มิวนิค, ยูเวนตุส และ เอซี มิลาน อยากได้ตัวเขาไปกุมบังเหียน และ เชลซี คงไม่รอช้าที่จะรีบยื่นข้อเสนอให้กับเขาเช่นกัน 

2. ยูเลียน นาเกลส์มันน์

งานปัจจุบัน : ทีมชาติเยอรมนี 

 หลายคนอาจมองว่าโอกาสที่ ยูเลียน นาเกลส์มันน์ จะคุม เชลซี ค่อนข้างน้อย เพราะเจ้าตัวเพิ่งประกาศต่อสัญญาในการคุมทีมชาติเยอรมนีออกไปจนถึงจบฟุตบอลโลก 2026 แต่ทุกอย่างอาจพลิกผันทางผลงานในศึกยูโร 2024 ไม่น่าพอใจ 

 สำหรับ นาเกลส์มันน์ อายุแค่ 36 ปี แต่ผ่านประสบการณ์ในการกุมบังเหียนมาอย่างโชกโชนทั้ง ฮอฟเฟ่นไฮม์, แอร์เบ ไลป์ซิก และ บาเยิร์น มิวนิค ก่อนจะก้าวขึ้นมาทำงานระดับชาติกับทัพ "อินทรีเหล็ก"

 จริงๆ แล้วชื่อของ นาเกิลส์มันน์ กับ เชลซี เกี่ยวโยงกันมานานพอสมควร โดยเฉพาะตอนที่เขาสร้างชื่อโด่งดังสุดขีดกับ บาเยิร์น ตอนที่นำสโมสรคว้าแชมป์บุนเดสลีกา เมื่อฤดูกาล 2021/2022 

 จะว่าไปแล้ว นาเกิลส์มันน์ มีคุณสมบัติครบถ้วนตามที่ เชลซี ต้องการทั้งหนุ่มแน่นและโปรไฟล์ดี แต่หลายคนมองว่าเป็นไปได้ยากเพราะเจ้าตัวเพิ่งขยายสัญญากับทัพ "อินทรีเหล็ก" กระนั้นก็ใช้ว่าจะเป็นไปไม่ได้ เพราะถ้า เยอรมนี ผลงานแย่ในยูโรซัมเมอร์นี้  แถม เจอร์เก้น คล็อปป์ กำลังว่างงาน ฉะนั้นอาจมีอะไรเปลี่ยนแปลงก็ได้ !! 

3. มิเชล ซานเชซ

งานปัจจุบัน :  จีโรน่า

 อีกหนึ่งตัวเลือกที่น่าสนใจไม่น้อยนั่นก็คือ มิเชล ซานเชซ หลังสร้างความฮือฮาในการนำสโมสรเล็กๆ อย่าง จีโรน่า ที่เบียดลุ้แชมป์ ลา ลีกา เป็น เรอัล มาดริด และ บาร์เซโลน่า สุดมันในฤดูกาลนี้ 

 ซานเชซ ปลุกปั้น จีโรน่า มาตั้งแต่ปี 2021 และค่อยๆ พัฒนาทีมอย่างต่อเนื่องโดยทุกอย่างมาระเบิดเถิดเทิงในซีซั่นนี้เมื่อเขานำสโมสรก้าวขึ้นมาเป็นจ่าฝูงลีกในช่วงแรกๆ แต่น่าเสียดายที่ยืนระยะไม่อยู่ทำให้โดย "ราชันชุดขาว" กับ "เจ้าบุญทุ่ม" แซงหน้า

 อย่างไรก็ตามการนำ จีโรน่า ยึดอันดับ 3 ในตารางลีกทั้งๆ ที่ขุมกำลังเป็นรองทีมยักษ์ใหญ่ในลีกสูงสุดแดนกระทิงดุ และได้ตั๋วไปลุยศึกยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ ลีก ในฤดูกาลหน้า ถือเป็นการการันตีให้เห็นอย่างชัดเจนว่า ซานเชซ มีมันสมองไม่ธรรมดาจริงๆ

 ดังนั้นจึงไม่ใช่เรื่องเซอร์ไพรส์ถ้าชื่อของ ซานเชซ จะเป็นที่หมายตาของบรรดาสโมสรชั้นนำในทวีปยุโรป และ เชลซี ก็อยากได้เขาเช่นกันเพราะอายุเพียง 48 ปีแต่ความสามารถเหลือล้น

4. รูเบน อโมริม

งานปัจจุบัน :  สปอร์ติ้ง ลิสบอน 

 สำหรับโค้ชที่เนื้อหอมมากๆ อีกรายอย่าง รูเบน อโมริม นายใหญ่สปอร์ติ้ง ลิสบอน ก็น่าสนใจไม่น้อย หลังเพิ่งจะนำทีมผงาดคว้าแชมป์พรีเมยร่า ลีกา โปรตุเกส ในฤดูกาล 2023/2024 

 กุนซือวัย 39 ปี ได้รับความสนใจจากหลายสโมสรยักษ์ใหญ่ในยุโรป โดยหนึ่งในนั้นก็คือ ลิเวอร์พูล ซึ่งถึงขนาดมีข่าวว่าได้เปิดการเจรจากันแล้ว เพราะ "หงส์แดง" อยากได้ตัวมาแทน เจอร์เก้น คล็อปป์ แต่สุดท้ายก็ไม่มีอะไรเกิดขึ้น 

 หลังพลาดคุม ลิเวอร์พูล เจ้าตัวก็ตกเป็นข่าวใหญ่เดินทางมาเจรจากับ เวสต์แฮม ยูไนเต็ด เพื่อจะรับงานคุม "ขุนค้อน" แทน เดวิด มอยส์ แต่บทสรุปก็เหมือนกับ "เดอะ เร้ดส์" และต้องกลับไปตายรังกับ ลิสบอน ต่อไป

 อย่างไรก็ตามด้วยศักยภาพของ กุนซือชาวโปรตุกีส คงทำให้ เชลซี ต้องสายตามองเช่นกัน แม้โอกาสจะค่อยข้างน้อย เพราะสไตล์การเล่นและแท็คติกที่ค่อนข้างคล้าย โชเซ่ มูรินโญ่ ไม่น่าจะเหมาะกับไอเดียของ ท็อดด์ โบห์ลี่ ซักเท่าไหร่ 

5. เอ็นโซ่ มาเรสก้า

งานปัจจุบัน : เลสเตอร์ ซิตี้

 กุนซือที่ได้รับความสนใจเป็นพิเศษอีกรายก็คือ เอ็นโซ่ มาเรสก้า ซึ่งเพิ่งจะพา เลสเตอร์ ซิตี้ เลื่อนชั้นสู่พรีเมียร์ลีกได้สำเร็จ ทั้งๆ ที่เพิ่งจะกุมบังเหียนในฤดูกาลแรกเท่านั้น 

 มาเรสก้า ถือเป็นโค้ชที่มีประสบการณ์โชกโชนอย่างมากสมัยที่เป็นนักเตะโดยผ่านการเล่นให้กับทีมชั้นนำอย่าง ยูเวนตุส, ฟิออเรนติน่า, ซามพ์โดเรีย และ เวสต์บรอมวิช อัลเบี้ยน เป็นต้น ดังนั้นเรื่องศาสตร์ในเชิงลูกหนังถือว่ามีเต็มสมอง 

 ยิ่งไปกว่านั้นโค้ชชาวอิตาเลียนยังเพิ่มพูนความรู้ในเชิงลูกหนังมากยิ่งขึ้นเมื่อมีโอกาสได้ทำงานเป็นผู้ช่วยโค้ชของ เป๊ป กวาร์ดิโอล่า ที่ แมนเชสเตอร์ ซิตี้ ทำให้เขาพัฒนาตัวเองในฐานะโค้ชมากยิ่งขึ้นเป็นทวีคูณ

 ด้วยประสบการณ์ลูกหนังผสมกับการได้ศึกษาความรู้ในเรื่องแท็คติกมาจาก เป๊ป จึงเป็นเหตุผลสำคัญที่ทำให้ เลสเตอร์ ตัดสินใจแต่งตั้งเขาทำหน้าที่ผู้จัดการทีม และก็ไม่ผิดหวังเมื่อสามารถนำทัพ "จิ้งจอกสยาม" คว้าแชมป์ เดอะ แชมเปี้ยนชิพ ได้อย่างสุดยอด พร้อมรีเทิร์นสู่ลีกสูงสุดเมืองผู้ดีอีกครั้ง 

6. โธมัส แฟร้งค์

งานปัจจุบัน : เบรนท์ฟอร์ด

 ผลงานในการคุม เบรนท์ฟอร์ด ของ โธมัส แฟร้งค์ ค่อนข้างสะดุดตาสำหรับ เชลซี เพราะด้วยขุมกำลังของพวกเขาสามารถฟาดฟัดกับทีมชั้นนำในพรีเมียร์ลีกได้อย่างสนุกเร้าใจ และนั่นเป็นเหตุผลที่ชื่อของเขาอยู่ในลิสต์ของบอร์ดบริหาร "สิงห์บลูส์"

 แฟร้งค์ เคยมีข่าวพัวพันกับ แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด และ ลิเวอร์พูล มาแล้ว แต่สุดท้ายเจ้าตัวออกโรงยืนยันว่าต้องการอยู่สร้าง เบรนท์ฟอร์ด ต่อไป แต่แน่นอนว่าสถานการณ์อาจมีการเปลี่ยนแปลงเพราะตอนนี้ปิดซีซั่นแล้ว และเขาจำเป็นต้องคิดถึงอนาคตตัวเองเช่นกัน

 กุนซือชาวเดนมาร์ก อายุ 50 ปี ยังถือว่าหนุ่มแน่นในงานด้านโค้ช และผลงานของเขาในการปลุกปั้น "ผึ้งน้อย" ถือว่าสอบผ่าน ดีไม่ดีถ้าได้ตัวมากุมบังเหียนอาจจะเห็นลูกศิษย์ของเขาอย่าง ไอแวน โทนี่ย์ ย้ายมาร่วมทัพก็ได้ 

7. เซบาสเตียน เฮอเนส

งานปัจจุบัน : สตุ๊ตการ์ท

 สำหรับ เซบาสเตียน เฮอเนส เป็นอีกรายที่มองข้ามไม่ได้เช่นกัน หลังเจ้าตัวสร้างผลงานชิ้นโบว์แดงในการคุม สตุ๊ตการ์ท จบตำแหน่งรองแชมป์บุนเดสลีกา เยอรมนี ทั้งๆ ที่กุมบังเหียนแค่ซีซั่นแรกเท่านั้น 

 กุนซือคนหนุ่ม วัย 42 ปี สามารถนำทีมขับเคี่ยวกับ ไบเออร์ เลเวอร์คูเซ่น และ บาเยิร์น มิวนิค ได้อย่างสุดมัน แต่สุดท้ายไม่สามารถสู้กับมันสมองที่ปราดเปรื่องของ ชาบี อลอนโซ่ นายใหญ่ชาวสแปนิชได้ ทำให้เป็นเพียงแค่พระรองของทัพ "ห้างขายยา" เท่านั้น

 อย่างไรก็ตาม เฮอเนส ถือว่าสร้างปรากฎการณ์ให้กับวงการลูกหนังเมืองเบียร์เมื่อสามารถเขี่ยทัพ "เสือใต้" หล่นไปอยู่อันดับ 3 ในตารางลีก ด้วยเหตุนี้จึงไม่ใช่เรื่องแปลกที่ชื่อของเขาจะติดทำเนียบว่าที่กุนซือคนใหม่ของ เชลซี

 กระนั้น เฮอเนส อาจจะตัดสินใจทำงานกับ สตุ๊ตการ์ท ต่อไปหลังนำทีมคว้าโควตาไปเล่นแชมเปี้ยนส์ ลีกครั้งแรกในรอบ 15 ปี เพราะอย่างน้อยก็จะได้ลิ้มรสชาติความท้าทายในเกมชิงโทรฟี่ "บิ๊กเอียร์" ซึ่งน่าตื่นเต้นกว่าหลายเท่า 

ทอมเม้ง 



ที่มาของภาพ : gettyimages,
ติดตามช่องทางอื่นๆ:
Website : siamsport.co.th
Facebook : siamsport
Twitter : siamsport_news
Instagram : siamsport_news
Youtube official : siamsport
Line : @siamsport