สถิติเจ้าบ้านข่มมิด, ระวังพลังแฝงทีมหนีตาย ! เปิด 5 ประเด็นก่อนเกม ลิเวอร์พูล ดวล ลีดส์

สถิติเจ้าบ้านข่มมิด, ระวังพลังแฝงทีมหนีตาย ! เปิด 5 ประเด็นก่อนเกม ลิเวอร์พูล ดวล ลีดส์
เจอร์เก้น คล็อปป์ นายใหญ่ลิเวอร์พูล เพิ่งจะนำทัพ "หงส์แดง" กลับมาโชว์ฟอร์มหรูในเกมบุกทุบ อาแจ็กซ์ อัมสเตอร์ดัม เกมยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ ลีก ช่วงกลางสัปดาห์ โดยตอนนี้พวกเขาต้องกลับมาตั้งสติในศึกพรีเมียร์ลีก อังกฤษ รับมือ ลีดส์ ยูไนเต็ด หลังจากที่เพิ่งเสียฟอร์มบ๊วยติดคอแพ้ น็อตติงแฮมป์ ฟอเรสต์ เมื่อสัปดาห์ที่แล้ว งานนี้เจ้าบ้านมีสถิติข่มแบบมิดด้าม แต่ตอนนี้อย่าเพิ่งไปเชื่อสถิติอะไรทั้งๆ เนื่องจากผลงานของ "เดอะ เร้ดส์" ลุ่มๆ ดอนๆ ทุกอย่างสามารถเกิดขึ้นได้หมด ยิ่ง "ยูงทอง" เป็นทีมหนีตายคงมีพลังแฝงที่พร้อมระเบิดที่แอนฟิลด์เช่นเดียวกัน

1. ระบบไหนเหมาะกับ ลิเวอร์พูล 

คล็อปป์ จัดการวางแท็กติก 4-4-2 โดยใช้ระบบไดมอนด์ในเกมบุกถิ่น อาแจ็กซ์ อัมสเตอร์ดัม ศึกยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ ลีก รอบแบ่งกลุ่ม เมื่อวันพุธที่ผ่านมา โดยผลงานในครึ่งชั่วโมงแรกกระท่อนกระแท่นสุดๆ เกือบโดนเจ้าบ้านส่องประตูหลายครั้ง 

 อย่างไรก็ตามหลังจากนั้นทัพ "หงส์แดง" สามารถปรับตัวได้และเริ่มโชว์ฟอร์มได้อย่างโดดเด่น ก่อนที่พวกเขาจะจัดการยัดเยียดความปราชัยให้กับ อาแจ็กซ์ ไปแบบเบาๆ สบายๆ 3-0 พร้อมตีตั๋วเข้ารอบ 16 ทีมสุดท้ายถ้วย "บิ๊กเอียร์" เรียบร้อยแล้ว

 งานนี้ กุนซือชาวเยอรมัน อาจจะเลือกที่จะใช้ระบบนี้รับมือกับ ลีดส์ โดยให้ โรแบร์โต้ ฟีร์มีโน่ ยืนอยู่ข้างหลัง โมฮาเหม็ด ซาลาห์ กับ ดาร์วิน นูนเญซ แต่กระนั้นก็มีความเป็นไปได้ที่เขาจะหวนกลับมาใช้แผน 4-3-3 ที่คุ้นเคยอีกครั้ง

 ก็อย่างที่เกริ่นไปข้างต้นว่า "เดอะ เร้ดส์" การันตีเข้ารอบน็อกเอาต์ แชมเปี้้ยนส์ ลีก ไปแล้ว ทำให้ คล็อปป์ แอนด์ โค. สามารถกลับมามีสมาธิกับเกมลีกได้อย่างเต็มที เพราะสถานการณ์ของทีมในตอนนี้ไม่ค่อยดีนัก หากพลาด 3 คะแนนอีกแมตช์ โอกาสลุ้นท็อปโฟร์อาจจะลำบากมากยิ่งขึ้น 

2. คล็อปป์ มีบุญได้คุมทีมข้างสนาม

 พฤติกรรมของ คล็อปป์ ที่ตะคอกใส่ผู้ตัดสินในแมตช์เฉือน แมนเชสเตอร์ ซิตี้ จนเป็นเหตุให้โดนตั้งข้อหาแสดงพฤติกรรมไม่เหมาะสม แน่นอนว่าสาวก "เดอะ ค็อป" คงทำใจกันไปบ้างแล้วว่า "บอส" อาจโดนสมาคมฟุตบอลอังกฤษ สั่งแบนห้ามคุมทีมข้างสนามในเกมรับมือ "ยูงทอง"

 เดชะบุญ นายใหญ่เลือดด๊อยท์ช รอดจากการถูกแบนอย่างน่าเหลือเชื่อ แต่ก็ยังถูกลงโทษด้วยการปรับเงินจำนวน 30,000 ปอนด์ (ราว 1.3 ล้านบาท) นั่นหมายความว่า คล็อปป์ จะได้ลงไปยืนแหกปากกระตุ้นลูกทีมอยู่ที่ริมเส้นข้างสนามเหมือนเดิม

 การมี คล็อปป์ คอยยืนสั่งการอยู่ที่ซุ้มม้านั่งสำรองมีความหมายอย่างมากกับแข้งทุกคนของ "หงส์แดง" เพราะเขาเปรียบเสมือนขวัญกำลังใจของทุกๆ คนในสโมสร ยิ่งตอนนี้ทีมกำลังเจอวิบากกรรมในเกมลีกที่ผลงานไม่ค่อยดีนัก แค่ได้เห็น "บอส" ตะโกนสั่งการนักเตะทุกคนก็พร้อมวิ่งถวายชีวิตอยู่แล้ว

 อย่างไรก็ตาม แฟนบอลลิเวอร์พูล คงหวังว่า กุนซือชาวเยอรมัน จะไม่ตบะแตกวิ่งไปจวกกรรมการอีกครั้งในแมตช์นี้ เพราะไม่อย่างนั้นเจ้าตัวคงไม่รอดจากการโดนลงโทษห้ามคุมทีมในสนามแหงๆ !!

3.  ระวังฤทธิ์เดชทีมหนีตาย

 สิ่งที่ถือเป็นขวัญกำลังใจสำหรับสาวก "เดอะ ค็อป" ก็คือสถิติของ ลิเวอร์พูล ที่ข่ม ลีดส์ ยูไนเต็ด มิดด้าม โดยพวกเขาสะกดคำว่าแพ้ไม่เป็น 12 แมตช์ในทุกรายการเมื่อดวลแข้งกับทัพ "ยูงทอง" (ชนะ 9 เสมอ 3) โดยเกมสุดท้ายที่เจ้าบ้านแพ้ต้องย้อนไปเมื่อเดือนเมษายน 2001 เลยทีเดียว

 นอกจากนี้หาก "เดอะ เร้ดส์" ไม่แพ้ในเกมนี้ พวกเขาจะสร้างสถิติไร้พ่าย 30 เกมในลีกที่สนามแอนฟิลด์ ซึ่งจะเป็นสถิติไร้พ่ายในบ้านยาวนานเป็นอันดับ 6 ในหน้าประวัติศาสตร์ของสโมสรเลยทีเดียว 

 ยังไม่หมดแค่นั้น เฟอร์จิล ฟาน ไดค์ ปราการหลังจอมแกร่งทีมชาติเนเธอร์แลนด์ ถือเป็นตัวนำโชคของสโมสรเพราะเขาลงเล่นให้ต้นสังกัดในถิ่นตัวเองโดยที่ไม่แพ้ทีมใด 70 แมตช์

 อย่างไรก็ตามขึ้นชื่อว่าทีมหนีตาย แน่นอนว่ามักจะมีพลังแฝง ซึ่ง ลิเวอร์พูล ก็โดนมาแล้วในเกมที่บ๊วยติดคอแพ้ น็อตติงแฮม ฟอเรสต์ เมื่อสัปดาห์ที่แล้ว แถมยิ่งตอนนี้ "หงส์แดง" เป็นพวกฟอร์มสามวันดีสี่วันพัง สถิติต่างๆ อาจจะไม่มีความหมายก็ได้ !!!

4. ลีดส์ อาการหนักชนะไม่เป็น 8 เกมรวด

 หลังจากที่คว้า 7 คะแนนจาก 3 แมตช์แรกในลีก ทีมของกุนซือเจสซี่ มาร์ช ก็ไม่สามารถสะกดคำว่า "ชนะ" ได้อีกเลย 8 แมตช์รวด ทำให้ตอนนี้พวกเขาร่วงไปอยู่โซนตกชั้นเรียบร้อยแล้ว โดยมี 9 คะแนนเท่ากับ วูล์ฟส์ และ ฟอเรสต์ แต่อันดับสูงกว่าเพราะประตูได้เสียดีกว่าเท่านั้น

 สถานการณ์ที่น่าเป็นห่วงของ ลีดส์ ก็คือ 4 เกมลีกที่ผ่านมาพวกเขาแพ้เรียบวุธ ทำให้ทีมจำเป็นอย่างยิ่งต้องรีบกลับมาเก็บชัยชนะให้ได้ เนื่องจากหากแมตช์เยือน ลิเวอร์พูล ไม่สามารถเก็บ 3 แต้มได้ งานนี้มีโอกาสสูงที่จะหล่นไปอยู่อันดับบ๊วยแทน

 แน่นอนว่าด้วยฟอร์มการเล่นและชื่อชั้นของสโมสร กอปรกับการต้องไปเยือนแอนฟิลด์ บรรดาเกจิอาจารย์ต่างฟันธงว่า "ยูงทอง" ไม่น่ารอดในแมตช์นี้ แต่อย่างลืมว่าพวกเกจิลูกหนังเหล่านี้ก็เคยหน้าแตกหมอไม่รับเย็บมาแล้วในเกมที่ "หงส์แดง" แพ้ ฟอเรสต์ เมื่อสัปดาห์ที่ผ่านมา

 ฉะนั้นคำว่า "ลูกกลมๆ" อะไรก็สามารถเกิดขึ้นได้ยังคงใช้ได้เสมอ และยิ่งตอนนี้ ลิเวอร์พูล ก็ไม่ใช่ทีมที่รักษามาตรฐานการเล่นที่แน่นอนซะด้วย งานนี้บอกเลยว่า มาร์ช แอนด์ โค. ก็มีสิทธิ์หักปากกาเซียนได้เช่นกัน

5. ห้าเกมอาจเปลี่ยนสถานการณ์ 

 ตอนนี้เหลือประมาณ 2 สัปดาห์ก็จะถึงการแข่งขันฟุตบอลโลก 2022 ที่ประเทศกาตาร์ โดย ลิเวอร์พูล มีโปรแกรมที่จะต้องลงเล่นแบบถี่ยิบ 5 แมตช์ โดยสามในห้าเกมจะเป็นเกมลีกสูงสุดเมืองผู้ดี

 หลังจบแมตช์กับ ลีดส์ พวกเขาต้องเจอกับเกมที่หนักพอสมควรนั่นก็คือการออกไปเยือน "ไก่เดือยทอง" ท็อตแน่ม ฮ็อทสเปอร์ ในช่วงสุดสัปดาห์หน้า ก่อนที่จะเปิดบ้านปะทะ "นักบุญ" เซาธ์แฮมป์ตัน ในวันที่ 12 พฤศจิกายน

 ระหว่างแมตช์ดังกล่าว "เดอะ เร้ดส์" มีคิวลงเล่นเกมสุดท้ายรอบแบ่งกลุ่ม แชมเปี้ยนส์ ลีก พบ นาโปลี ซึ่งจะเป็นการดวลกันว่าทีมไหนจะคว้าแชมป์กลุ่ม เอ นอกจากนี้ยังมีแมตช์พบ "แกะเขาเหล็ก" ดาร์บี้ เคาน์ตี้ ในศึกคาราบาว คัพ 

  การแพ้ ฟอเรสต์ ถือเป็นหายนะอย่างแท้จริงของ ลิเวอร์พูล แต่ถ้า "หงส์แดง" สามารถเก็บแต้มได้หมดในเกมลีกก่อนที่จะพักเบรกเพื่อหลีกทางให้เกมฟุตบอลโลก ฉบับตะวันออกกลาง งานนี้ก็ไม่แน่ว่าอันดับของทีมอาจจะขึ้นไปมีลุ้นท็อปโฟร์ หรืออาจกลับมาสู่เส้นทางการลุ้นแชมป์ด้วย 


ทอมเม้ง


ที่มาของภาพ : gettyimages.
ติดตามช่องทางอื่นๆ:
Website : siamsport.co.th
Facebook : siamsport
Twitter : siamsport_news
Instagram : siamsport_news
Youtube official : siamsport
Line : @siamsport