ติอาโก้ ซิลวา เซนเตอร์แบ็กชาวบราซิเลียนของ เชลซี เผยตนเคยเกือบเสียชีวิตมาแล้วสมัยที่ค้าแข้งในประเทศรัสเซีย ก่อนที่จะรักษาตัวจนหาย และสามารถยืนระยะในการเล่นระดับสูงได้จนถึงปัจจุบันนี้
ดาวเตะเลือดแซมบ้า เคยย้ายจาก เอฟซี ปอร์โต้ ไปเล่นแบบยืมตัวกับ ดินาโม มอสโก เมื่อปี 2005 และดวงแตกสุดๆ เมื่อติดเชื้อวัณโรค และอาการหนักจนแทบเอาชีวิตไม่รอด
อาการในตอนนั้นมีทั้งไข้ขึ้นสูง, ไอตลอด และมีเหงื่อออกเยอะมาก โดย ซิลวา ในตอนนั้นอายุเพียง 21 ปี และติดโรคนี้แบบไม่รู้ตัวนานถึง 6 เดือนก่อนที่จะได้รับการวินิจฉัยว่าติดวัณโรค
ช่วงเวลานั้นแพทย์ได้แจ้งกับเขาว่าเกือบต้องลงไปนอนคุยกับรากมะม่วงอยู่แล้วแต่ดีที่ตรวจพบได้ทันเวลา และอาการป่วยดังกล่าวทำให้ต้องนอนพักรักษาตัวในโรงพยาบาลนานถึงครึ่งปี
ซิลวา ซึ่งปัจจุบันก้าวขึ้นมาเป็นหนึ่งในแนวรับที่แข็งแกร่งที่สุดในโลก เปิดใจว่าตนต้องกินยาเยอะมาก และยังต้องฉีดยาหลายเข็มเลยทีเดียว "ในปี 2005 ผมถูกส่งไปเล่นแบบยืมตัวกับ ดินาโม มอสโก แต่เมืองนั้นมันน่ากลัวมากๆ ผมทั้งหนาวและเป็นไข้ตลอด"
"ผมต้องนอนอยู่ที่โรงพยาบาลนานถึง 6 เดือน น้ำหนักขึ้น 10 กิโลฯ แม้ว่าผู้ป่วยคนอื่นๆ ที่อยู่โรงพยาบาลจะตัวผอมแห้ง และไม่อยากกินอะไร แต่ผมหิวตลอดเวลา แม่ของผมบอกว่าผมไม่ได้ดูเหมือนคนป่วยเลย แต่ผมไม่สามารถเคลื่อนไหวได้อย่างที่ต้องการ"
"คุณหมอบอกกับผมว่าต้องลุกขึ้นเดินบ้าง แต่ผมไม่สามารถทำแบบนั้นได้ เชื้อโรคตัวนี้มันเป็นโรคติดต่อ ดังนั้นผมต้องกักตัว สิ่งเดียวที่ผมสามารถทำได้ก็คือเล่นเกมคอมพิวเตอร์ และท่องโลกอินเตอร์เนต"
"บางครั้งหมอก็เข้ามาและฉีดยาผม สามหรือสี่ครึ้งต่อวัน พร้อมกับให้กินยา 10-15 เม็ด สุดท้ายผมก็ได้รู้ความจริงว่าผมติดเชื้อวัณโรคมานานถึง 6 เดือน หมอบอกว่าถ้าหากผ่านไปอีก 2 สัปดาห์ ผมอาจไม่สามารถฟื้นตัวได้อีกเลย"
"ผมเกือบตายอยู่แล้ว นี่คือเหตุผลที่ว่าทำไมเวลาที่ผมลงสนาม ผมมักจะคิดย้อนกลับไปถึงช่วงเวลาที่อยู่ในรัสเซีย" อดีตแนวรับ เอซี มิลาน และปารีส แซงต์-แชร์กแมง ร่ายยาว
ทั้งนี้อาการของ ซิลวา ค่อนข้างรุนแรงมากๆ จนแพทย์ต้องตัดบางส่วนของปอดด้านขวาออกไป โดยการทำแบบนั้นเกือบทำให้เขาต้องจบอาชีพพ่อค้าแข้งเลยทีเดียว