โทษฐานที่ คริสเตียโน่ โรนัลโด้ ทำลายบรรยากาศรื่นเริงพลางสร้างความแตกร้าวให้สถาบันลูกหนังอย่าง แมนฯ ยูไนเต็ด จนถูกลงโทษด้วยการตัดออกจากทีมชุดที่บุกไปเยือน สแตมฟอร์ด บริดจ์ เมื่อวันอาทิตย์ที่ผ่านมา
เด็กผีจำนวนหนึ่งผิดหวังกับการกระทำครั้งนี้ของ "พี่โด้" ยิ่งนักจนนำมาซึ่งการวิพากษ์-วิจารณ์อย่างจงหนัก อันนำมาซึ่งคำพูดที่ว่า...แมนฯ ยูไนเต็ด ไม่น่ากระชากตัวดาวเตะผู้นี้กลับมาเลย
อืมมมมมม...นะ
ก่อนอื่น ผมขออนุญาตอธิบายแบบนี้ครับ
คือตอนแรก แมนฯ ยูไนเต็ด ก็ไม่ได้มีความประสงค์อยากกระชาก คริสเตียโน่ โรนัลโด้ กลับมาหรอกครับคุณ เพราะเรื่องการเอาตัวดาวเตะผู้นี้กลับคืนถิ่นมันน่าจะจบไปตั้งแต่เขาเลื้อยตูดจาก เรอัล มาดริด ไปอยู่กับ ยูเวนตุส แล้ว
ย้อนกลับไป ณ จังหวะนั้น "พี่โด้" อายุ 36 ถือว่ามากเกินไปสำหรับการสร้างทีมใหม่ของ โอเล่ กุนนาร์ โซลชา
ต่อเมื่อมีกระแสรุนแรงว่า แมนฯ ซิตี้ ต้องการจะ "เอานะ" คริสเตียโน่ โรนัลโด้ ไปร่วมทีม
มันเหมือนการ "หักหน้า" ครับ
นั่นจึงเป็นที่มาของปฏิบัติการกระชากตัว "ไอ้เจ๊ตโด้" คืนถิ่นของ แมนฯ ยูไนเต็ด โดยมีเจ้าของหยดอสุจิผู้ให้กำเนิดดาวเตะผู้นี้ในโลกลูกหนังอย่าง เซอร์ อเล็กซ์ เฟอร์กูสัน เป็นผู้อยู่เบื้องหลัง
...ว่าแล้วขอทำความเข้าใจกันตรงจุดนี้อีกสักครั้ง
ผมเข้าใจครับว่าไม่ควรเอากลับมาตั้งแต่แรก ทว่ามันก็เป็นเรื่องที่ แมนฯ ยูไนเต็ด จะยอมไม่ได้
มันเป็นเรื่องของศักดิ์ศรี
ประมาณ...เสียเงินไม่ว่า เสียหน้าไม่ได้...โว้ยยยย !!!
คริสเตียโน่ โรนัลโด้ จะย้ายไปทีมไหนก็ได้ครับ ยกเว้นคู่กรณีโดยตรงของปีศาจแดงอย่าง แมนฯ ซิตี้ กับ ลิเวอร์พูล
และบางทีอาจรวมถึงคู่แข่งระดับพญายักษ์ทีมอื่นๆ ในพรีเมียร์ลีก
ลองคิดดูนะครับ หาก แมนฯ ยูไนเต็ด ทำเป็นทองไม่รู้ร้อนพลางปล่อยให้คู่แค้นร่วมเมืองอย่าง แมนฯ ซิตี้ ได้ตัวไปอย่างไม่ยี่หระ ก่อนคว้าแชมป์พรีเมียร์ลีกเมื่อฤดูกาลที่แล้วกับคู่แค้นร่วมเมืองอย่างเรือใบสีฟ้า
แมนฯ ยูไนเต็ด จะเสียหมามากขนาดไหน ???
ฉะนั้น & ฉะนี้
หากคุณคิดว่าตัวเองเป็นเด็กผีแบบสุดลิ่มทิ่มถูรู
มันเป็นเรื่องที่ "ยอมรับไม่ได้" แน่นอนครับ
สโมสรปีศาจแดงตระหนักถึงเรื่องนี้ดีจึงปล่อยให้มันเกิดความบัดสีบัดเถลิงแบบนั้นขึ้นไม่ได้
พูดง่ายๆ ว่าถ้าคุณบอกว่าตัวเองเป็นแฟนพันธุ์แท้ของ แมนฯ ยูไนเต็ด แล้วคุณไม่สะทกสะท้านกับการที่หนึ่งในตำนานของทีมตัวเองอย่าง คริสเตียโน่ โรนัลโด้ จะเลื้อยตูดไปสวมเครื่องแบบสีฟ้าของทีมในเมืองเดียวกัน
คุณก็ควรพิจารณาตัวเองว่าตัวคุณเองเป็นเด็กผีตัวจริงหรือเปล่า ???
หากตรึกตรองอย่างถี่ถ้วนแล้วพบว่าตัวเองไม่เดือดร้อนที่คุณพี่เขาจะไปสวมเครื่องแบบของ แมนฯ ซิตี้
นั่นแสดงว่าคุณอาจจะเป็นเด็กผีตัวปลอม !!!
แมนฯ ยูไนเต็ด เหมือนตกอยู่ในสถานการณ์ที่ถูกมัดมือชก
นี่คือเรื่องที่เราต้องเข้าใจ
แม้จะไม่อยู่ในแผนการทำทีมของคุณน้าลูกอม และไม่มีความจำเป็นต้องเอากลับมา แต่ก็จำเป็นต้องขัดขวางมิให้พวกเพื่อนบ้านผู้น่ารำคาญคว้าตัวเอาไป
อย่างไรก็ตาม
ณ ตอนนั้น สภาพร่างกายของ คริสเตียโน่ โรนัลโด้ ยังพอเเอาตัวรอดในสมรภูมิแข้งที่ฮาร์ดคอร์อย่างพรีเมียร์ลีกได้
อีกทั้งยังเป็นเรื่องที่โรแมนติกบรรลัย เมื่อดาวเตะระดับ GOAT อย่าง "พี่โด้" หวนคืนถิ่นเก่าที่เขาแจ้งเกิด
เหนือสิ่งอื่นใด
มันเป็นอีกครั้งที่ แมนฯ ยูไนเต็ด ในยุคตกต่ำสามารถสร้างความสั่นสะเทือนให้วงการลูกหนังไม่ต่างจากการโฆษณาตัวเองให้ตูมตามมากยิ่งขึ้น
จึงขอยืนยันหนักแน่นครับว่าในเมื่อมันเป็นแบบนั้น แมนฯ ยูไนเต็ด ก็จำเป็นต้องเอา "พี่โด้" กลับมาครับ
หลังกลับมาสวมเครื่องแบบปีศาจแดงอีกครั้ง ฝ่ายต่อต้านและผู้มีอคติก็ปรักปรำ "พี่โด้" ว่าเป็นตัวทำลายระบบและสปีริตของทีม
แฟนตัวยงของ คริสเตียโน่ โรนัลโด้ คนหนึ่งอย่างผมก็ออกตัวปกป้องในวงเล็บว่าแบบมีเหตุมีผล มิได้ไม่เข้าข้างกันแบบไม่ลืมหูลืมตาดูความจริง
ตัวอย่างเช่นเรื่อง "พี่โด้ไม่เพรส"
อืมมมมม...ไม่เพรสส์อะไรล่ะ ไม่เพรสส์บ้านป้ามึงดิ ในเมื่อ แมนฯ ยูไนเต็ด จากการทำงานของ โอเล่ กุนนาร์ โซลชา ไม่ได้ยึดรูปแบบการเล่นแบบเพรสซิ่งสักหน่อย มันไม่ใช่สไตล์การเล่นหลักของพวกเขาเหมือน ลิเวอร์พูล หรือ แมนฯ ซิตี้ นี่หว่า
ฤดูกาลที่แล้ว "พี่โด้" ซัลโวไป 18 ประตูในพรีเมียร์ลีก สูงที่สุดในทีม ส่วนอีกสถิติที่บังเกิดคือ แมนฯ ยูไนเต็ด เอาชนะคู่แข่งไม่ได้เลยสักนัดเดียวในเกมที่ คริสเตียโน่ โรนัลโด้ ไม่ได้ลงตัวจริง
สรุปว่าพี่แกยังมีความสำคัญต่อ แมนฯ ยูไนเต็ด แม้จะอยู่ในระหว่างการสร้างทีมใหม่ก็เถอะ
กระทั่งก่อนเปิดฤดูกาล 2022-23
"พี่โด้" ดันไม่ยอมกลับมารายงานตัวตามกำหนดซะอย่างนั้น
มิหนำยังมีข่าวร้อนว่าอยากย้ายทีมอีกต่างหาก โดยไม่ยอมออกโรงมาแก้ข่าวทั้งที่ตัวเองมีช่องทางในการสื่อสารทุกรูปแบบ
ในเมื่อไม่โต้แย้งก็เท่ากับยอมรับแบบกลายๆ ว่าเป็นเรื่องจริง
การไม่ได้เล่นในศึก ยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ ลีก เหมือนเป็นเรื่องใหญ่สำหรับเขา เฉพาะอย่างยิ่งเมื่อมีคู่ขับเคี่ยวอันดับหนึ่งอย่าง
ลีโอเนล เมสซี่ เป็นตัวเปรียบเทียบ
ผมมองว่าคุณพี่เขายึดติดกับการชิงดีชิงเด่นกับดาวเตะอาร์เจนติน่ามากเกินไปครับ
การไม่ยอมกลับมาฝึกซ้อมตามกำหนดทำให้สภาพของ คริสเตียโน่ โรนัลโด้ ถดถอย และไม่ฟิตเต็มถังเมื่อฤดูกาลเปิด
นอกจากนี้อายุที่ใบไม้ล่วงการเวลาก็เป็นอุปสรรคสำคัญอีกประการ
ชัดเจนว่าสภาพร่างกายไม่ปิ๊ดปี้ปิ๊ดเหมือนเดิม ทั้งเชื่องช้าและอืดอาดลงไปเยอะ แข้งขาไม่แข็งแรงเหมือนเก่า โดยมักจะช้ากว่าคู่แข่ง 1 จังหวะเสมอ
จากดาวซัลโวสูงสุดประจำสโมสรที่ไม่ลงตัวจริงแล้ว แมนฯ ยูไนเต็ด ไม่ชนะกลายเป็นตัวภาระของทีมในฤดูกาลนี้
...ซะอย่างนั้น
แทนที่จะเข้าใจ และยอมรับความจริงที่ไม่มีใครหนีพ้นพลางปรับเปลี่ยนสไตล์การเล่นและยอมรับการตัดสินใจของผู้จัดการทีม เจ้าของสมญา "CR7" กลับดันทุรังที่จะเอาชนะสังขารตัวเอง
ทุกครั้งที่ไม่ได้ลงตัวจริง หรือถูกเปลี่ยนตัว พี่แกมักจะแสดงออกทางสีหน้าว่ากูไม่ปลื้มนะครับ
สุดท้าย "อัตตา" ที่เบ่งบวมก็ระเบิดออกมาในเกมที่อัดตูดพญาโต้งเมื่อกลางสัปดาห์ก่อน
อะไรที่พากย์ภาษาอังกฤษว่า "อีโก้" มันบังตาดาวเตะผู้ยิ่งใหญ่อย่างพี่เขาจนพร่ามัวไปหมด ก่อนพ่ายแพ้ให้กับอารมณ์ชั่ววูบ
จังหวะที่ คริสเตียโน่ โรนัลโด้ ชวนตีนตัวเองออกจากสนามทั้งที่เกมยังไม่จบจนถูกตำหนิ แล้วมาแถลงการณ์ภายหลังว่าเป็นเพราะ "อารมณ์ชั่ววูบ" คอลัมนิสต์ลูกหนังผู้มีอาการทางจิตเล็กน้อยอย่างผมกลับคิดอกุศลว่ามันไม่ใช่อารมณ์ชั่ววูบอะไรอย่างที่เอามากล่าวอ้างหรอกครับ
เหมือนคุณพี่เขาอยากมี "ซีน" พลางเรียกร้องความสนใจ ด้วยรู้ว่าตัวเองมีฐานแฟนคลับสนับสนุนมหาศาล (ยอดติดตามในโลกโซเชี่ยลมากกว่าสถาบันลูกหนังอย่าง แมนฯ ยูไนเต็ด เสียอีก)
เพียงแต่ในสายตาของแฟนบอลส่วนใหญ่ นี่คือการทำเพื่อตัวเองมากกว่าเพื่อทีม แถมไม่มีความเป็นมืออาชีพ ทั้งที่สัญลักษณ์อย่างหนึ่งที่อยู่คู่กับดาวเตะผู้นี้มาตลอดคือความเป็นมืออาชีพ อันเป็นตัวอย่างของการใช้พรแสวงมากกว่าพรสวรรค์
คริสเตียโน่ โรนัลโด้ คือตัวอย่างของความมุมานะ อุตสาหะ พากเพียร และบากบั่น
กระทั่งทำหน้าเป็นตูดพลางโขยกบั้นเด้าออกจาก โอลด์ แทรฟฟอร์ด ในการศึกครั้งนั้น มันแทบไม่ต่างจากการกระทืบความดีงามที่ตัวเองอุตส่าห์สร้างสมเอาไว้จนแหลกสลายคาตีน
เรียนตามตรงว่าตั้งแต่หลุดอาการอยากถีบตัวเองออกจากเครื่องแบบปีศาจแดงจนตัวสั่น คริสเตียโน่ โรนัลโด้ ก็เสียคะแนนนิยมจากบรรดาเด็กผีไปอย่างมหาศาล
ถึงตอนนี้ "เด็กผี" แทบทุกหมู่เหล่ายักไหล่อย่างไม่แยแสแล้วนะครับว่าคุณพี่เขาอยากจะย้ายไปไหน
เข้าใจครับว่ามันยิ่งใหญ่จนจมไม่ลง แต่ "พี่โด้" ต้องใช้หัวแม่ตีนน้อยๆ ของตัวเองคิดให้ออกได้แล้วนะครับว่าไม่มียอดดาวเตะคนใดที่อยู่ยงคงกระพันในระดับสูงไปตลอด
วิธีการทำให้แฟนบอลจดจำไปตลอด ไม่จำเป็นต้องเป็นอันดับหนึ่งเพียงอย่างเดียว แต่การมีสุขร่วมเสพและมีทุกข์ร่วมต้านก็สามารถทำให้คุณเป็นที่จดจำระดับตำนานตลอดกาลได้
หากยอมรับความจริง ขอบอกว่าประสบการณ์ของยอดดาวเตะผู้นี้ยังมีประโยชน์ต่อ แมนฯ ยูไนเต็ด อย่างแน่นอน
เมื่อเดินทางมาถึงจุดนี้ก็สามารถเลือกได้นะครับว่าอยากจะเป็นแบบไหน ???
1. หากเกรงว่าสถิติมันจะสู้คู่ขับเคี่ยวโดยตรงของตัวเองอย่าง ลีโอเนล เมสซี่ ไม่ได้ก็ย้ายทีมซะ
เลือกทีมที่ช่วยให้คุณสามารถถล่มตาข่ายคู่แข่งได้เยอะๆ พลางคว้าแชมป์ใหญ่ๆ อีกสักรายการ ก่อนแขวนสตั๊ด
2. หากต้องการเป็นขวัญใจของเด็กผีตลอดกาลคนหนึ่งเหมือน บ๊อบบี้ ชาร์ลตัน, จอร์จ เบสต์, เดนิส ลอว์, ไบรอัน ร็อบสัน, เอริก คันโตน่า, รอย คีน, ไรอัน กิ๊กส์, พอล สโคลส์, เวย์น รูนี่ย์ และอื่นๆ อีกมากมายก็กลับตัวกลับใจซะ แล้วร่วมหัวจมท้ายพลางสู้ไปด้วยกันกับน้องๆ ในทีมปีศาจแดงที่กำลังก่อร่างสร้างตัวใหม่
เลือกเอาตามสบายเลยครับ เด็กผีอย่างผมคงไม่แสดงความผิดหวังออกมาอีกต่อไปแล้ว
เพียงแต่หากเลือกอย่างหลัง ผมมั่นใจแบบเต็มประดาว่าวันหนึ่ง คุณจะมีรูปปั้นตั้งตระหง่านอยู่แถวๆ โรงละครแห่งความฝันให้แฟนบอลรุ่นหลังมาเคารพบูชาเหมือน เซอร์ แมตต์ บัสบี้, เซอร์ อเล็กซ์ เฟอร์กูสัน และ 3 ทหารเสือ - ยูไนเต็ด ทรีนิตี้
ตอนนี้อยู่ที่ 'พี่โด้' จะเลือกแล้วครับ !!!
บอ.บู๋