การชิงชัยแชมป์พรีเมียร์ลีก อังกฤษ ประจำฤดูกาล 2023/2024 ยังคงเข้มข้นสูสีกันสุดๆ โดยในช่วงไม่ถึงเดือน "ม้าสาวตัว" ห้ามพลาดเด็ดขาดเพราะหากทีมใดสะดุดมีสิทธิ์หลุดวงโครจรได้เลย
สถานการณ์ในปัจจุบัน อาร์เซน่อล รั้งตำแหน่งจ่าฝูงมี 74 คะแนนโดยมี ลิเวอร์พูล ตามหายใจรดต้นคอ และ แมนเชสเตอร์ ซิตี้ แต่ทัพ "เรือใบสีฟ้า" มีภาษีดีกว่าตรงที่พวกเขาแข่งน้อยกว่า 1 นัดและตามหลังเพียง 1 คะแนนเท่านั้น
อย่างไรก็ตามทีมของกุนซือมิเกล อาร์เตต้า ยังมีโอกาสที่จะพลิกสถานการณ์ เพราะถ้ามองจากสถิติและศักยภาพของทัพ "ปืนใหญ่" พวกเขาสามารถเถลิงบัลลังก์แชมป์ลีกในซีซั่นนี้ได้เช่นกัน
1. แนวรับแข็งแกร่ง
วิลเลี่ยม ซาลิบา และ กาเบรียล มากัลเญส เคมีเข้ากันอย่างมาก โดยผลงานของทั้งสองคนช่วยทำให้เกมรับ อาร์เซน่อล แข็งแกร่งอย่างมากในฤดูกาลนี้ เพราะพวกเขาเสียไปแค่ 26 ประตูจากการลงสนาม 33 แมตช์ และอีกหนึ่งคนที่ต้องชื่นชมก็คือ เดแคลน ไรซ์ ซึ่งย้ายมาจาก เวสต์แฮม ยูไนเต็ด ด้วยค่าตัว 105 ล้านปอนด์ (ราว 4,620 ล้านบาท) มีส่วนในการช่วยทีมอย่างมากทั้งเกมรับ และเกมรุก
2. ตารางการแข่งขัน
หลังจากที่พวกเขาคว้าชัยชนะในเกมพบ วูล์ฟแฮมป์ตัน วันเดอเรอร์ส ตอนนี้ "เดอะ กันเนอร์ส" มีเกมสำคัญนั่นก็คือการทำศึกลอนดอน ดาร์บี้แมตช์ รับมือ เชลซี ที่สนามเอมิเรตส์ สเตเดี้ยม ช่วงกลางสัปดาห์นี้ ซึ่งเกิดขึ้นหนึ่งวันก่อนที่ แมนเชสเตอร์ ซิตี้ ต้องเผชิญหน้ากับ ไบรท์ตัน แอนด์ โฮฟ อัลเบี้ยน ถ้าหาก อาร์เตต้า แอนด์ โค. สามารถคว่ำ "สิงโตน้ำเงินคราม" พวกเขาจะทำแต้มฉีกหนี "เรือใบสีฟ้า" 4 คะแนน แม้ทีมของกุนซือเป๊ป กวาร์ดิโอล่า จะแข่งน้อยกว่า 2 เกม (ก่อนดวล ไบรท์ตัน วันพุธ) แต่นั่นถือเป็นการส่งแรงกดดันไปให้ แมนซิตี้ เช่นกัน
3. ผลต่างประตูได้เสียที่เหนือกว่า
อาร์เซน่อล, แมนซิตี้ และ ลิเวอร์พูล กำลังขับเคี่ยวในการลุ้นแชมป์ลีกแบบหายใจรดต้นคอ แต่งานนี้ผลต่างประตูได้เสียอาจจะเป็นส่วนหนึ่งในการตัดสินแชมป์พรีเมียร์ลีกในฤดูกาลนี้ แน่นอนว่าด้วยสถานการณ์ที่ทั้งสามทีมมีคะแนนไม่ห่างกัน ดังนั้นประตูได้เสียจึงอาจจะเป็นจุดที่ทำให้ "ปืนใหญ่" สร้างความได้เปรียบ เพราะปัจจุบันพวกเขามีผลต่างประตูได้เสียเหนือ แมนซิตี้ 7 ลูก ส่วน ลิเวอร์พูล ห่างกันถึง 8 ลูกเลยทีเดียว
4. อาการเหนื่อยล้าของนักเตะ
ตอนนี้เข้าสู่ช่วงท้ายของฤดูกาล แน่นอนว่าการลงสนามอย่างต่อเนื่องย่อมส่งผลกระทบต่อสภาพร่างกายของนักเตะ โดย แมนซิตี้ ต้องใช้พลังเยอะมากในการสู้กับ เชลซี รอบตัดเชือก ศึกเอฟเอ คัพ เมื่อวันเสาร์ที่ผ่านมา โดยทัพ "เรือใบสีฟ้า" ต้องแบ่งสมาธิในการลุ้นทั้งแชมป์ลีก และฟุตบอลถ้วยเก่าแก่ที่สุดในโลก ขณะที่ อาร์เซน่อล เหลือลุ้นแค่แชมป์เดียวเท่านั้น ดังนั้นทีมไม่ต้องเสียพลังงานไปกับการแข่งขันรายการอื่น ส่วน "หงส์แดง" แสดงให้เห็นแล้วว่าทีมโดนผลกระทบจากการลงเล่นอย่างต่อเนื่อง และทำให้ฟอร์มเป๋ในช่วงหลายเกมที่ผ่านมา
5. ลิเวอร์พูล ไม่ค่อยได้ผลการแข่งขันที่ต้องการ
แม้ว่าจะสร้างโอกาสได้มากมายแต่ทีมของกุนซือเจอร์เก้น คล็อปป์ ทำได้แค่แต้มเดียวจากที่ควรจะได้ 6 คะแนนในแมตช์พบ แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด (เสมอ 2-2) และ คริสตัล พาเลซ (แพ้ 0-1) แน่นอนว่าสาวก "เดอะ ค็อป" อยากเห็นความสำเร็จเพื่อเป็นการสั่งลา "บอส" เมื่อจบฤดูกาลนี้ อย่างไรก็ตามตอนนี้ "เดอะ เร้ดส์" ตกรอบยูฟ่า ยูโรปา ลีก และ เอฟเอ คัพ ไปแล้ว ขณะที่การลุ้นแชมป์ลีกก็ถือว่าเป็นรอง อาร์เซน่อล และ แมนซิตี้ สิ่งเหล่านั้นอาจส่งผลดีต่อทัพ "ปืนโต" ที่จะได้ยุติ 2 ทศวรรษที่รอคอยซะที
ทอมเม้ง