มิเกล อาร์เตต้า ผู้จัดการทีม อาร์เซน่อล เปิดปากระบายความอัดอั้นว่า พรีเมียร์ลีก หินที่สุดในโลกหลัง เดอะ กันเนอร์ส แพ้เป็นเกมแรกนับตั้งแต่ปี 2024 แต่มีอันต้องตกเก้าอี้จ่าฝูงอย่างถาวรหลังพ่ายคารังต่อ แอสตัน วิลล่า 2-0 ในการฟาดแข้งที่ เอมิเรตส์ สเตเดี้ยม เมื่อวันอาทิตย์ที่ 14 เม.ย.
อาร์เตต้า สร้างผลงานในซีซั่นนี้ได้อย่างแข็งแกร่งจนส่อแววว่ามีสิทธิ์แก้ตัวจากซีซั่นก่อนที่ทีมเมืองหลวงแผ่วปลายจนชวดคว้าแชมป์ พรีเมียร์ลีก ทั้งๆที่รั้งตำแหน่งจ่าฝูงได้อย่างยาวนานเนื่องจากในปี 2024 เขาคุมทีมชนะรวดในเกมลีกยกเว้นหลุดเสมอกับ แมนฯ ซิตี้ 0-0 เกมเดียวเท่านั้นที่ เอติฮัด สเตเดี้ยม แต่ไม่วายเสียหายใหญ่หลวงถึงขนาดหล่นมารั้งอันดับสองหลังพ่ายทีม สิงห์ผงาด
"เรามีฟอร์มที่แตกต่าง ครึ่งแรกเราเล่นได้อย่างสุดยอด มันเป็นครึ่งแรกที่ดีที่สุดนัดหนึ่งกับทีมชั้นยอด และเราน่าจะได้สามหรือสี่ประตู หรือมากกว่านั้น" อาร์เตต้า เอ่ย
"เราทำประตูไม่ได้ และเล่นไม่ดีในครึ่งหลัง เราขาดความต่อเนื่อง เราไม่มีความไหลลื่นเหมือนครึ่งแรก จากนั้นเราก็เสียสองประตูอย่างเลวร้าย"
"ต้องยกเครดิตให้พวกเขาสำหรับเกมในครึ่งหลัง เราทำอะไรพวกเขาไม่ได้เหมือนกับครึ่งแรก ครึ่งหลังเราขาดหายไปหลายอย่าง ดังนั้นเราต้องแสดงความยินดีกับพวกเขาที่ได้สามแต้ม"
"ตอนที่เรายังเสมอกัน คุณต้องลงโทษพวกเขาให้ได้ หากคุณทำไม่ได้ อย่างน้อยคุณก็ไม่ควรเสียประตู แต่เราทำไม่ได้"
"เราต้องอดทนมากขึ้นในครึ่งหลังเพื่อหาจังหวะของเรา เราพยายามแล้ว แต่มันจบเห่ตอนที่เราเสียประตู"
ต่อการเปลี่ยน มาร์ติน โอเดการ์ด กัปตันทีมออกในช่วงสิบนาทีสุดท้ายให้ เอมิล สมิธ โรว์ ลงเล่นแทน อาร์เตต้า ชี้แจงว่า "เขาเจ็บขา ด้วยเหตุนี้เราจึงเปลี่ยนเขาออก"
ขณะเดียวกัน อาร์เตต้า เอ่ยถึงการรั้งตำแหน่งจ่าฝูงของแชมป์เก่าว่า "เราไม่อาจคอนโทรล แมนฯ ซิตี้ ได้ สิ่งที่เราคอนโทรลได้คือเราต้องชนะ ชนะ และชนะ เราต้องตอบสนอง"
"เรามีโอกาสดีกับ บาเยิร์น ถึงการตอบสนองในวันพุธนี้ ทีมต้องแสดงออกมา หากคุณต้องการชนะ คุณต้องผ่านสถานการณ์แบบนี้ไปให้ได้ มันยังอยู่ในความควบคุมของเรา"
"ในลีกชาติอื่นของโลก หากคุณชนะเกมติดต่อกันแบบเรา คุณจะนำห่างหกหรือแปดแต้ม แต่มันไม่ใช่กับที่นี่ มันเต็มไปด้วยความท้าทาย"