สำหรับทุกคนที่เกี่ยวข้องกับ แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด แล้วนั้น แน่นอนว่าการแพ้ เชลซี 3-4 ในเกม พรีเมียร์ลีก อังกฤษ เมื่อวันพฤหัสบดีที่ 4 เมษายน ที่ผ่านมา ถือเป็นความพ่ายแพ้ที่เจ็บปวดจนเกินจะบรรยาย เพราะตอนแรก 3 คะแนนมันอยู่ตรงหน้าแล้วแท้ๆ แต่แล้ว "ปีศาจแดง" มาโดน 2 ลูกในช่วงทดเวลาบาดเจ็บจนต้องกลับบ้านแบบมือเปล่า
ไม่เพียงแค่นั้น เพราะนี่ยังถือเป็นการพ่ายแพ้เป็นนัดที่ 17 จากการลงเล่นในทุกรายการของ แมนฯ ยูไนเต็ด ประจำฤดูกาลนี้ด้วย จนทำให้นี่ถือเป็นครั้งแรกในรอบ 24 ปีที่พวกเขาแพ้มากถึงขนาดนั้น และด้วยความที่ซีซั่นนี้ยังเหลืออีกหลายเกม ทำให้มันมีโอกาสที่ตัวเลขดังกล่าวจะเพิ่มขึ้นได้อีก
สำหรับครั้งสุดท้ายที่ แมนฯ ยูไนเต็ด แพ้ในซีซั่นเดียวเยอะถึงขนาดนั้นต้องย้อนไปยังฤดูกาล 1989-90 ซึ่งตอนนั้นลีกสูงสุดของอังกฤษยังใช้ชื่อ ดิวิชั่น 1 อยู่เลย โดยในซีซั่นนั้น แมนฯ ยูไนเต็ด ได้ลงเล่น 3 รายการ นั่นคือ ดิวิชั่น 1, เอฟเอ คัพ และ ลีก คัพ (คาราบาว คัพ ในปัจจุบัน)
ต้องบอกว่าตอนนั้น แมนฯ ยูไนเต็ด ยังไม่ใช่ทีมที่แข็งแกร่งมากนัก และยังอยู่ในช่วงแรกๆ กับการกุมบังเหียนของ เซอร์ อเล็กซ์ เฟอร์กูสัน ถึงกระนั้น มันก็น่าผิดหวังพอตัวที่พวกเขาจอดป้ายตั้งแต่รอบ 3 ของรายการ ลีก คัพ โดยตอนแรก แมนฯ ยูไนเต็ด ผ่าน พอร์ทสมัธ มาได้ในรอบ 2 จากการชนะด้วยสกอร์รวม 3-2 แต่พอถึงรอบถัดมาพวกเขากลับแพ้ สเปอร์ส คาบ้านไปถึง 0-3
ขณะที่ในลีกนั้นมันถือว่าผลงานเลวร้ายซะยิ่งกว่า เพราะพวกเขาแพ้ในลีกรวมแล้วถึง 16 เกมจากการลงเล่น 38 นัด เริ่มจากการแพ้ 3 นัดติด ประกอบด้วยการพ่าย ดาร์บี้ เคาน์ตี้ 0-2 ในวันที่ 26 สิงหาคม, แพ้ นอริช ซิตี้ ด้วยสกอร์เดียวกันเมื่อวันที่ 30 สิงหาคม และปราชัยต่อ เอฟเวอร์ตัน 2-3 ในวันที่ 9 กันยายน แม้ว่านัดถัดมาจะชนะ มิลวอลล์ 5-1 แต่พอถึงเกมต่อไปที่เยือน แมนเชสเตอร์ ซิตี้ ทีมของ เฟอร์กูสัน ก็แพ้แบบยับเยินถึง 1-5 ในวันที่ 23 กันยายน
พอถึงวันที่ 4 พฤศจิกายน แมนฯ ยูไนเต็ด ก็แพ้ ชาร์ลตัน 0-2 ในวันที่ 4 พฤศจิกายน ก่อนที่พวกเขาจะมีช่วงเวลาแห่งฝันร้ายในเดือนสุดท้ายของปี 1989 เพราะไม่ชนะใครเลยกับการลงเล่นในลีก 6 นัด แถมยังเป็นการพ่ายไปถึง 4 เกม ประกอบด้วยการปราชัยต่อ อาร์เซน่อล 0-1 ในวันที่ 3 ธันวาคม, แพ้ พาเลซ คาบ้าน 12 ในอีก 6 วันให้หลัง, ปราชัยต่อ สเปอร์ส คารัง โอลด์ แทร็ฟฟอร์ด 0-1 เมื่อวันที่ 16 ธันวาคม และออกไปแพ้ แอสตัน วิลล่า 0-3 เมื่อวันที่ 26 ธันวาคม
แมนฯ ยูไนเต็ด ยังแพ้ในลีก 2 นัดติดต่อกันในช่วงเดือนมกราคมด้วย นั่นคือเกมพ่าย ดาร์บี้ 1-2 คาบ้านในวันที่ 13 มกราคม และการกลับจาก นอริช ซิตี้ ด้วยสกอร์ 0-2 เมื่อวันที่ 21 มกราคม และพอถึงเกมเยือน เชลซี ในวันที่ 24 กุมภาพันธ์ 1990 พวกเขาก็แพ้ไป 0-1
ในเดือนมีนาคม แมนฯ ยูไนเต็ด แพ้ในลีกถึง 2 เกมในระยะห่างเพียงแค่ราว 3 วัน นั่นคือเกมแดงเดือดที่พ่าย ลิเวอร์พูล 1-2 คาบ้าน เมื่อวันที่ 18 มีนคม ต่อด้วยเกมเยือน เชฟฯ ยูไนเต็ด ที่แพ้ไป 0-1 ส่วนการพ่ายในลีกอีก 2 นัดที่เหลือคือวันแพ้ สเปอร์ส 1-2 เมื่อวันที่ 21 เมษายน และเกมที่ปราชัยต่อ ฟอเรสต์ แบบขาดลอย 0-4 ในนัดรองสุดท้ายของซีซั่นเมื่อวันที่ 2 พฤษภาคม 1990
การจบฤดูกาลด้วยการเป็นอันดับ 13 ในลีกซีซั่นนั้นถือว่าเลวร้ายกว่าในฤดูกาล 1988-89 ด้วยซ้ำ เพราะในซีซั่น 1988-89 พวกเขาเป็นอันดับ 11 และแพ้ในลีกไป 13 หน น้อยกว่าในฤดูกาล 1989-90 เป็นจำนวน 3 เกมด้วยกัน
อย่างไรก็ตาม นั่นก็ไม่ใช่ฤดูกาลที่มีแต่เรื่องแย่ๆ ซะทีเดียว เพราะใน เอฟเอ คัพ พวกเขาเล่นได้ดีจนคว้าแชมป์ไปครองได้ ซึ่งบังเอิญเหลือเกินที่ตอนนี้ทีมของกุนซือ เอริค เทน ฮาก ก็ยังมีลุ้นแชมป์ เอฟเอ คัพ เช่นกัน หลังจากพวกเขามีคิวเล่นรอบรองชนะเลิศกับ โคเวนทรี ซิตี้
ถึงกระนั้น มันก็ปฏิเสธไม่ได้ว่านี่นับเป็นซีซั่นที่เลวร้ายสำหรับ แมนฯ ยูไนเต็ด และด้วยความที่ซีซั่นนี้ยังเหลืออีกหลายเกม ทำให้ตัวเลขการแพ้ในทุกรายการของพวกเขาอาจจะไม่ได้หยุดอยู่ที่ 17 นัดก็ได้
-เด็กเกร็ดบอล-