แมนฯ ยูไนเต็ด เจ็บแล้วไม่จำ มาเสียประตูโง่ๆ ในช่วงทดเจ็บอีกแล้ว แถมคราวนี้โดน 2 ดอกเลย จากที่กำลังจะบุกชนะ กลายเป็นแพ้ เชลซี ซะอย่างนั้น !!!
และนี่คือรายงานจาก สแตมฟอร์ด บริดจ์
1.พลพรรคปีศาจแดงเริ่มต้นแบบสลึมสลือเหมือนคนเพิ่งตื่นนอน ว่าแล้วก็โดนไปก่อน 2-0
ตอนนั้นดูเหมือนว่า...เด๊ดห่าแน่ๆ ไม่คิดไม่ฝันว่าจะกลับมาจากป่าช้า ทว่าเจ้าบ้านอย่างสิงห์บลูส์ก็ใจดีมีเมตตา อุตส่าห์ฉุดกระชาก แมนฯ ยูไนเต็ด ให้กลับขึ้นมาจากหลุม
2.จุดเปลี่ยนอยู่ที่การจ่ายบอลแบบเลินเล่อของ มอยเซส ไกเซโด้ ที่เหมือนบรรจงถวายพานให้ อเลฮานโดร การ์นาโช่ ลากเข้าไปยิงตีไข่แตก
มันคือการจุดประกายให้พญาปีศาจฟื้นคืนชีพจากที่กำลังจะถูดจับยัดลงไปในหม้อทองแดงยมบาล
3.หลังจากนั้น แมนฯ ยูไนเต็ด ก็ยกระดับการเล่นของตัวเองให้สูงขึ้นเรื่อยๆ จนตีเสมอเป็น 2-2 ก่อนพลิกขึ้นนำเป็น 3-2 จากลูกครอสส์แบบ "ไซด์ก้อย" ของ อันโตนี่ ที่ต้องบอกว่า...เวิลด์ คลาสส์ !!!
เท่านั้นไม่พอ
เชลซี ที่อยู่ดีๆ เป็นฝ่ายตามหลังก็ทำอะไรไม่ได้มาก เกมรุกของพวกเขาไม่ได้สร้างความกดดันให้ผู้มาเยือนสักเท่าไหร่
ดูแล้ว แมนฯ ยูไนเต็ด น่าจะบุกมาเหยียบจมูกเจ้าถิ่นแบบได้ไม่มีปัญหาอะไร
4. ช่วงทดเจ็บ แมนฯ ยูไนเต็ด พยายาม "ปิดเกม" รักษาสกอร์ด้วยการเล่นแบบติ๊ดชึ่ง ดึงจังหวะ เคาะบอลไป เคาะบอลมา แถมยักไหล่ไปด้วย ซึ่งมันก็เป็นวิธีการเล่นที่ถูกต้องแล้ว
แต่บัดดลก็ดวงแตก เมื่อ ดิโอโก้ ดาโลต์ ลื่นล้มในจังหวะเบียดจนคู่แข่งเสียหลัก แล้วผู้ตัดสินชี้นิ้วไปที่จุดโทษ
เชลซี ตีเสมอเป็น 3-3 และมันควรจะจบลงด้วยสกอร์นี้ ซึ่งถือว่าน่าเสียดาย แต่ก็ยังพอรับได้
5. เจ็บแล้ว มันก็ควรจะจำ แถมก่อนหน้านี้ก็เพิ่งได้รับบทเรียนจาก เบรนต์ฟอร์ด มาหมาดๆ
แต่หลังถูกตีเสมอ ผู้เล่นพันธุ์อสูรกลับสติแตกและหน้ามืด เมื่อพยายามเร่งเกมรุกมากเกินไปกลายเป็นเสียบอล เสียเตะมุม และเสียสมาธิ
จังหวะนั้น โคล พาลเมอร์ ดึงตัวเองออกไปเอาบอลจากลูกเตะมุมสั้น โดยไม่มีผู้เล่นของ แมนฯ ยูไนเต็ด ตามออกไปสกัดสักคน เพราะมัวแต่คิดเสียดายที่ถูกตีเสมอจนยืนเหม่อกันหมด
กว่าจะรู้สึกตัวก็สายเสียแล้ว
โบนัส แทร็ค: อุตส่าห์กลับขึ้นมาจากหลุมได้สำเร็จ สุดท้ายก็กระโดดกลับลงไปในหลุมใหม่ซะอย่างนั้น
นี่แหละ...แมนฯ ยูไนเต็ด จากการทำงานของ เอริค เทน ฮาก
บอ.บู๋