ผีคืนฟอร์มสุดรันทด,เทน ฮาก รอดยาก! 5 ประเด็น แมนยู บุกเจ๊า เบรนท์ฟอร์ด

1. น้องผึ้งปรับทัพสองราย

โธมัส แฟร้งค์ นายใหญ่ เบรนท์ฟอร์ด ตัดสินใจปรับโผนักเตะ 11 คนแรกรวมสองตำแหน่งจากเกมลีกนัดล่าสุดที่พวกเขาออกไปแพ้ เบิร์นลีย์ 2-1  เมื่อสองสัปดาห์ก่อน

กุนซือชาวเดนมาร์คเลือกใช้งาน เคน ลูอิส พ็อตเตอร์ กับ เยฮอร์ ยาร์โมลุก แทน แฟร้งค์ ออนเยก้า และ เซร์คิโอ เรกีลอน โดยรายแรกมีชื่อนั่งสำรอง ขณะที่รายหลังไม่มีส่วนร่วมเนื่องจากติดโทษแบน

อย่างไรก็ดี เดอะ บีส์ อยู่ในช่วงฟอร์มพังสุดขีดเนื่องจากพวกเขาไม่ชนะเกมลีกติดต่อกันนานหกนัดแล้ว แถมเก็บได้แค่แต้มเดียวเท่านั้น

2. ผีส่งชุดกำราบหงส์ลงบู๊

เอริค เทน ฮาก ผู้จัดการทีม แมนฯ ยูไนเต็ด วางใจใช้นักเตะชุดเดิมทุกตำแหน่งจากนัดเฝ้าบ้านเฉือนชนะ ลิเวอร์พูล 4-3 ในช่วงต่อเวลาของศึก เอฟเอคัพ รอบแปดทีมลงสนามต่ออีกนัด

จากโผดังกล่าวหมายความว่า ค็อบบี้ เมนู กองกลางทีมชาติ อังกฤษ ซึ่งป่วยเมื่อกลางสัปดาห์ฟื้นตัวได้ดีจนพร้อมลงบู๊

นอกจากนี้ ผีแดง ได้ ลิซานโดร มาร์ติเนซ กองหลังทีมชาติ อาร์เจนติน่า ที่เดี้ยงไปนานกลับมานั่งข้างสนามได้เป็นครั้งแรกนับตั้งแต่วันที่ 4 ก.พ.

3. เดอะ บีส์ สร้างสถิติ

แมนฯ ยูไนเต็ด กลับมาโชว์ฟอร์มได้อย่างน่าผิดหวังอีกครั้งในเกมครึ่งแรกที่ จีเทค คอมมิวนิตี้ สเตเดี้ยม เนื่องจากพวกเขาตกเป็นฝ่ายถูกเจ้าบ้านจู่โจมเข้าใส่หลายต่อหลายครั้ง และน่าจะเสียประตูอย่างยิ่งแม้จะเป็นฝ่ายครองบอลได้มากกว่าก็ตาม

ถือเป็นเรื่องเหลือเชื่ออย่างแรงที่ทีมของ เทน ฮาก ไม่เสียประตูเนื่องจาก เบรนท์ฟอร์ด หาโอกาสบุกไปส่องยิงได้มากถึง 14 ครั้ง แต่ถือเป็นเรื่องน่าตกใจเช่นกันที่ทีมของ แฟร้งค์ ส่งบอลเข้ากรอบได้แค่ครั้งเดียวจึงส่งผลให้ แมนฯ ยูไนเต็ด รอดตายเหมือนควายขวิด

ต่อตัวเลขดังกล่าว มีการยืนยันว่า เบรนท์ฟอร์ด หาโอกาสคลำเป้าคู่แข่งในเกมครึ่งแรกของศึก พรีเมียร์ลีก ได้มากกว่า ผีแดง นัดนี้แค่รายเดียวเท่านั้นคือการดวลกับ เบิร์นลีย์ เมื่อเดือนต.ค.ซึ่งพวกเขาได้ส่องยิงใน 45 นาทีแรกรวมทั้งสั้น 15 ครั้ง

เท่านั้นไม่พอ เจ้าถิ่นได้สัมผัสบอลในเขตโทษ แมนฯ ยูไนเต็ด รวม 34 ครั้งซึ่งถือเป็นสถิติที่ดีที่สุดของพวกเขาในเกม พรีเมียร์ลีก ช่วง 45 นาทีแรกด้วยแม้ ปีศาจแดง จะได้ครองบอลมากกว่า 56:44% แต่ เบรนท์ฟอร์ด ได้ซัด 14 ครั้งเข้ากรอบ 1 ครั้ง ขณะที่ทีมเยือนได้ส่อง 3  ครั้ง และเข้ากรอบครั้งเดียวเท่ากัน

4. โทนีย์ จะย้ายไปไหน?

จะว่าไปแล้ว ไฮไลต์เกมระหว่าง เบรนท์ฟอร์ด กับ แมนฯ ยูไนเต็ด น่าจะตกอยู่ที่ ไอแวน โทนีย์ ดาวยิงทีมเจ้าบ้านซึ่งได้รับการคาดหมายว่าจะย้ายทีมหลังจบซีซั่นนี้โดยมียักษ์ใหญ่หลายรายให้ความสนใจโดยหนึ่งในนั้นมี ผีแดง ถูกลือกับเขาด้วยเช่นกัน

จากการรับใช้ทีมชาติ อังกฤษ ในช่วงฟีฟ่าเดย์ โทนีย์ คลำเป้าได้จากการสังหารลูกโทษในเกมเสมอกับ เบลเยี่ยม 2-2 ซึ่งทำให้มีแนวโน้มว่าเขาจะถูกทีมชั้นแนวหน้าคว้าตัวไปเสริมทัพมากขึ้นไปอีก และมันน่าจะเป็นแรงจูงใจที่ทำให้เจ้าตัวแสดงความมุ่งมั่นออกมาให้เห็นในการร่ายฝีเท้านัดต้อนรับการมาเยือนของ แมนฯ ยูไนเต็ด ซึ่งเขามีโอกาสสับไกหลายต่อหลายครั้ง 

อย่างไรก็ดี ให้น่าเสียดายที่เกมนี้ โทนีย์ ไม่มีชื่อบนสกอร์บอร์ดแม้จะส่งบอลเข้าปะทะตาข่ายได้ แต่ก็เป็นลูกล้ำหน้า ทว่าอย่างน้อยเขาก็มีแอสซิสต์ช่วยให้ทีมแบ่งแต้มได้อย่างหวุดหวิดจากการผ่านบอลให้ คริสตอฟเฟอร์ อาเยอร์ ซัดตีเสมอในช่วงทดเวลาอึดใจสุดท้ายหลัง เมสัน เมาท์ ตัวสำรอง ผีแดง หวิดขโมยซีนได้อยู่แล้วกับการซัดประตูแรกของเขาในสีเสื้อ เร้ด เดวิลส์ ก่อนหน้านั้นไม่นาน

ว่าถึง โทนีย์ แม้เกมนี้จะซัดบอลเฉี่ยวไปเฉี่ยวมาหลายต่อหลายหน แต่จากฟอร์มในสนามต้องถือว่าเขาเป็นหัวหอกที่มีความอันตรายคนหนึ่งที่ทั้งแข็งแกร่ง มีความคล่องตัว และเล่นลำพังในแดนหน้าได้ เพียงแต่น่าเสียดายที่เกมนี้โชคไม่เป็นใจให้สักเท่าไหร่

ฉะนั้นแล้วจึงต้องรอดูกันว่าหาก เบรนท์ฟอร์ด มีอันต้องเสียสตาร์คนสำคัญไป เขาจะเลือกลงเอยกับทีมไหน จะใช่ อาร์เซน่อล ที่ถูกลือกับเขามานานหรือเปล่า หรือจะเป็น แมนฯ ยูไนเต็ด ก็ต้องลุ้นกัน

5. เทน ฮาก เก้าอี้ร้อนฉ่า

หลังจบเกมที่ จีเทค คอมมิวนิตี้ สเตเดี้ยม แมนฯ ยูไนเต็ด มีสถิติที่เลวร้ายอย่าบอกใครแม้จะคว้าหนึ่งแต้มออกไปได้ชนิดหวิดชนะเนื่องจากหลังจบเกม 90 นาที เบรนท์ฟอร์ด ได้ส่องยิงมากถึง 31 ครั้งซึ่งเป็นครั้งแรกที่พวกเขาทำได้ดีขนาดนี้ในเกม พรีเมียร์ลีก แม้ทีมเยือนจะครองบอลได้มากกว่า 53:47% 

อย่างไรก็ดี จากการได้ซัดประตู 31 ครั้งของเจ้าบ้าน พวกเขาส่งบอลเข้ากรอบได้แค่ 5 ครั้งเท่ากับ แมนฯ ยูไนเต็ด ที่ได้กระทุ้งแค่ 11 ครั้ง แต่แน่นอนว่า ผีแดง ถูกคู่แข่งส่องยิงหลังเข็มนาฬิกากระดิกครบ 90 นาทีโดยยังไม่นับรวมช่วงทดเวลาในเกมนี้รวม 193 ครั้งเข้าไปแล้วนับตั้งแต่ก้าวเข้าสู่ปี 2024 ซึ่งเป็นตัวเลขที่แย่ที่สุดในบรรดาทีมจาก พรีเมียร์ลีก ด้วยกัน

ถึงตรงนี้ เทน ฮาก ที่เพิ่งให้สัมภาษณ์ก่อนเกมว่าไม่สนไม่แคร์ข่าวลือของสโมสรกับ แกเร็ธ เซาธ์เกต น่าจะเก้าอี้ร้อนมากขึ้นกว่าเดิมหลายเท่าเพราะลำพังพาทีมบุกมาเยือนคู่แข่งอย่าง เบรนท์ฟอร์ด ยังหวิดม่อยกระรอก และกลับออกไปในสภาพที่ทุกลักทุเลสิ้นดี มันจึงไม่น่าจะเป็นไปได้ที่ผู้บริหารชุดใหม่ของ แมนฯ ยูไนเต็ด จะมองว่านี่คือกุนซือที่ใช่ต่อการพาทีมกลับคืนสู่ความยิ่งใหญ่อย่างที่พวกเขาวาดหวัง