4 งานหลักที่ ริชาร์ด ฮิวจ์ส ต้องทำทันทีหลังรับตำแหน่งผอ.กีฬาลิเวอร์พูล

แม้ว่า ฮิวจ์ส จะยังไม่ได้เข้ามาทำงานอย่างเป็นทางการก็ตาม แต่เขารู้ดีว่ามีงานมากมายกองรอเขาที่แอนฟิลด์ เพราะสโมสรจะมีการเปลี่ยนแปลงครั้งสำคัญหลังจบฤดูกาล 2023/2024

ผู้บริหารชาวสกอตติช วัย 44 ปีต้องเข้ามารับงานต่อจาก ยอร์ค ชมัดต์เค่อ และต้องร่วมงานกับ ไมเคิ่ล เอ็ดเวิร์ดส์ ที่หวนกลับมาช่วยทัพ "หงส์แดง" ในตำแหน่งหัวหน้าฝ่ายปฎิบัติการฟุตบอล 

แน่นอนว่า ฮิวจ์ส มีเรื่องที่ต้องรีบจัดการในช่วงซัมเมอร์นี้ หนึ่งในนั้นก็คือการหาผู้จัดการทีมคนใหม่แทน เจอร์เก้น คล็อปป์ ที่ประกาศอำลาสโมสรหลังจบซีซั่นนี้ และเรื่องอื่นๆ ที่จำเป็นเพื่อทำให้ "เดอะ เร้ดส์" ยังคงเป็นทีมที่แข็งแกร่ง และมีลุ้นความสำเร็จอย่างต่อเนื่อง 

1. การหากุนซือใหม่

คล็อปป์ เตรียมเก็บเสื้อผ้าออกจากถิ่นแอนฟิลด์แน่นอนแล้วในช่วงซัมเมอร์นี้ และเจ้าตัวมีจุดยืนชัดเจนว่าจะไม่เปลี่ยนใจ งานนี้ ฮิวจ์ส จะต้องรีบดำเนินการในการหาผู้จัดการทีมคนใหม่เพื่อเข้ามาสืบทอดตำแหน่งแทน "บอส"

ชาบี อลอนโซ่ ตำนานมิดฟิลด์ชาวสแปนิชซึ่งเคยเล่นให้ ลิเวอร์พูล และเป็นที่รักของสาวก "เดอะ ค็อป" เป็นตัวเต็งที่จะได้รับงานนี้ หลังสร้างผลงานดีมีคุณภาพกับ ไบเออร์ เลเวอร์คูเซ่น อย่างไรก็ตาม "คุณชาย" ไม่ใช่กุนซือคนเดียวที่ "หงส์แดง" หมายปอง

พวกเขายังเล็ง รูเบน อโมริม เทรนเนอร์คนเก่งสปอร์ติ้ง ลิสบอน, โรแบร์โต้ เด แซร์บี้ ผู้จัดการทีมไบรท์ตัน แอนด์ โฮฟ อัลเบี้ยน และ ยูเลี่ยน นาเกิ้ลส์มันน์ กุนซือทีมชาติเยอรมนี  

จะว่าไปแล้ว ฮิวจ์ส ซึ่งเคยค้าแข้งกับ เอเอฟซี บอร์นมัธ และ พอร์ทมัธ มีความสัมพันธ์ที่ดีเยี่ยมกับ อินญากี้ อีบานเยซ เอเจนต์ส่วนตัวของ อลอนโซ่ หลังเคยจ้าง อันโดนี อีราโอล่า ซึ่งเป็นนึ่งในลูกค้าของ อีบานเยซ เข้ามาคุมบอร์นมัธ เมื่อช่วงซัมเมอร์ที่ผ่านมา

ก่อนหน้านี้ ฮิวจ์ส เคยพยายามทาบทาม เด แซร์บี้ มาก่อน แต่น่าเสียดายที่ไม่สำเร็จ ไม่อย่างนั้นคงได้เห็นกุนซือชาวอิตาเลียนทำหน้าที่นายใหญ่แทน สกอตต์ พาร์คเกอร์ เมื่อเดือนสิงหาคม 2022 ไปแล้ว 

แม้ว่าในเวลานี้ ฮิวจ์ส ยังไม่ได้ทำหน้าที่อย่างเป็นทางการก็ตาม แต่เชื่อว่าเขาคงเตรียมแผนงานในเรื่องนี้เอาไว้แล้ว เพราะเมื่อถึงวันที่ต้องเริ่มงานจริงๆ จะได้ดำเนินการหาทายาท คล็อปป์ ทันที

2.เจรจาเรื่องสัญญาใหม่แข้งคีย์แมน

คงไม่ใช่เรื่องน่าแปลกใจถ้า โฌแอล มาติป, ติอาโก้ อัลกันทาร่า และ อาเดรียน จะอำลาทีมหลังหมดสัญญาในช่วงซัมเมอร์นี้ ขณะที่อนาคตของนักเตะที่จะหมดสัญญาในปี 2025 ก็ยังไม่มีความชัดเจนว่าจะอยู่หรือไป

ผู้เล่นกำลังสำคัญอย่าง โมฮาเหม็ด ซาลาห์, เฟอร์จิล ฟาน ไดค์ และ เทรนต์ อเล็กซานเดอร์-อาร์โนลด์ เหลือสัญญาอยู่ในถิ่นแอนฟิลด์อีกเพียง 18 เดือนเท่านั้น แต่ทันทีที่ คล็อปป์ กับ ชมัดต์เค่อ ประกาศอำลาทีม ดูเหมือนสถานการณ์ของ 3 คีย์แมนชักจะไม่แน่นอนเช่นกัน

เมื่อเข้าสู่ช่วงซัมเมอร์นี้ นั่นหมายความว่า "บังโม", "กัปตันไดค์" และ "รองเทรนต์" จะเหลือสัญญากับ ลิเวอร์พูล ปีเดียวเท่านั้น แน่นอนว่าการเจรจาเพื่อเก็บพวกเขาเอาไว้เป็นงานสำคัญไม่ต่างจากการหากุนซือคนใหม่

กรณีของ ซาลาห์ กับ ฟาน ไดค์ อายุเข้าสู่หลักสามไปแล้ว แน่นอนว่า ฮิวจ์ส คงต้องคิดหนักในเรื่องการยื่นสัญญาฉบับใหม่ แต่หากมองจากความเป็นจริงทั้งสองคนถือเป็นผู้เล่นกำลังสำคัญที่สโมสรจำเป็นอย่างยิ่งที่จะต้องเก็บเอาไว้ สำหรับทีมยุคใหม่ไร้ คล็อปป์ 

ขณะที่ อเล็กซานเดอร์-อาร์โนลด์ เพิ่งอายุ 25 ปีเท่านั้น และแน่นอนในอนาคตเขาอาจจะก้าวขึ้นมาเป็นกัปตันทีม "หงส์แดง" ก็ได้ ดังนั้นสโมสรจำเป็นต้องเก็บเด็กท้องถิ่นรายนี้เอาไว้เพื่ออนาคตของสโมสร

สำหรับช่วงที่ผ่านมามีการเจรจากับตัวแทนของ ซาลาห์ (31 ปี)  และ ฟาน ไดค์ (32 ปี) ซึ่งทั้งสองคนยังคงเป็นผู้เล่นกำลังหลักของทีม อย่างต่อเนื่อง และมีความเป็นไปได้ที่พวกเขาจะอยู่กับทีมต่อไป แต่ทั้งนี้ทั้งนั้นต้องขึ้นอยู่กับกุนซือคนใหม่ว่าทั้งคู่อยู่ในแผนการสร้างทีมหรือไม่ 

3. แผนการเสริมทัพ

ลิเวอร์พูล ไม่มีผู้อำนวยการกีฬามาตั้งแต่ต้นเดือนกุมภาพันธ์ โดยแผนการซื้อขายนักเตะยังไม่ได้ถูกระงับ ในทางกลับกันสโมสรมีการเตรียมแผนในช่วงซัมเมอร์นี้เอาไว้แล้วโดยเป็นหน้าที่ของ เดฟ ฟอลโลว์ หัวหน้าฝ่ายการเสริมทัพ และ แบร์รี่ ฮันเตอร์ หัวหน้าทีมแมวมอง 

ฟอลโลว์ กับ ฮันเตอร์ ทำงานให้กับทีมเสริมทัพ "เดอะ เร้ดส์" มานานหลายปีแล้ว และก่อนหน้านี้ก็เคยทำงานร่วมกับ เอ็ดเวิร์ดส์ ในช่วงที่เขายังดำรงตำแหน่งผู้อำนวยการกีฬาสโมสร

จะว่าไปแล้วหากมองจากความเป็นจริง ลิเวอร์พูล อาจไม่มีงานยุ่งมากนักในช่วงตลาดซื้อขายนักเตะซัมเมอร์นี้ เพราะพวกเขามีขุมกำลังจากอะคาเดมี่ที่พุ่งขึ้นมาเป็นตัวหลักอย่าง คอนเนอร์ แบรดลี่ย์ และ จาร์เรลล์ ควอนซาห์ ซึ่งเติมเต็มตำแหน่งแบ็กขวากับเซนเตอร์แบ็กได้เป็นอย่างดี 

อย่างไรก็ตามการที่ มาติป กับ ติอาโก้ จะหมดสัญญาหลังจบซีซั่นนี้ และคาดว่าพวกเขาคงอำลาสโมสร งานนี้ทีมต้องหาผู้เล่นใหม่เข้ามาเติมเต็ม ขณะที่ วาตารุ เอ็นโด กับ อเล็กซิส แม็ค อัลลิสเตอร์ สร้างผลงานได้อย่างยอดเยี่ยมในแผงมิดฟิลด์ แต่กระนั้นสโมสรอาจจะหาออปชั่นเพิ่มเพื่อสร้างขุมกำลังเชิงลึกก็ได้

ในส่วนของตำแหน่งผู้รักษาประตูซึ่ง อาเดรียน จะหมดสัญญาเช่นกัน แม้ ควีวิน เคลเลเฮอร์ จะโชว์ฟอร์มได้อย่างสุดยอด และเป็นอนาคตของทีมก็ตาม หลังลงมาทำหน้าที่แทน อลีสซง เบ็คเกอร์ ที่บาดเจ็บ กระนั้น "หงส์แดง" อาจต้องหาโกลอีกคนเพื่อเป็นออปชั่นเสริมยามวิกฤติ 

4. ค้นหาทีมสตาฟฟ์ชุดใหม่

แน่นอนว่าไม่ใช่แค่ เจอร์เก้น คล็อปป์ เท่านั้นที่ตัดสินใจอำลาถิ่นแอนฟิลด์เท่านั้น เพราะบรรดาทีมสตาฟฟ์ของเขาก็พร้อมใจยืนยันการแยกทางกับสโมสรหลังจบฤดูกาลนี้เช่นกัน

เป๊ป ไลจ์นเดอร์ส มือขวาที่แสนรู้ใจของกุนซือชาวเยอรมัน และ ปีเตอร์ คราเวียตซ์ ผู้ช่วยอีกคน รวมทั้ง วิเตอร์ มาตอส โค้ชฝ่ายพัฒนา พร้อมที่จะออกไปหาความท้าทายใหม่กับสโมสรอื่น

นั่นหมายความว่าตำแหน่งของพวกเขาจะว่างลงในช่วงซัมเมอร์นี้ และ ฮิวจ์ส จำเป็นอย่างยิ่งที่จะต้องหาคนมาทำหน้าที่แทน ซึ่งบรรดาสตาฟฟ์โค้ชเหล่านี้จะมีส่วนสำคัญในการสร้าง ลิเวอร์พูล ยุคใหม่

ตามปกติแล้วการเลือกทีมแบ็ครูมสตาฟฟ์จะเป็นการคัดสรรจากผู้จัดการทีม ดังนั้นกุนซือคนใหม่ของ "เดอะ เร้ดส์" คงจะมีตัวเลือกของเขาเอาไว้แล้ว อย่างไรก็ตาม ฮิวจ์ส ก็จะมีส่วนในการคัดเลือกบุคลากรเหล่านี้เช่นกัน

ทอมเม้ง