"หงส์แดง" ลิเวอร์พูล งานหยาบสมควรตกรอบ ขณะที่ "ผีแดง" แมนฯ ยูไนเต็ด ไม่ถอดใจลงโทษอย่างเจ็บแสบ
สถิติ100 กว่าปีในเอฟเอ คัพที่โรงละคร คงขลัง
90 นาทีไม่แพ้หงส์แดง จนต้องต่อเวลา 120 นาที ก็ยังไม่พลาดให้ ก่อนลงโทษ ลิเวอร์พูล ช่วงท้ายการต่อเวลาพิเศษ ยิง2 ลูก จากการเล่นพลาดของ2 นักเตะหงส์
ชนะ4-3 เข้ารอบรองชนะเลิศ
120 นาทีที่จบลงไปมีอะไรเกิดขึ้นบ้าง
👉🏾เกมแพลน เทน ฮาก เวิร์ค 40 นาที
เกมรับ ; นัดนี้ แฮร์รี แม็คไกวร์ สำรอง ลินเดอเลิฟ-วาราน วาน บิสซาก้า ลงยืนแบ๊กซ้าย เพื่อเล่นกับ ซาลาห์
แดนกลาง : ไม่มีชื่อ กาเซมิโร่ ต้องใช้ แม็คโทมิเนย์-ไมนู
แดนหน้า : ราสมุส ฮอยลุนด์ ลงพร้อม การ์นาโช่, แรชฟอร์ด
👉🏾JK ปรับโกเมซ ยืนแบ๊กขวา
โกเมซ แบ๊กขวา ควอนซาห์ - ฟาน ไดจ์ , ร็อบโบ้ ยืนหลัง แดนกลาง เอนโด, แม็คก้า, โซโบ, ตัวทำ โม นำทีมตามคาด
👉🏾 ผีกล้าเพรสแดนบน, แดนสอง
5-10 นาทีแรก เพรสจนเด็กหงส์ ขึ้นเกมไม่ได้ถนัด อีกทั้ง วาราน มาร์ค ดาร์วิน และ วาน บิสซาก้า ได้ดี ทำให้แดนบนหงส์ เก็บบอลเล่นไม่การไล่เพรสแดนบนและแดนสอง บีบให้เด็กหงส์ เสียบอล หรือเมื่อถอยรับต่ำ ดูแน่น ตัวทำหงส์ เลยเก็บบอลยาก
ทุกครั้งที่เสียบอลโดนโจมตีเร็ว ปั่นป่วนเกมรับหงส์ได้
👉🏾โจมตี ฝั่งโกเมซ ขึ้นนำ1-0
จังหวะ ดิอาส เสียบอล แดนบน หลุดมากลาง
เอนโด ฟาวล์ ผีเล่นฟรีคิกเร็วแรชฟอร์ด พาบอลตัดใน ก่อน แทงให้ การ์นาโช่ วิ่งสอดหลัง ควอนซา, โกเมซ ก่อนยิงติดเซฟ เคลเลเฮอร์ ปัดบอลได้แต่ลอยแถวกรอบ 6 หลา แม็คโท วิ่งซ้ำขึ้นนำ1-0
👉🏾 หงส์ ขึ้นบอลไม่ถนัด35 นาที
เกมแพลนผีที่เข้าทางทำให้เด็กหงส์ เล่นบอลยาก ขึ้นบอล ยากกว่าปกติ โอกาสเข้าไปถึงแดนสาม ประปราย เจาะยาก
👉🏾 5 นาทีท้ายผีหลุดโฟกัส โดนลงโทษ
น.44 ควอนซาห์ พาบอลทะลุขึ้นมา เด็กผีไฟเขียว
วาน บิสซากา เฝ้า ซาลาห์ เลยเปิดช่องให้ ควอนซาห์ เข้าเขตโทษ ผ่านบอลให้ดาร์วิน ซึ่งแปะบอล ให้แม็คก้า จับแล้วยิงแฉลบ ไมนู เข้า 1-1
จากนั้นช่วงทดเวลาอีก4 นาที บรูโน ยืนบังบอล เสียบอล ให้ โกเมซ แย่ง ได้แล้ว ครอสเข้าเขตโทษ บอลถึง ดิอาส ก่อนไหลให้ ดาร์วิน ดึงเข้าขวา ยิงติดเซฟ โอนานา มาเข้าทาง ซาลาห์ จับซ้าย ยิงขวา 2-1
👉🏾โม ชอบยิงผี
8 ประตูแล้วที่ โม ซาลาห์ ยิง แมนฯยูฯ แถมยังยิงในโรงละคร 5 นัดติด ยิงผี 13 ลูกใน14 เกมที่เจอกัน
👉🏾 ครึ่งหลังหงส์งานหยาบ JK เปลี่ยนตัวเสียเปรียบ
เกมเป็นของลิเวอร์พูลจนหมดสิ้น คุมเกมเล่นสบายๆ แถมมีจังหวะล่อเป้า เป็นระยะๆ ถึงขั้นสวนกลับ 5 ต่อ 2 เอลเลียตต์ งานหยาบ มากจ่ายบอลไปเข้าเท้า แม็คไกวร์ เพื่อนว่าง 3 คน!!!
การเปลี่ยน โม ซาลาห์ และ ร็อบโบ้ มีผลต่อการคุมเกมรุก กัคโป แทนที่ไม่ได้เลย ไม่มีบทบาท การเสียบอลเกิดขึ้นตลอด
พอไม่เนี้ยบจากเกมที่เหนือกว่าเยอะ จึงโดนลงโทษ
ช่วง 5 นาทีท้าย ผีแดง ได้โอกาส จากจังหวะ ลิเวอร์พูลเสียบอลแดนกลาง ทะลุมาถึง การ์นาโช่ เข้าเขตก่อนไหลให้ อันโตนี่ พลิกแล้วตวัดยิงผ่าน 3 คน ทั้ง เอนโด , ฟานไดจ์ เข้ามุมประตู2-2
นั้นแหละครับ ฟุตบอลที่เหนือกว่า พอยิงเพิ่มไม่ได้ ก็โดนลงโทษ
โชคดีที่วินาทีสุดท้าย แรชฟอร์ด ยิงบอลออกไปเอง จากจังหวะ เอริคเซ่น ชิพให้ หลุดเดี่ยว ก่อนต่อเวลา30 นาที
👉🏾 ต่อเวลาหงส์ยังเสียบอลเป็นว่าเล่น
แม้นำ 3-2 นาทีที่ 105 จังหวะเล่นบอลริมเขตโทษ ก่อน เอลเลียตต์ แต่งบอลแล้วยิงแฉลบ เข้าประตูเฉยย ลูกควรได้กลับไม่ได้ นี่แหละฟุตบอล แต่สุดท้ายเกมที่ดูเหนือกว่า การเสียบอลนำไปสู่การเสียประตู
3-3 จังหวะตีเสมอ มาจากการส่งบอลพลาดของ ดาร์วิน นูนเญซ โดนตัดได้ บอลถึง แรชฟอร์ด น.112
4-3 บอลกำลังบุก เอลเลียตต์ เก็บบอลสอง เล่นยาก โดนฉกได้ 2 ต่อ1 ก่อนบอลทะลุถึง อาหมัด ดิยาลโล พาบอลยิงเสียบเสาสอง น.120
เอ่อ..ตั้งแต่นาทีที่105 เมื่อ เมสัน เม้านต์ ลงมา
ดูชื่อแบ๊กโฟร์ แมนฯยูฯ สิครับ👇👇
ดาโลต์-แม็คไกวร์-บรูโน-อันโตนี่
หงส์แดง ยังกล้าเสีย 2 ประตู!!!!
อย่างที่กระตุกเตือนไปวันก่อนทางช่องยูทูปว่า
สถิติบอลเอฟเอ คัพ หงส์แดง นั้นเป็นรองที่โรงละคร 100 กว่าปี ไม่เคยชนะพวกเขา นี่ 90 นาทีก็ไม่ชนะ ทั้งที่ครึ่งหลังเกมดีกว่าจนหมดเวลา 120 นาทีก็ยังโค่นผีไม่ลง
ฟุตบอลคุณภาพ คืองานละเอียด เหนือกว่าต้องปิดจ๊อบ ไม่ใช่ให้คู่แข่งยังอยู่ในเกมมีลุ้น มีโอกาสกลับมาลงโทษตัวเองได้
เกมนี้ ต้องชม "ปีศาจแดง" ที่นอกจากไม่ถอดใจง่ายๆ ยังหาจังหวะสวนกลับ ทุกครั้งที่หงส์ เสียบอล โดยเฉพาะ การ์นาโช่ , แรชฟอร์ด คือตัวทีเด็ด ในแผนนี้ ตรงกันข้ามกับ JK เลือกเปลี่ยนตัวหลักอย่าง โม ซาลาห์ ออก (กลางสัปดาห์ ให้เล่นทั้งเกมที่เหนือกว่า)
กัคโป ลงมาแทน อย่างไร้ผลจริงๆ
บทสรุปจากเกม5 ดาว คู่นี้ ง่ายมาก
1 หงส์ ไม่ดีพอในเกมที่เหนือกว่า ลงโทษผีไม่ได้
2 การเสียบอลส่วนตัวเกิดขึ้นทั้งเกม และโดนลงโทษจากจุดนั้น ทั้งส่งบอลพลาด เสียบอลแดนกลาง
3 ทีมเทน ฮาก หาโอกาสโจมตีถึงแดนสามได้ต่อเนื่อง
4 นักเตะผี ไม่ถอดใจง่ายๆ เกมนี้
แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด จึงเข้ารอบรองชนะเลิศเอฟเอ คัพ พร้อมรักษาสถิติไร้พ่ายหงส์แดงในเอฟเอ คัพที่โรงละคร กว่าร้อยปีต่อไป
ถ้าจะหาอะไรมาสรุปความเป็นไปในเกมนี้สักหน่อย
ขอยืมบทวิจารณ์ รอย คีน หลังเกมละกันครับ
ลิเวอร์พูล หาหนทางสู่ความพ่ายแพ้
ส่วนแมนฯยูไนเต็ด หาหนทางสู่ชัยชนะในเกมนี้
JACKIE