"บิ๊กแมตช์" กินกันไม่ลง! ลิเวอร์พูล ได้ แม็ค อัลลิสเตอร์ ซัดจุดโทษไล่เจ๊า แมนซิตี้ ตั้่งแต่ต้นครึ่งหลัง ก่อนทั้งสองทีมมีโอกาสทองหลายต่อหลายครั้งแต่จบไม่คม สุดท้ายแบ่งแต้มกันไป 1-1 "หงส์แดง" มีเพิ่มเป็น 64 แต้มเท่ากับ อาร์เซน่อล แต่ลูกได้เสียเป็นรองรั้งที่ 2 ส่วน "เรือใบสีฟ้า" มี 63 คะแนน ยึดที่ 3
"บิ๊กแมตช์" พรีเมียร์ลีก อังกกฤษ แมตช์เดย์ที่ 28 เมื่อวันอาทิตย์ที่ 10 มีนาคม ที่ผ่านมา ลิเวอร์พูล ที่หล่นมาอันดับ 2 หลังโดน "ปืนใหญ่" แซงขึ้นนำจ่าฝูง" เปิดแอนฟิลด์รับมือแชมป์เก่า แมนเชสเตอร์ ซิตี้ อันดับ 3 โดยผลการแข่งขันนัดแรกที่เอติฮัด สเตเดี้ยม เสมอกันมา 1-1
เจอร์เก้น คล็อปป์ นายใหญ่ "หงส์แดง" จัดสามแนวรุกเป็น ฮาร์วี่ย์ เอลเลียต, ดาร์วิน นูนเญซ และ หลุยส์ ดีอาซ ขณะที่ โมฮาเหม็ด ซาลาห์ มีชื่อสำรองข้างสนาม ส่วนฝั่งของ เป๊ป กวาร์ดิโอล่า บอสเรือใบสีฟ้า มาชุดใหญ่ เออร์ลิ่ง ฮาลันด์ หน้าเป้าล่าตาข่ายมีตัวสนับสนุนทั้ง เควิน เดอ บรอยน์, ฮูเลี่ยน อัลวาเรซ และ ฟิล โฟเด้น
เปิดฉากครึ่งแรกมาทีมเยือน แมนซิตี้ ทำได้ดีกว่ากดดันใส่แนวรับ "หงส์แดง" ก่อนได้ลุ้นจากการยิงเข้ากรอบหนแรกของ ฮูเลี่ยน อัลวาเรซ แต่บอลยังไม่เข้ามือ ควีวิน เคลเลเฮอร์
จากนั้นนาทีที่ 8 เควิน เดอ บรอยน์ ตะบันนอกกรอบเต็มแรงแต่ "ลูกหมี" เคลเลเฮอร์ ยังทุบออกไปได้อีก
นาที 13 โอกาสบุกหนแรกของ ลิเวอร์พูล เกือบได้ลุ้นขึ้นนำเหมือนกันบอลวางยาวมาถึงไอ้หนู แบร็ดลี่ย์ กระชากหนี อาเก้ ก่อนซัดกึ่งยิงกึ่งผ่านไปเสาไกลบอลเกือบถึง ดาร์วิน นูนเญซ ตามสไลด์มาแต่เลยหน้าปากประตูออกไปแบบได้เสียว
นาที 18 แฟนหงส์ได้เฮเก้อหลัง ดาร์วิน นูนเญซ หลุดเข้าไปก่อนไหลให้ หลุยส์ ดิอาซ ซัดบอลเข้าไปแล้ว ทว่าผู้ตัดสินเป่าเป็นจังหวะล้ำหน้าของ นูนเญซ ก่อน
กลายเป็น "เรือใบสีฟ้า" ที่ได้ประตูขึ้นนำก่อนจนได้ นาที 23 เควิน เดอ บรอยน์ เปิดเตะมุมมาเสาแรก จอห์น สโตนส์ หนีตัวประกบปาดมายิงง่ายๆ เข้าไป ให้ แมนฯ ซิตี้ บุกมานำ 1-0
นาที 31 หงส์แดง เกือบได้ลุ้นตีเสมอคราวนี้บอลขึ้นทางขวา เอลเลี่ยต เปิดเข้าไปเสาแรกให้ โดมินิค โซโบซไล เทกตัวโขกแต่บอลเหินคานออกไปอย่างน่าเสียดาย
จากนั้น นาที 39 ฮาลันด์ ตะลุยเดี่ยวครึ่งสนามขึ้นมา กระชากหนี ฟาน ไคด์ ไปได้แต่หลักไม่ดีซัดไปเข้ามือนายด่านหงส์แดง
ท้ายครึ่งแรก นาที 43 หงส์แดง ได้ลุ้นตีเสมอหลัง หลุยส์ ดิอาซ ซัดหน้าประตูบอลพุ่งถากเสาหลุดกรอบออกไปอย่างน่าเสียดาย
ก่อนที่ช่วงทดเจ็บ นาที 45+3 ลิเวอร์พูล จะได้ลุ้นอีกทีจากฟรีคิกของ โดมินิค โซโบซไล แต่บอลยังพุ่งไปเข้ามือ เอแดร์ซอน ซึ่งเป็นจังหวะซัดเข้ากรอบหนแรกของเจ้าถิ่น
จบครึ่งแรก ลิเวอร์พูล ตามหลัง แมนเชสเตอร์ ซิตี้ 0-1
ครึ่งหลังเริ่มมาได้แค่สองนาที นาธาน อาเก้ ส่งบอลคืนหลังสั้นไปโดน ดาร์วิน นูนเญซ สปีดไปฉกบอลก่อนโดน เอแดร์ซอน วิ่งมาเข้าช้ากลายเป็นฟาวล์เสียจุดโทษแถมโดนใบเหลือง ก่อนที่ อเล็กซิส แม็ค อัลลิสเตอร์ จะรับหน้าที่สังหารเข้าไปให้ ลิเวอร์พูล ไล่ตีเสมอ แมนซิตี้ 1-1 ในนาทีที่ 50
นาที 56 เอแดร์ซอน นายด่านของ "เรือใบสีฟ้า" เล่นต่อไม่ไหวหลังมีอาการเจ็บจากการปะทะกับ นูนเญซ จนต้องส่ง สเตฟาน ออร์เตก้า ลงมาเฝ้าเสาแทน
นาที 58 ทัพเรือใบลุยมาบ้างหลังแซงขึ้นนำอีกครั้ง คราวนี้ เดอ บรอยน์ จ่ายออกขวาให้ โฟเด้น หลุดเข้าไปซัดเสาแรกแต่ยังไปติดเซฟของ เคลเลเฮอร์
ผ่านไปหนึ่งชั่วโมง คล็อปป์ แก้เกมต่อเปลี่ยนเอาทั้ง ซาลาห์ และโรเบิร์ตสัน ลงไปเล่นแทน โดมินิค โซโบซไล และคอเนอร์ แบร็ดลี่ย์
นาที 62 หงส์ทิ้งโอกาสทองขึ้นนำ ซาลาห์ จ่ายคิลเลอร์พาสสุดสวยทะลุุแนวรับซิตี้ให้ หลุยส์ ดิอาซ หลุดเข้าไปแต่สตาร์โคลอมเบียยิงหนีมือหลุดกรอบออกไปอย่างน่าผิดหวัง
ลูกทีมของ คล็อปป์ ทิ้งโอกาสทองอีกครั้งง นาที 71 แอนดรูว์ โรเบิร์ตสัน ครอสเร็วไปหน้าปากประตู ดาร์วิน นูนเญซ พุ่งมาซัดแต่ไปตรงตัว สเตฟาน ออร์เตก้า
ท้ายเกม นาที 89 เฌเรมี่ โดกู ตัวสำรองหลุดไปซัดผ่านมือ เคลเลเฮอร์ ได้แล้วแต่บอลพุ่งไปชนเสาก่อนมาเข้ามือนายด่านหงส์แดง
ช่วงเวลาที่เหลือทำอะไรกันไม่ได้ จบเกม ลิเวอร์พูล เสมอกับ แมนซิตี้ 1-1 แบ่งแต้มกันไป "หงส์แดง" มีเพิ่มเป็น 64 แต้มเท่ากับ อาร์เซน่อล แต่ลูกได้เสียเป็นรองรั้งที่ 2 ส่วน "เรือใบสีฟ้า" มี 63 คะแนน ยึดที่ 3
รายชื่อผู้เล่นทั้งสองทีม
ลิเวอร์พูล (4-3-3) : ควีวิน เคลเลเฮอร์ - คอเนอร์ แบร็ดลี่ย์, จาเรลล์ ควอนซาห์, เฟอร์จิล ฟาน ไดค์, โจ โกเมซ - โดมินิค โซโบซไล, วาตารุ เอ็นโด, อเล็กซิส แม็ค อัลลิสเตอร์ - ฮาร์วี่ย์ เอลเลียต, ดาร์วิน นูนเญซ, หลุยส์ ดีอาซ
แมนฯ ซิตี้ (4-1-4-1) : เอแดร์ซอน - ไคล์ วอล์คเกอร์, มานูเอล อาคันจี, จอห์น สโตนส์, นาธาน อาเก้ - โรดรี้ เอร์นานเดซ - แบร์นาร์โด้ ซิลวา, เควิน เดอ บรอยน์, ฮูเลี่ยน อัลวาเรซ, ฟิล โฟเด้น - เออร์ลิ่ง ฮาลันด์