แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด อาจกลับคืนสู่ความยิ่งใหญ่ไปแล้วสมัยที โอเล่ กุนนาร์ โซลชา กุมบังเหียน เพราะตอนนั้นเขามีโอกาสที่จะเซ็นสัญญากับนักเตะชั้นยอดมากมาย แต่สุดท้ายโดนบอร์ดบริหารปฏิเสธอย่างน่าเจ็บปวด
กุนซือชาวนอร์เวย์ ยังไม่ได้รับงานคุมทีมไหนอีกเลยนับตั้งแต่ที่โดน แมนฯ ยูไนเต็ด ปลดจากตำแหน่งเมื่อเดือนพฤศจิกายน 2021 โดยเจ้าตัวไม่ได้ออกมาแสดงความเห็นอะไรมากมายนักหลังจากที่กลายเป็นคนว่างงาน
อย่างไรก็ตาม "น้าลูกอม" ได้สร้างความฮือฮาเมื่อออกโรงเปิดเผยถึงช่วงเวลาที่ทำงานในถิ่นโอลด์ แทร็ฟฟอร์ด และมีโอกาสที่จะได้เซ็นสัญญากับผู้เล่นชั้นยอดมากมาย แต่สุดท้ายไม่ประสบความสำเร็จ
ลองนึกภาพนักเตะที่ อดีตดาวยิงซูเปอร์ซับเจ้าของฉายา "เพชฌฆาตหน้าทารก" พลาดดึงตัวมาสวมชุด "ปีศาจแดง" ถ้าหากพวกเขาเหล่านั้นได้ทำงานภายใต้การกุมบังเหียนของ โซลชา ดีไม่ดี แมนฯ ยูไนเต็ด อาจฟื้นคืนชีพไปแล้วก็ได้
ด้วยเหตุนี้จึงเป็นโอกาสอันดีที่จะได้จัด 11 ตัวจริง แมนฯ ยูฯ ถ้าหากบอร์ดบริหารตัดสินใจฟังสิ่งที่ โซลชา แนะนำ บอกเลยว่าสามารถเอาชนะได้ทุกสโมสรทั่วโลกเลยทีเดียว
ผู้รักษาประตู : ดาบิด เด เคอา
ในยุคที่ โซลชา คุม แมนฯ ยูไนเต็ด เด เคอา ยังคงได้รับความไว้วางใจให้ทำหน้าที่มือ 1 อย่างต่อเนื่อง แน่นอนว่าถ้าหาก "น้าลูกอม" ยังอยู่สถานการณ์เรื่องต่อสัญญาฉบับใหม่คงไม่คาราคาซัง และตอนนี้ทีมก็ยังคงมี นายทวารชาวสแปนิช ทำหน้าที่เฝ้าเสาประตูเหมือนเดิม
แบ็กขวา : คีแรน ทริปเปียร์
โซลชา ไม่เคยพูดเกี่ยวกับกรณีของ ทริปเปียร์ แต่ย้อนกลับไปช่วงซัมเมอร์ปี 2021 มีรายงานแพร่สะพัดว่า แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด อยากได้ ฟูลแบ็กชาวอังกฤษรายนี้ หลังเจ้าตัวโชว์ฟอร์มสุดยอดช่วยให้ แอตเลติโก มาดริด คว้าแชมป์ลา ลีกา แต่สุดท้ายเขาเลือกย้ายไปเล่นกับ นิวคาสเซิ่ล ยูไนเต็ด
เซนเตอร์แบ็ก : แฮร์รี แม็กไกวร์
"น้าลูกอม" อยากได้ แม็กไกวร์ มากๆ และเมื่อได้ตัวมาร่วมทัพก็จัดการมอบปลอกแขนกัปตันทีมให้เขาทันที โดย โซลชา เชื่อมั่นในศักยภาพของ แม็กไกวร์ มาตลอด และถึงเขาจะเล่นผิดพลาดไม่รู้กี่ครั้งกี่หนก็ยังคงได้รับโอกาสลงเป็นตัวจริงเสมอ
เซนเตอร์แบ็ก : เปา ตอร์เรส
มีรายงานว่า กุนซือชาวนอร์เวย์ ประทับใจฟอร์มการเล่นของ แนวรับชาวสแปนิช อย่างมาก จากฟอร์มที่ช่วย บียาร์เรอัล ปราบ แมนฯ ยูฯ ในรอบชิงชนะเลิศศึก ยูโรปา ลีก เมื่อปี 2021 อย่างไรก็ตาม ตอร์เรส เลือกอยู่กับต้นสังกัดต่อไปจนกระทั่งซัมเมอร์ที่ผ่านมา เมื่อเขาหวนกลับไปร่วมงานกับ อูไน เอเมรี่ ที่แอสตัน วิลล่า แถมยังสร้างผลงานดีมีคุณภาพทำให้ทีมมีลุ้นโควตา ยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ ลีก
แบ็กซ้าย : ลุค ชอว์
นี่คือตำแหน่งที่ โซลชา ภาคภูมิใจอย่างมาก เพราะ ลุค ชอว์ ทำผลงานได้อย่างโดดเด่นในช่วงที่เขากุมบังเหียนแมนฯ ยูไนเต็ด ขณะที่นักเตะก็เล่นได้อย่างโดดเด่นจนกลายเป็นตัวหลักของทีมอย่างต่อเนื่อง
กองกลางตัวรับ : มอยเซส ไกเซโด้
แม้ว่า ไกเซโด้ ต้องแบกรับความกดดันจากค่าตัวมากกว่า 100 ล้านปอนด์ (ราว 4,400 ล้านบาท) ตอนย้ายจาก ไบรท์ตัน แอนด์ โฮฟ อัลเบี้ยน มาเล่นกับ เชลซี แต่จริงๆ แล้ว แมนฯ ยูไนเต็ด น่าจะได้ตัวเขามาร่วมทัพตั้งแต่สมัยที่นักเตะยังเป็นเด็กหนุ่มวัยขบเผาะสมัยเล่นให้ อินดิเพนเดียนเต้ เดล วัลเล่ และสุดท้ายก็เป็น ไบรท์ตัน ที่คว้าตัวไปปลุกปั้นจนโด่งดัง
มิดฟิลด์ตัวกลาง : เดแคลน ไรซ์
โซลชา ไม่ปกปิดความต้องการอยากได้ตัว ไรซ์ มาเล่นกับ แมนฯ ยูไนเต็ด อย่างมาก เพราะเขาชื่นชอบสไตล์การเล่นของแข้งรายนี้ และยังมองว่า ดาวเตะทีมชาติอังกฤษ จะเข้ามาเติมเต็มแดนกลางของ "ผีแดง" ให้แข็งแกร่งยิ่งขึ้นกว่าเดิมหลายเท่า แต่สุดท้ายเรื่องนี้ไม่เกิดขึ้น และกลายเป็น อาร์เซน่อล ที่ทุ่มเงินเป็นสถิติสโมสรได้ตัว ไรซ์ มาเสริมทัพ
มิดฟิลด์ตัวกลาง : จู๊ด เบลลิงแฮม
กุนซือซูเปอร์ซับ อยากได้ เบลลิงแฮม มากๆ เพราะมองว่าเขาคือนักเตะในแบบที่ แมนฯ ยูฯ ต้องการ โดย โซลชา พยายามชักแม่น้ำทั้งห้าเพื่อกล่อมให้นักเตะเซ็นสัญญากับทีมทั้งๆ ที่ตอนนั้นยังอายุน้อยมากๆ ขณะเล่นให้กับ เบอร์มิงแฮม ซิตี้ งานนี้เจ้าตัวได้เชิญ เซอร์อเล็กซ์ เฟอร์กูสัน, บ็อบบี้ ร็อบสัน และ เอริค คันโตน่า ให้มาชมผลงานของ เบลลิงแฮม และทุกคนก็ทั่งมากๆ แต่การที่สโมสรไม่การันตีโอกาสในการลงเล่น นั่นทำให้นักเตะไม่เลือก "ผีแดง" แต่ย้ายไปเล่นกับ โบรุสเซีย ดอร์ทมุนด์ และปัจจุบันกำลังโด่งดังสุดขีดกับ เรอัล มาดริด
เพลย์เมกเกอร์ : บรูโน่ แฟร์นันด์ส
ต้องยอมรับว่า แฟร์นันด์ส คือการเซ็นสัญญาที่สุดยอดที่สุดสมัยที่ โซลชา คุม แมนฯ ยูไนเต็ด โดย จอมทัพชาวโปรตุกีส ย้ายมาเล่นกับทีมช่วงเดือนมกราคม 2020 และกลายเป็นแข้งสำคัญของ "เร้ด เดวิลส์" มาตลอดนับตั้งแต่วันนั้นจนถึงปัจจุบัน ที่สำคัญ แฟร์นันด์ส ยังได้รับเกียรติให้สวมปลอกแขนกัปตันทีม แทนที่ แม็กไกวร์ หลัง เอริค เทน ฮกา เข้ามานั่งเก้าอี้นายใหญ่แมนฯ ยูฯ
กองหน้า : เออร์ลิง ฮาลันด์
นี่คืออีกหนึ่งแข้งที่แฟนแมนฯ ยูฯ ต้องร้องเสียดาย เพราะ โซลชา มีความสนิทสนมกับ ฮาลันด์ เป็นทุนเดิมจากการที่ร่วมงานกันตอนอยู่ โมลด์ และก่อนจะคุม แมนฯ ยูฯ เขาลงทุนโทรไปแนะนำบอร์ดบริหาร "เร้ด เดวิลส์" ให้เซ็นนักเตะรายนี้ แต่กลับโดนปฏิเสธ พอได้โอกาสเข้ามารับงานใน "โรงละครแห่งความฝัน" ก็ยังบอกให้ทีมเซ็น ฮาลันด์ มาจากซัลซ์บวร์ก ด้วยค่าฉีกสัญญาแค่ 20 ล้านยูโร (ราว 780 ล้านบาท) แต่ก็ยังโดนเมิน และสุดท้ายนักเตะกลายเป็นหนึ่งในหัวหอกที่เก่งที่สุดในโลกเมื่อย้ายมาเล่นกับ แมนเชสเตอร์ ซิตี้
กองหน้า : แฮร์รี่ เคน
อาจจะดูไม่น่าจะเป็นไปได้เพราะถ้า แมนฯ ยูไนเต็ด ได้ตัว ฮาลันด มาร่วมทัพ พวกเขาคงไม่สนใจเซ็นสัญญากับ เคน แต่แค่อยากให้สาวก "เร้ด อาร์มี่" ลองนึกภาพถ้าหากทีมมีคู่กองหน้าที่ชื่อ ฮาลันด์ กับ เคน เล่นร่วมกัน มันจะโหดขนาดไหน !! โดย กัปตันทีมชาติอังกฤษ สวมบทบาทได้ทั้งหน้าเป้า และบางครั้งยังลงมายืนต่ำเพื่อทำหน้าที่เป็นเพลย์เมกเกอร์ก็ได้ ซึ่งจะยิ่งช่วยให้ ดาวยิงนอร์เวย์ มีโอกาสทำประตูมากขึ้น เหมือนที่เขาเคยทำร่วมกับ ซน ฮึง-มิน สมัยที่เล่นกับ ท็อตแน่ม ฮ็อทสเปอร์
ทอมเม้ง