ชัยชนะเหนือ ท็อตแน่ม ฮ็อทสเปอร์ 2-0 และฟอร์มที่น่าประทับใจของ แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด เมื่อวันพุธที่ 19 ตุลาคม ที่ผ่านมา กลายเป็นประเด็นรองไปเลยเมื่อ คริสเตียโน่ โรนัลโด้ แข้งคนดังของ "ปีศาจแดง" เดินเข้าอุโมงค์สนามไปดื้อๆ ทั้งที่ทีมของเขากำลังเล่นในช่วงท้ายเกมอยู่
จนถึงตอนนี้ยังไม่มีการเปิดเผยอย่างเป็นทางการว่าอะไรดลใจให้ โรนัลโด้ ทำแบบนั้น แต่แทบทุกคนฟันธงว่ามันเป็นเพราะเขาไม่พอใจที่ไม่ค่อยได้รับโอกาสลงสนามมากนัก โดยจนถึงตอนนี้เขาได้เป็นตัวจริงกับการเล่นเกมลีกประจำฤดูกาล 2022-23 ไปเพียง 2 นัดเท่านั้น จากจำนวนทั้งหมด 8 เกมที่ได้ลงเล่นในลีกของซีซั่นนี้
แน่นอน สำหรับนักเตะที่ชื่อดังอย่าง โรนัลโด้ การไม่ได้การันตีตำแหน่งตัวจริงอีกต่อไปอาจจะเป็นสิ่งที่เจ้าตัวคาดไม่ถึงจนทำให้เขาหงุดหงิด แต่ปฏิเสธไม่ได้ว่าคนจัดทีมคือตัวกุนซือ และเขาจำเป็นต้องเคารพการตัดสินใจนั้นต่อให้จะชอบหรือไม่ก็ตาม
นอกจากนี้ มันมีปัจจัยที่อาจจะตอบได้ว่าทำไม เอริค เทน ฮาก ถึงไม่ได้กำหนดให้เจ้าของรางวัล บัลลง ดอร์ 5 สมัย ถึงไม่ได้กำหนดให้ โรนัลโด้ เป็นแกนหลักของทีมด้วย นั่นคือ "การวิ่ง"
อย่างที่รู้กันดีว่า เทน ฮาก มีสไตล์การทำทีมที่ชอบให้นักเตะทุกคนต้องขยันวิ่ง ไม่ว่าจะเพื่อเป็นการช่วยเกมรับ, หาที่ว่างในการเล่น, ขึ้นเกมบุกกันแบบรวดเร็ว ฯลฯ เกมลีกนัดที่สองของฤดูกาลนี้ที่ แมนฯ ยูไนเต็ด แพ้ เบรนท์ฟอร์ด 0-4 ถือเป็นตัวอย่างที่สื่อถึงเรื่องนั้นได้ดีที่สุด
หลายคนคงยังจำกันได้ว่าเกมนั้น เทน ฮาก โมโหลูกทีมสุดๆ ที่ไม่ขยันวิ่งกันเท่าที่ควร โดยพวกเขาวิ่งกันเป็นระยะทางโดยรวมได้เพียง 95.5 กิโลเมตรเท่านั้น น้อยกว่า เบรนท์ฟอร์ด ถึง 13.8 กิโลเมตร และนั่นนำไปสู่การที่กุนซือชาวดัตช์ลงโทษทีมด้วยการยกเลิกวันพักพร้อมกับให้ทุกคนในทีมต้องมาวิ่งกลางแดดเป็นระยะทาง 13.8 กิโลเมตร
เอาล่ะ ต่อไปคือคำถาม เกมแรกที่ โรนัลโด้ ได้ลงเล่นเป็นตัวจริงในลีกของฤดูกาลนี้คือเกมไหนกัน ? ถูกต้องแล้ว เกมที่แพ้ เบรนท์ฟอร์ด นั่นเอง โดยนั่นถือเป็นเกมที่มีทีมใดทีมหนึ่งวิ่งเป็นระยะทางตลอดทั้งเกมได้น้อยที่สุดเป็นอันดับ 2 ของ พรีเมียร์ลีก ประจำซีซั่นนี้ด้วย ส่วนที่ 1 คือ ฟูแล่ม ที่เคยไม่ขยันวิ่งมากนักในเกมกับ นิวคาสเซิ่ล ยูไนเต็ด
นับจากเกมนั้นเป็นต้นมา เทน ฮาก ก็ดร็อป โรนัลโด้ จากการเป็นตัวจริงในลีกถึง 6 นัด ซึ่งทีมก็มีผลงานโดยรวมที่ดีขึ้นตามไปด้วย โดยส่วนหนึ่งมาจากการที่พวกเขาขยันวิ่งกันมากกว่าเดิม ก่อนที่ เทน ฮาก จะให้โอกาส โรนัลโด้ ได้เป็นตัวจริงในลีกอีกครั้งในเกมที่เจอกับ นิวคาสเซิ่ล
ถึงกระนั้น ในนัดดังกล่าว โรนัลโด้ วิ่งไปเพียง 7.3 กิโลเมตร ก่อนที่จะโดนเปลี่ยนตัวออกจากสนามในนาทีที่ 72 โดยพอกรรมการเป่านกหวีดจบการแข่งขันแล้วนั้นตัวเลขมันแสดงให้เห็นว่าในเกมเสมอ นิวคาสเซิ่ล 0-0 เมื่อวันที่ 16 ตุลาคม ที่ผ่านมา นักเตะทุกคนของ แมนฯ ยูไนเต็ด วิ่งเป็นระยะทางรวมกัน 101.5 กิโลเมตร ซึ่งถือเป็นตัวเลขที่น้อยที่สุดอันดับ 2 ของพวกเขาในฤดูกาลนี้ ดีกว่าแค่เกมพ่าย เบรนท์ฟอร์ด เท่านั้น
ยิ่งไปกว่านั้น ในเกมที่ชนะ สเปอร์ส บรรดานักเตะของ แมนฯ ยูไนเต็ด ยังวิ่งกันเป็นระยะทางรวมแล้วถึง 114.4 กิโลเมตร ซึ่งนี่เป็นเกมที่พลพรรค "ปีศาจแดง" วิ่งกันได้เยอะที่สุดของฤดูกาลนี้่ด้วย มากกว่าวันชนะ ลิเวอร์พูล ที่พวกเขาวิ่งกันไปราว 113.8-114 กิโลเมตรซะด้วยซ้ำ
ทั้งนี้ จากเกมลีก 2 นัดที่ โรนัลโด้ ลงเป็นตัวจริงในซีซั่น 2022-23 แมนฯ ยูไนเต็ด วิ่งทั้งทีมเป็นระยะทางรวมแล้วเฉลี่ย 98.5 กิโลเมตร ต่างกับตอนที่เขาไม่ได้เป็นตัวจริงซึ่งทำได้เฉลี่ย 108.5 กิโลเมตร อย่างสิ้นเชิง โดยถึงแม้จะดูเหมือนว่าแตกต่างกัน "แค่" 10 กิโลเมตร แต่มันก็เป็นส่วนต่างที่ส่งผลกับการเล่นได้มากพอตัว
แน่นอน โรนัลโด้ ยังถือเป็นนักเตะที่โด่งดังอยู่ และอาจจะยังสามารถจบสกอร์ได้ดีหากมีความมั่นใจในการเล่น แต่ไม่ว่าจะด้วยอายุที่ 37 ปี, สไตล์การเล่นส่วนตัว หรือปัจจัยอะไรก็ตาม เขาก็อาจจะไม่สามารถวิ่งขึ้นวิ่งลงตลอดทั้งเกมได้ในตอนนี้
และนั่นก็หมายความว่าเขาอาจจะไม่มีที่ในทีมของ เทน ฮาก จนทำให้มันอาจจะถึงตอนอวสานของภาคที่ 2 ของเจ้าตัวกับ แมนฯ ยูไนเต็ด แล้วก็ได้
- เด็กเกร็ดบอล -