สาบาน !!! ก่อนเกมไม่คิด & ไม่ฝัน เลยว่าพลพรรตปีศาจแดงจะระเบิดฟอร์มการเล่นได้เปล่งปลั่งขนาดนี้แล้วยัดเยียดความปราชัยให้ ท็อตแน่ม ฮอตสเปอร์ ด้วยสกอร์ 2-0
ขอบอกว่านี่คือเกมที่เล่นได้ไฉไลที่สุดในฤดูกาลเลยทีเดียว
และต่อไปคือสิ่งที่อยากจะบอก...นะจ๊ะ
1. คริสเตียน เอริคเซ่น หายป่วยแล้ว เช่นเดียวกับ สก๊อตต์ แม็คโทมิเนย์ ที่พ้นโทษแบน แต่ เอริค เทน ฮาก ยังเก็บทั้งคู่เอาไว้ไม่ให้ลงตัวจริง โดยยังคงใช้ เฟร็ด เป็นตัวจริงอีกครั้งในตำแหน่งมิดฟิลด์ตัวกลางคู่ กาเซมิโร่ ท่ามกลางเสียงบ่นปนสบถของบรรดาผู้มีจิตศรัทธาในปีศาจแดง
กลับกลายเป็นว่าคุณพี่เขาดันแปลงร่างเป็น 'เฟร็ดดินโญ่' แล้วโชว์ฟอร์มกระฉูด แถมยิงประตูได้อีกต่างหาก
แผงหลังเหมือนเดิม ไม่มีอะไรเปลี่ยนแปลง
ส่วน 3 ตัวบน มาร์คัส แรชฟอร์ด สวมบทหัวหอกตัวเป้าแทน
คริสเตียโน่ โรนัลโด้ ขนาบข้างซ้ายและขวาด้วย เจดอน ซานโช่ กับ อันโตนี่
2. แมนฯ ยูไนเต็ด เปิดเกมด้วยความฮึกหาญมาก นักเตะพันธุ์อสูรแสดงความกระเหี้ยนออกมาเหมือนถูกฉีดน้ำใบกระท่อมเข้าไปในเส้นเลือด
เห็นความมุ่งมั่นและทุ่มเทของพวกเขาแล้วรู้เลยว่าต้องการแก้ตัวจากนัดที่แล้วที่ดันทำได้แค่เสมอกับ นิวคาสเซิ่ล ในบ้าน
...ว่าแล้วก็ครองบอลทำเกมรุกบุกกระหน่ำอยู่ข้างเดียว โดยแทบจะไม่อนุญาตให้ผู้มาเยือนสวนกลับสักเท่าไหร่ด้วย
ปัญหาคือจังหวะจบไม่ค่อยเฉียบคมและเด็ดขาด
เข้าใจครับว่า อูโก้ โยริส ช่วยเซฟจนมือบวม แต่ส่วนหนึ่ง เพราะนักเตะเจ้าถิ่นยิงกันไม่ดีพอ
จบครึ่งแรกมีโอกาสทำประตูมากมายถึง 19 ครั้ง เปลี่ยนเป็นประตูไม่ได้เลย !!!
3. ถามว่าทำไมถึงเล่นได้ไฉไลเป็นบ้าแบบนี้ ???
นอกจากความมุ่งมั่นและทุ่มเทแบบ 80,000 ตีนถีบ ขอชื่นชมแผนการเล่นที่ เอริค เทน ฮาก ติดตั้งให้ลูกทีม
อันดับแรกคือบีบขึ้นไปขึงแล้วพุ่งเข้าหาบอลเร็วสลับกับยืนปิดพื้นที่ตามจังหวะของเกมจนผู้เล่นของพญาโต้งเซ็ตบอลไม่ถนัด รวมถึงเร่งให้พวกเขาต้องออกบอลเร็วเกินไปจนนำมาซึ่งความผิดพลาดบ่อยครั้ง
แดนกลางดักตัดบอลและเก็บตกจังหวะ 2 ได้แทบทุกจังหวะ
อันดับต่อมาคือการต่อบอลและทำชิ่งกันอย่างแม่นยำมากกว่าหลายเกมที่ผ่านมา ไม่จ่ายบอลกันสะเปะสะปะ
ที่สำคัญคือถ้ามีช่องหรือสบโอกาสก็พยายามหาจังหวะจบด้วยการยิงทันที
นั่นคือเหตุผลที่บอกว่าทำไม แมนฯ ยูไนเต็ด ถึงมีโอกาสทำลายตาข่ายอย่างมากมายก่ายกองซะขนาดนั้น
4. เกมเหนือกว่าชัดเจน โอกาสถล่มประตูมากกว่าชัดเจน แต่หากสังเกตให้ดีจะพบจุดบกพร่องของเรื่องนี้
คือเวลาครองบอลบุกในรูปแบบของการ 'ขึงพืด' บังคับให้คู่แข่งถอยลงไปตั้งรับลึก แมนฯ ยูไนเต็ด มักจะหาทางเจาะเข้าไปยิงประตูในกรอบเขตโทษไม่ค่อยได้
จังหวะยิงในครึ่งแรกจึงเกิดขึ้นนอกเขตโทษเสียเป็นส่วนใหญ่
พูดง่ายๆ ว่าได้แต่ถ่ายบอลไปถ่ายบอลมาอยู่หน้ากรอบเขตโทษ
แล้วสังเกตเห็นไหมครับว่า 2 ประตูที่แย่งจาก สเปอร์ส ได้ในเกมนี้มาจากจังหวะจู่โจมเร็ว มิได้มาจากจังหวะที่ครองบอลขึงคู่แข่งอย่างต่อเนื่อง
ประตูแรกมาจากจังหวะที่ผู้มาเยือนทำบอลเสียง่ายๆ ในแดนตัวเอง ขณะประตูที่ 2 มาจากจังหวะสวนกลับอย่างฉับพลันตั้งแต่หน้าปากประตูตัวเอง
แมนฯ ยูไนเต็ด มักจะทำประตูได้จากการเล่นลักษณะนี้นะครับ
5. แม้จะระเบิดฟอร์มการเล่นแบบที่ต้องอุทานว่า 'ไฉไลเป็นบ้า' ก่อนจะมีชัยอย่างสวยสดงดงามด้วยสกอร์ 2-0
แต่นั่นไม่ได้หมายความว่าพวกเขาไม่มีปัญหากับจังหวะจบนะครับ เพราะดูจากโอกาสยิงร่วมๆ 30 ครั้ง แล้วได้มาแค่ 2 ประตู ถือว่าใช้โอกาสอย่างฟุ่มเฟือยมากเกินไป แถมใช้ประโยชน์จากลูกตั้งเตะทุกประเภทไม่ได้เลย
ถึงอย่างไรก็ต้องปรับปรุงในเรื่องนี้นะครับ
สุดท้าย เอฟซีของ 'พี่โด้' อย่างผมไม่อยากบอกเลยว่าไอ้ที่เกมดุดันแบบนี้ เพราะไม่มี คริสเตียโน่ โรนัลโด้ หรือเปล่า ???
ที่แน่ๆ คือตอนคุณพี่เขาทำหน้าเหมือนตูดลิงกังอยู่ข้างสนามแล้วสับตีนเข้าห้องแต่งตัวก่อนจบเกม
รู้เลยว่า...งอนตุ๊บป่อง
เห็นแล้วก็ไม่สบายใจเลย ทั้งที่ แมนฯ ยูไนเต็ด เป็นผู้มีชัยแบบงดงามแท้ๆ
บอ.บู๋