หลังจากที่ออกไปพลาดท่าแพ้ อาร์เซน่อล 1-3 เมื่อสุดสัปดาห์ที่แล้ว ทำให้ ลิเวอร์พูล แม้ยังคงนำเป็นจ่าฝูงในตารางคะแนน พรีเมียร์ลีก โดยมี 51 แต้ม จากการลงแข่ง 23 นัด แต่ผู้กุมชะตาตอนนี้อยู่ในมือของ แมนเชสเตอร์ ซิตี้ ทีมอันดับสอง เรียบร้อย เพราะ "เรือใบสีฟ้า" มีคะแนนตามหลังเหลือแค่ 2 แต้ม แถมลงเตะน้อยกว่า 1 นัด ขณะที่ อาร์เซน่อล, แอสตัน วิลล่า และ ท็อตแน่ม ฮ็อทสเปอร์ ต่างก็ไล่ตามขึ้นมาได้อย่างน่ากลัว โดยเฉพาะ "ไอ้ปืนใหญ่" ทีมอันดับสาม ที่ตอนนี้มี 49 แต้มเท่ากับ แมนฯ ซิตี้
อย่างไรก็ตาม ลิเวอร์พูล ยังมีโอกาสแก้ตัว ก่อนถึงเกมสำคัญที่จะเปิดรัง แอนฟิลด์ ดวลกับ แมนเชสเตอร์ ซิตี้ วันอาทิตย์ที่ 10 มีนาคม เพราะโปรแกรม 4 เกมต่อจากนี้ หากมองกันที่ฟอร์มการเล่นและศักยภาพทีมแล้ว ถือว่าเป็นโอกาสทองสำหรับทัพ "หงส์แดง" เลยทีเดียว ที่จะโกย 12 คะแนนเต็ม พร้อมกับลุ้นฉีกหนีผู้ตาม
- วันเสาร์ที่ 10 กุมภาพันธ์ : VS เบิร์นลีย์ (เหย้า)
- วันเสาร์ที่ 17 กุมภาพันธ์ : VS เบรนท์ฟอร์ด (เยือน)
- วันพุธที่ 21 กุมภาพันธ์ : VS ลูตัน ทาวน์ (เหย้า)
- วันเสาร์ที่ 2 มีนาคม : VS น็อตติ้งแฮม ฟอเรสต์ (เยือน)
ใช่แล้ว... หากมองกันตามเนื้อผ้า โดยที่ไม่ได้ลงลึกในรายละเอียด โปรแกรม 4 เกมนี้ ถือว่าไม่ยากเลยสำหรับ ลิเวอร์พูล แต่ในทางกลับกัน หากทำคะแนนหลุดมือแค่เกมเดียว มันอาจส่งผลถึงโอกาสคว้าแชมป์ลีกสมัยที่ 20 ของพวกเขาได้เลย ซึ่งนั่นคือความอันตรายที่แอบแฝงอยู่ใน 4 เกมนี้
แน่นอนว่า หลังจากผ่านพ้น 4 เกมนี้ไปแล้ว รวมถึงเกมถัดไปที่จะต้องวัดกับ แมนเชสเตอร์ ซิตี้ โดยตรง มันก็คงจะชี้วัดอะไรไม่ได้มาก เพราะยังเหลือเส้นทางอีกยาวไกล (10 นัดก่อนจบฤูดูกาล) แต่อย่างน้อยโปรแกรม 4 เกมที่ว่านี้ น่าจะบอกอะไรได้บ้างสำหรับ ลิเวอร์พูล ที่ฤดูกาลนี้จะเป็นฤดูกาลสุดท้ายที่มี เจอร์เก้น คล็อปป์ เป็นผู้จัดการทีม
Subinho