ไปต่อหรือพอแค่นี้?ย้อนดูผลงาน มิเกล อาร์เตต้า พา อาร์เซน่อล หลังกำชัย 7 นัดสำคัญ

ไปต่อหรือพอแค่นี้?ย้อนดูผลงาน มิเกล อาร์เตต้า พา อาร์เซน่อล หลังกำชัย 7 นัดสำคัญ
ไม่ต้องสงสัยเลยว่าชัยชนะของ อาร์เซน่อล ที่มีต่อ ลิเวอร์พูล เมื่อวันอาทิตย์ที่ผ่านมาเป็นหนึ่งในเกมที่ยอดเยี่ยมที่สุดของ มิเกล อาร์เตต้า ในฐานะกุนซือทีม ปืนใหญ่

ปฏิเสธไม่ได้ว่ากุนซือสแปนิชคุมทีมได้อย่างยอดเยี่ยมจากการเปิดบ้านพิชิต หงส์แดง ด้วยสกอร์ 3-1 ซึ่งไม่เพียงแสดงให้เห็นว่าพวกเขาโชว์ฟอร์มข่มทีมจ่าฝูงได้อย่างสมบูรณ์แบบตลอดทั้ง 90 นาที หากมันยังเพิ่มความหวังในการพยายามคว้าแชมป์ พรีเมียร์ลีก ซีซั่นนี้ของสโมสรจากลอนดอนด้วยเช่นกัน

ถึงขณะนี้ อาร์เซน่อล ไล่ตาม ลิเวอร์พูล เหลือสองแต้มแล้วจากการลงบู๊เกมลีก 23 นัดเท่ากันซึ่งหมายความว่าพวกเขามีลุ้นคว้าแชมป์อย่างเต็มตัวไม่ด้อยไปกว่า หงส์แดง และ แมนฯ ซิตี้ แชมป์เก่า

แต่ก่อนจะมองไปไกลจนถึงโค้งสุดท้ายของซีซั่น เราจะไปย้อนดู 7 เกมสำคัญที่ อาร์เตต้า พาทีมคว้าสามแต้มได้ว่าหลังจากนั้น อาร์เซน่อล สามารถสานผลงานยอดเยี่ยมได้อย่างต่อเนื่องหรือไม่

- อาร์เซน่อล 3- สเปอร์ส 1 (ต.ค.2022)

ชัยชนะที่มีต่อคู่ปรับสำคัญในเกมดาร์บี้แมตช์สร้างความเชื่อมั่นให้กับ อาร์เซน่อล ได้อย่างเต็มร้อย และแน่นอนว่ามันส่งผลกระทบในแง่บวกต่อสังเวียนแข้ง เอมิเรตส์ สเตเดี้ยม

หลังหักคอ ไก่เดือยทอง อวดแฟนบอลตัวเองได้ เดอะ กันเนอร์ส ก็ระเบิดฟอร์มร้อนแรงได้ต่อจากการคว้าชัยเกมลีกได้ 9 จาก 11 นัดโดยในระหว่างนี้ทีมของ อาร์เตต้า นั่งเก้าอี้จ่าฝูงของลีกได้อย่างไร้กังวล

- อาร์เซน่อล 3-2 ลิเวอร์พูล 2 (ต.ค.2022)

หลังจากเปิดบ้านสยบ สเปอร์ส ได้สำเร็จ นัดต่อมา อาร์เซน่อล ได้เล่นในรังของตัวเองต่อทันทีด้วยการต้อนรับ ลิเวอร์พูล 

แน่นอนว่าทีม ปืนใหญ่ กำลังอยู่ในช่วงมั่นใจสุดขีด และพวกเขาสร้างความแฮปปี้ให้กับแฟนบอลได้อย่างต่อเนื่องโดย กาเบรียล มาร์ติเนลลี่ , มาร์ติน โอเดการ์ด และ บูคาโย่ ซาก้า แบ่งกันซัดคนละเม็ดพาทีมหักปีก หงส์แดง

หลังคุมทีมออกมาแพ้ อาร์เซน่อล เจอร์เก้น คล็อปป์ นายใหญ่ ลิเวอร์พูล ประกาศตีตัวออกห่างจากการร่วมลุ้นคว้าแชมป์ทันทีเนื่องจาก เดอะ กันเนอร์ส ครองตำแหน่งจ่าฝูงได้อย่างเหนียวแน่น และไม่แพ้เกมลีกเลยในอีก 10 นัดข้างหน้า

- อาร์เซน่อล 3- แมนฯ ยูไนเต็ด 2 (ม.ค.2023)

หลังบุกไปอัด สเปอร์ส 2-0 อาร์เซน่อล ได้กลับมาเฝ้าบ้านปะทะกับ แมนฯ ยูไนเต็ด โดยมี เอ็ดดี้ เอ็นเคเทียห์ สวมบทฮีโร่เหมายิงประตูที่สองของตัวเองในช่วงทดเวลาพาทีมเก็บสามแต้มได้อย่างน่าฮือฮา

อย่างไรก็ดี ผ่านมาถึงจุดนี้ ทีม ปืนใหญ่ กลับออกอาการแผ่วปลายอย่างน่าตกใจเนื่องจากในอีกสามเกมข้างหน้า พวกเขาไม่อาจคว้าชัยชนะได้เลย รวมทั้งโดน แมนฯ ซิตี้ บุกมากำราบ 3-1 ด้วยซึ่งทำให้ เรือใบสีฟ้า กลับมามีลุ้นคว้าแชมป์อย่างเต็มตัว

- อาร์เซน่อล 3- บอร์นมัธ 2 (มี.ค.2023)

เกมเปิดบ้านคว่ำบอร์นมัธ จัดว่ามีความหมายอย่างยิ่งยวดต่อการพยายามคว้าแชมป์ พรีเมียร์ลีก ของ อาร์เซน่อล อีกทั้งมันเกิดขึ้นในนาทีที่ 97 จากลูกยิงของ รีสส์ เนลสัน ซึ่งช่วยให้ทีมเก็บสามแต้มได้แบบเฉียดฉิว

ผลลัพธ์จากเกมนี้ทำให้ทีม ปืนใหญ่ นำหน้าเป็นจ่าฝูงด้วยความห่างห้าแต้ม แถมอีกสามเกมต่อมาพวกเขาเดินหน้าคว้าชัยได้เช่นกันในเกมบู๊กับ ฟูแล่ม , คริสตัล พาเลซ และ ลีดส์ สร้างผลงานซิวชัยในลีกได้เจ็ดเกมติดต่อกันก่อนแผ่วปลายจนชวดการคว้าแชมป์ในท้ายที่สุด

- อาร์เซน่อล 3- แมนฯ ยูไนเต็ด 1 (ก.ย.2023)

หลังจากเสมอกัน 1-1 ในครึ่งแรก อาร์เซน่อล เกือบเสียท่าในครึ่งหลังด้วยซ้ำเมื่อทำท่าว่า แมนฯ ยูไนเต็ด จะคว้าสามแต้มได้ แต่ประตูของ อเลฮานโดร การ์นาโช่ ถูกระบุว่าเป็นลูกล้ำหน้า

ด้วยเหตุนี้ เจ้าบ้านจึงอาจพอใจกับผลเสมอ แต่เข้าสู่ช่วงทดเวลา สนาม เอมิเรตส์ สเตเดี้ยม ก็บังเกิดบรรยากาศที่บ้าคลั่งแบบสุดๆเมื่อ เดแคลน ไรซ์ กับ กาเบรียล เชซุส ซัดประตูให้ อาร์เซน่อล ได้สองเม็ดซ้อนในนาทีที่ 96 และ 101

ถัดจากนั้น อาร์เซน่อล ก็เก็บเพิ่มได้อีกเจ็ดจากเก้าแต้มเต็มโดยมีหลุดเสมอกับ สเปอร์ส ในบ้านด้วยสกอร์ 2-2

- อาร์เซน่อล 1- แมนฯ ซิตี้ 0 (ต.ค.2023)

เป็นเพราะว่าไม่อาจเอาชนะ เป๊ป กวาร์ดิโอล่า เมื่อซีซั่นก่อนได้ ในที่สุด อาร์เตต้า ก็ประกาศศักดาได้สำเร็จจากลูกยิงแฉลบของ มาร์ติเนลลี่ ก่อนหมดเวลาเพียงสี่นาที

"ผมภูมิใจมาก มันเป็นช่วงเวลาที่เหมาะเหม็ง เรารู้ว่าเราอาจเพลี่ยงพล้ำได้ คุณต้องการฟอร์มที่ยอดเยี่ยม และต้องการแฟนบอลเช่นกัน มันเป็นชัยชนะที่สำคัญ" อาร์เตต้า เปิดปากกับ สกาย สปอร์ตส์ หลังเกมจบลง

หลังจม เรือใบสีฟ้า ได้สำเร็จ เดอะ กันเนอร์ส เก็บเพิ่มได้อีก 29 แต้มจาก 15 นัด รวมถึงเกมล่าสุดที่พิชิต ลิเวอร์พูล ด้วยโดยในระหว่างนี้มีแค่ หงส์แดง กับ แอสตัน วิลล่า เท่านั้นที่เก็บแต้มได้มากกว่าพวกเขา

- ลูตัน 3- อาร์เซน่อล 4 (ธ.ค.2023)

แม้จะเป็นทีมน้องใหม่ แต่ก่อนบู๊กับ อาร์เซน่อล ไม่กี่เกมช่วงต้นเดือนพ.ย.เดอะ แฮ็ตเตอร์ส เกือบเอาชนะ ลิเวอร์พูล ในรังได้อยู่แล้วกระทั่งมาโดน หลุยส์ ดิอาซ ซัดประตูในช่วงทดเวลาแบ่งแต้มให้กับ หงส์แดง ได้สำเร็จ

ฉันใดก็ฉันนั้น ทีมเมืองหลวงต้องออกแรงจนกระทั่งถึงช่วงทดเวลาเช่นกันโดยมี ไรซ์  สวมบทฮีโร่พังประตูชัยให้ทีมเยือนได้ในนาทีที่ 97

ถึงกระนั้น หลังเกมที่ แคนิลเวิร์ธ โร้ด ทีมของ อาร์เตต้า ประสบกับความปราชัยในลีกมากถึงสามจากห้านัดถัดไปก่อนที่พวกเขาจะงัดฟอร์มเก่งได้สำเร็จอีกหนนับตั้งแต่เริ่มต้นปี 2024 ด้วยการชนะเกมลีกสามนัดรวด


ที่มาของภาพ : gettyimages,
ติดตามช่องทางอื่นๆ:
Website : siamsport.co.th
Facebook : siamsport
Twitter : siamsport_news
Instagram : siamsport_news
Youtube official : siamsport
Line : @siamsport