แมนฯ ยูไนเต็ด กลับมาอยู่ในฟอร์มที่ดีอีกหนเมื่อเดินหน้าคว้าสามแต้มต่อได้อีกเกมจากการเปิดบ้านทำศึก พรีเมียร์ลีก พิชิต เวสต์แฮม ได้อย่างยอดเยี่ยม 3-0 ที่สนาม โอลด์ แทรฟฟอร์ด เมื่อวันอาทิตย์ที่ 4 ก.พ.โดยเกมนี้ ราสมุส ฮอยลุนด์ ดาวยิงทีมชาติ เดนมาร์ค สอยตาข่ายให้ ผีแดง ได้อีกเม็ดฉลองวันเกิดอายุครบ 21 ปีของตัวเองพอดี ก่อนที่ อเลฮานโดร การ์นาโช่ จะรับผิดชอบสองเม็ดหลังจนส่งผลให้ เดอะ แฮมเมอร์ส ไม่เคยบุกมาเฮที่ โรงละครแห่งความฝัน เลยตั้งแต่ปี 2007
1. แม็กไกวร์ คัมแบ็คคุมหลังผี
แมนฯ ยูไนเต็ด ตัดสินใจใช้งาน แฮร์รี่ แม็กไกวร์ อดีตกัปตันทีมที่ฟิตสมบูรณ์แล้วกลับมาลงบู๊เป็นตัวจริงหลังจากเซ็นเตอร์ฮาล์ฟทีมชาติ อังกฤษ ลงเล่นเป็นตัวสำรองในเกมบุกชนะ วูล์ฟส์ อย่างเฉียดฉิว 4-3
รวมแล้ว เอริค เทน ฮาก เปลี่ยนโผ 11 คนแรกรายเดียวจากเกมดวลกับทีม หมาป่า เมื่อวันพฤหัสบดีโดย แม็กไกวร์ ได้ลงเล่นแทน ราฟาแอล วาราน ที่มีชื่อนั่งข้างสนามโดยเชื่อว่าสตาร์เฟรนช์แมนน่าจะถูกจับให้พักบ้างหลังลงเล่นเป็นตัวจริงมาตลอดหกเกมหลัง
อย่างไรก็ดี ผีแดง ได้ โซฟียาน อัมราบัต กองกลางทีมชาติ โมร็อกโก กลับมาจากศึก แอฟริกา คัพ ออฟ เนชั่นส์ แล้ว และมีชื่อเป็นตัวสำรองในเกมนี้เช่นเดียวกับ วิคตอร์ ลินเดอเลิฟ ที่หายเจ็บแล้ว
2. ค้อนดร็อป ฟิลลิปส์ เป็นตัวสำรอง
เดวิด มอยส์ กุนซือ เวสต์แฮม เปลี่ยนให้ คาลวิน ฟิลลิปส์ กองกลางที่ยืมมาจาก แมนฯ ซิตี้ นั่งอยู่ในซุ้มหลังเจ้าตัวประเดิมเกมแรกในฐานะตัวจริงได้แย่จากการก่อความผิดพลาดด้วยการส่งบอลคืนหลังให้ โดมินิค โซลันกี้ ยิงให้ บอร์นมัธ บุกมานำเร็วตั้งแต่นาทีที่ 3 เกมที่ เดอะ แฮมเมอร์ส ไล่ตีเสมอแบ่งแต้มได้จากสกอร์ 1-1
นอกจาก ฟิลลิปส์ ที่เสียตำแหน่งให้กับ นาเยฟ อาเกิร์ด แล้ว ทีมเยือนสลับโผตัวจริงอีกรายในเกมนี้โดย วลาดิเมียร์ คูฟาล ได้ลงเล่นเป็นตัวจริงก่อนหน้า คอนสแตนตินอส มาฟโรปานอส อีกราย
3. ฮอยลุนด์ ยิงฉลองวันเกิด
ถึงตอนนี้ ต้องยอมรับกันว่า ราสมุส ฮอยลุนด์ เริ่มตอบแทน แมนฯ ยูไนเต็ด ได้อย่างชัดเจนมากขึ้นทุกทีแล้วแม้ในช่วงต้นซีซั่นเจ้าตัวจะต้องใช้เวลาอยู่นานกว่าจะยิงประตูแรกใน พรีเมียร์ลีก ให้กับ ผีแดง ได้
จวบจนวันนี้ กองหน้าทีมชาติ เดนมาร์ค กำลังอยู่ในช่วงที่มั่นใจเต็มเปี่ยมพร้อมทั่งเพิ่มสถิติยิงใน พรีเมียร์ลีก เป็นประตูที่สี่แล้วกับการพา แมนฯ ยูไนเต็ด นำหน้า เวสต์แฮม 1-0
ขณะเดียวกัน มันเป็นประตูที่เจ้าตัวซัดได้ในวันเกิดอายุครบ 21 ปีพอดีอีกต่างหากจึงถือเป็นของขวัญชิ้นพิเศษที่ ฮอยลุนด์ มอบให้กับตัวเองได้อย่างน่าอิจฉาแม้เจ้าตัวจะต้องรอนานจนถึงวันที่ 26 ธ.ค.กว่าจะเช็กบิลเม็ดแรกในลีกอังกฤษให้กับ เร้ด เดวิลส์ ได้
พร้อมกันนี้ ดาวยิงเดนส์ สร้างชื่อเป็นนักเตะ แมนฯ ยูไนเต็ด อายุน้อยที่สุดด้วยที่ยิงได้ในเกม พรีเมียร์ลีก สี่นัดติดต่อกัน
อย่างไรก็ดี แม้จบครึ่งแรก แมนฯ ยูไนเต็ด จะนำ เวสต์แฮม 1-0 โดยครองบอลได้มากกว่า 54:46% แต่เจ้าบ้านมีเรื่องให้น่าห่วงไม่น้อยเนื่องจากพวกเขาได้ยิงแค่ 4 ครั้ง และเข้ากรอบ 3 ครั้ง ขณะที่ทีมเยือนได้ยิงมากถึง 13 ครั้ง และเข้ากรอบ 2 ครั้ง
4.การ์นาโช่ กู้ชื่อถูกเวลา
จากสถิติใน 45 นาทีแรก จะเห็นได้ว่า เวสต์แฮม มีโอกาสสอยตาข่ายเจ้าบ้านได้มากกว่าลิบลับซึ่งถือเป็นเรื่องที่น่าเป็นห่วงทีมของ เทน ฮาก ไม่น้อย และแค่พริบตาเดียวในครึ่งหลัง แม็กไกวร์ ก็ทำพลาดปล่อยให้ เอเมอร์สัน หลุดเดี่ยวไปยิงประตู แต่บอลโด่งข้ามคาน
เท่ากับว่า ขุนค้อน มีโอกาสสร้างปัญหาให้กับแผงหลังเจ้าบ้านได้อีกหน แต่ก่อนที่ทีมจากเมืองกรุงจะได้ลุ้นซัดลูกตีเสมอ อเลฮานโดร การ์นาโช่ ที่ฟอร์มตกไปนานก็มายิงประตูที่สองให้ แมนฯ ยูไนเต็ด ได้อย่างถูกที่ถูกเวลาแม้จะเป็นบอลแฉลบ อาเกิร์ด ก็ตาม หาไม่แล้วหากเจ้าบ้านไม่ได้ประตูเพิ่มก็มีโอกาสเสียสกอร์ให้กับทีมเยือนได้เช่นกัน
หลังจากพลาดโอกาสซัดลูกตีเสมอ แถมมาเสียเม็ดสองเพิ่มก็ดูเหมือนพลพรรค เดอะ แฮมเมอร์ส จะออกอาการท้อ และแทบไม่มีจังหวะทำเสียวแบบจะแจ้งอีกเลย ขณะที่ แมนฯ ยูไนเต็ด เริ่มมั่นใจมากขึ้นว่าสามารถรับมือกับเกมรุกของทีมเยือนได้
จนในที่สุด นาทีที่ 84 เกมก็ยุติเมื่อ สกอตต์ แม็คโทมิเนย์ แย่งบอลจาก ฟิลลิปส์ ตัวสำรองของ เวสต์แฮม ไปจ่ายให้ การ์นาโช่ ทะลุไปยิงพา แมนฯ ยูไนเต็ด นำห่าง 3-0 ก่อนที่เจ้าบ้านจะชนะไปด้วยสกอร์นี้
หลังครบ 90 นาที แมนฯ ยูไนเต็ด ครองบอลได้มากกว่าเล็กน้อย 51:49% และได้ยิง 12 ครั้งเข้ากรอบ 5 ครั้ง ขณะที่ทีมเยือนได้ยิง 22 ครั้งเข้ากรอบ 3 ครั้ง
5. มอยส์น่าเป็นห่วง
จากที่มีโอกาสทำประตู แมนฯ ยูไนเต็ด มากมาย แต่ไม่อาจส่งบอลปะทะตาข่ายได้ ถือเป็นเหตุผลสำคัญที่ทำให้ เวสต์แฮม บุกมาแพ้ แมนฯ ยูไนเต็ด อย่างราบคาบ 3-0
จากผลลัพธ์ดังกล่าว นับว่าสร้างความกดดันเพิ่มขึ้นให้กับ มอยส์ อย่างไม่ต้องสงสัยโดยเฉพาะก่อนหน้านี้เขาถูกร้านรับพนันมองว่ามีโอกาสโดนไล่ออกสูงด้วยก่อนที่ รอย ฮ็อดจ์สัน ผู้จัดการทีม คริสตัล พาเลซ จะโดนเพ่งเล็งแทน
หลังออกมาแพ้ ผีแดง ในเกมล่าสุดทำให้ เวสต์แฮม ไม่ชนะในทุกรายการหกเกมติดต่อกันแล้วนับตั้งแต่พวกเขาโชว์ฟอร์มได้เยี่ยมด้วยการบุกไปสยบ อาร์เซน่อล ได้ 2-0 ในเกมลีกช่วงปลายเดือนธ.ค.
และที่สำคัญ เกมหน้า เดอะ แฮมเมอร์ส จะเปิดบ้านฟัดกับ เดอะ กันเนอร์ส ในเกมลีกวันที่ 11 ก.พ. ด้วยซึ่งหากพวกเขามีผลงานเลวร้ายอีกก็น่าจะทำให้เก้าอี้ของ มอยส์ ร้อนฉ่ามากยิ่งขึ้น