ใครเหมาะสมที่สุด!วิเคราะห์ 4 กุนซือเข้าชิงรางวัลผู้จัดการทีมยอดเยี่ยมเดือนธันวาคม

ต้องยอมรับว่าช่วงเดือนสุดท้ายของปี 2023 มีผู้จัดการทีมหลายคนที่สร้างผลงานได้อย่างสุดยอดร่วมกับต้นสังกัดของพวกเขา บางคนถึงขนาดนำทีมมีลุ้นเบียดขึ้นจ่าฝูงลีก ส่วนบางคนก็สามารถนำทีมปราบยักษ์ใหญ่แบบช็อกแฟนบอลมาแล้ว

ขณะที่ เจอร์เก้น คล็อปป์ มีชื่อลุ้นรางวัลทรงเกียรตินี้อีกครั้ง หลังไม่ได้สัมผัสมันมาตั้งแต่เดือนพฤษภาคม 2021 ทั้งๆ ที่สร้างผลงานได้อย่างโดดเด่นกับ "หงส์แดง" ก็ตาม แต่ในเดือนธันวาคม ต้องยอมรับ นายใหญ่ชาวด๊อยท์ช ทำให้ทีมก้าวขึ้นมาเป็นจ่าฝูงได้อย่างสง่างามจริงๆ 

หลังจากที่  อังเก้ ปอสเตโคกลู เฮดโค้ช "ไก่เดือยทอง" ท็อตแน่ม ฮ็อทสเปอร์ สร้างประวัติศาสตร์คว้ากุนซือยอดเยี่ยม พรีเมียร์ลีก สามเดือนติด (ส.ค.-ต.ค.) จากนั้นก็เป็น เอริค เทน ฮาก นายใหญ่ แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด ที่นำทีม "กลับมาแล้ว" จนคว้ายอดเยี่ยมเดือนพฤศจิกายน 

สำหรับในเดือนส่งท้ายปีเก่าต้อนรับปีใหม่ ผู้จัดการทีมคนไหนที่คู่ควรที่จะได้รับเกียรติยศนี้ไปครอบครอง ลองไปพิจารณาผลงานของพวกเขาตลอดเดือนธันวาคม แล้วมาลุ้นกันว่ามันตรงกันใจของทุกๆ ท่านหรือเปล่า 

อูไน เอเมรี่ (แอสตัน วิลล่า)

คุมทีม : 7 เกม

ชนะ : 4 เกม

เสมอ : 2 เกม

แพ้ : 1 เกม

จำนวนประตูยิงได้ : 12 ประตู

จำนวนประตูที่เสีย : 9 ประตู

เดือนธันวาคมบรรดาแฟนบอลต่างเริ่มตระหนักแล้วว่า แอสตัน วิลล่า คือหนึ่งในสโมสรที่มีลุ้นแชมป์พรีเมียร์ลีก เต็มตัว โดย อูไน เอเมรี่ สามารถนำลูกทีมสร้างผลงานช็อกโลกด้วยการปราบ "เรือใบสีฟ้า" แมนเชสเตอร์ ซิตี้ และ อาร์เซน่อล 2 แมตช์ติดต่อกันในช่วงต้นเดือนนี้

ทำให้ช่วงคริสต์มาสพวกเขามีลุ้นที่จะก้าวขึ้นไปรั้งจ่าฝูงลีกแต่น่าเสียดายที่ดันสะดุดในเกมเสมอ เชฟฟิลด์ ยูไนเต็ด ทำให้ฝันสลาย ปัจจุบัน "สิงห์ผงาด" รั้งอันดับ 2 และแน่นอนว่าสาวกของพวกเขาและแฟนบอลทั่วโลกต่างประหลาดใจปนประทับใจที่เห็นฟอร์มของ วิลล่า โดดเด่นอย่างต่อเนื่องแบบนี้ 

อันโดนี่ อิราโอล่า (บอร์นมัธ) 

คุมทีม : 6 เกม

ชนะ : 4 เกม

เสมอ : 1 เกม

แพ้ : 1

จำนวนประตูยิงได้ : 14 ประตู

จำนวนประตูที่เสีย : 7 ประตู 

ผลงานของ อันโดนี่ อิราโอล่า ต้องบอกว่าสุดยอดเกินบรรยายจริงๆ และไม่ใช่เรื่องแปลกที่แฟนบอลของพวกเขาจะมีความสุขจนน้ำตาล้นปรี่ หลังจากเห็นทีมรักจบปี 2023 ด้วยฟอร์มที่ร้อนแรง

"เดอะ เชอร์รี่ส์" ยิงได้อย่างน้อย 2 ประตูในการเล่น 5 จาก 6 เกมลีกของพวกเขา รวมทั้งแมตช์ที่สุดยิ่งใหญ่ในการบุกปราบ "ปีศาจแดง" แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด 3-0 ถึงถิ่นโอลด์ แทร็ฟฟอร์ด ฟอร์มที่ยอดเยี่ยมถือเป็นการพลิกสถานการณ์ของทีมจากที่ต้องอยู่ในโซนตกชั้นช่วงต้นซีซั่น

แน่นอนว่าคีย์แมนสำคัญที่ทำให้ บอร์นมัธ กลับมาทำผลงานได้อย่างยอดเยี่ยมก็คือ อิราโอล่า โดยเฉพาะการที่เขาสามารถดึงศักยภาพที่แท้จริงของ โดมินิค โซลันกี้ ออกมาได้อย่างเต็มที่ 

ดาวเตะชาวอังกฤษ กลายเป็นหัวหอกที่ฟอร์มร้อนแรงหลังจากที่ตะบันไปถึง 6 ประตูจากการเล่นในเดือนธันวาคม และนั่นทำให้เขามีชื่อติดโผนักเตะยอดเยี่ยมประจำเดือนด้วยเช่นกัน 

เจอร์เก้น คล็อปป์ (ลิเวอร์พูล)

คุมทีม : 6 เกม 

ชนะ : 4 เกม

เสมอ :2 เกม

แพ้ : 0 เกม

จำนวนประตูยิงได้ : 11 ประตู

จำนวนประตูที่เสีย : 5 ประตู 

 ผลงานของ ลิเวอร์พูล ต้องบอกว่าโดดเด่นเกินห้ามใจจริงๆ และการที่พวกเขาสะกดคำว่าแพ้ไม่เป็นในเดือนธันวาคม นั่นทำให้ "หงส์แดง" โบยบินขึ้นไปรั้งจ่าฝูงลีกได้สำเร็จในเวลานี้

หลังจากที่โชว์ฟอร์มพลิกสถานการณ์กลับมาชนะ "เจ้าสัวน้อย" ฟูแล่ม 4-3 ในช่วงต้นเดือนนี้ ลูกทีมของกุนซือเจอร์เก้น คล็อปป์ ก็สามารถเก็บชัยชนะได้อย่างต่อเนื่องตั้งแต่เกมปะทะ เชฟฟิลด์ ยูไนเต็ด, คริสตัล พาเลซ และ เบิร์นลี่ย์

แต่น่าเสียดายที่เปิดรังแอนฟิลด์ เสมอ แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด ในเกม "แดงเดือด" ซึ่งพวกเขาคุมเกมและเล่นเกมบุกฝ่ายเดียวแต่ไม่สามารถเจาะแผงรถบัสสามชั้นของ "ผีแดง" ได้ จากนั้นก็เสมอกับ อาร์เซน่อล อย่างสุดมัน 

อย่างไรก็ตามในแมตช์ที่รับมือทีมของกุนซือเอริค เทน ฮาก นั้น ลิเวอร์พูล ทำลายสถิติด้วยการเป็นทีมที่สร้างโอกาสในการยิงประตูมากที่สุดแต่ไม่สามารถเจาะตาข่ายได้ในเกมพรีเมียร์ลีก (34 ครั้ง) 

เดวิด มอยส์ (เวสต์แฮม ยูไนเต็ด) 

คุมทีม : 6 เกม

ชนะ : 4 เกม

เสมอ : 1 เกม

แพ้ : 1 เกม 

จำนวนประตูยิงได้ : 10 ประตู

จำนวนประตูที่เสีย : 7 ประตู 

เวสต์แฮม ยูไนเต็ด ค่อยๆ ขยับอันดับขึ้นมาอย่างเงียบๆ ในช่วงเดือนธันวาคม หลังจากที่พวกเขาโชว์ฟอร์มได้อย่างสุดยอด ด้วยการเก็บชัยชนะได้ถึง 4 เกมจาก 6 แมตช์ในช่วงส่งท้ายปีเก่าต้อนรับปีใหม่

เดวิด มอยส์ ช่วยกระตุ้นแรงบันดาลใจให้กับทัพ "เดอะ แฮมเมอร์ส" ในการเก็บชัยชนะแมตช์ปะทะ สเปอร์ส ช่วงต้นเดือน แต่หลังจากนั้นต้องมาแพ้แบบช็อกตาตั้งให้กับ "เจ้าสัวน้อย" ฟูแล่ม 0-5 

อย่างไรก็ตามหลังจากนั้น "ลุงมอยส์" ก็จัดการกระตุ้นลูกทีมด้วยการเก็บชัยชนะ 3 แมตช์รวดได้แก่เกมพบ วูล์ฟแฮมป์ตัน วันเดอเรอร์ส, แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด และ "ปืนใหญ่" อาร์เซน่อล แถมไม่เสียประตูเลยทั้งสามแมตช์

จากที่ช่วงต้นเดือนธ.ค. ทัพ "ขุนค้อน" รั้งอยู่ในอันดับ 9 ของตารางลีกสูงสุดเมืองผู้ดี แต่ตอนนี้พวกเขาขยับขึ้นไปอยู่อันดับ 6 โดยมี 34 คะแนน ห่างจาก อาร์เซน่อล ทีมท็อปโฟร์เพียง 6 แต้มเท่านั้น 

ทอมเม้ง