โมฮาเหม็ด ซาลาห์ ระบุ ไม่แฮปปี้กับฟอร์มในช่วงครึ่งแรกของเกมที่พา ลิเวอร์พูล ชนะ นิวคาสเซิ่ล จนถึงขั้นเตือนสติตัวเอง พร้อมบอกว่าตัดสินใจเปลี่ยนรองเท้าตอนช่วงพักครึ่งเหมือนกัน
โมฮาเหม็ด ซาลาห์ ดาวยิง ลิเวอร์พูล เปิดเผยว่าไม่พอใจกับฟอร์มของตัวเองในช่วงครึ่งแรกของเกม พรีเมียร์ลีก อังกฤษ นัดที่ "หงส์แดง" เปิดรัง แอนฟิลด์ เอาชนะ นิวคาสเซิ่ล ยูไนเต็ด 4-2 เมื่อวันจันทร์ที่ 1 มกราคม ที่ผ่านมา จนถึงขั้นเตือนสติตัวเองเลย
เกมดังกล่าวจบช่วงครึ่งแรกด้วยการเสมอกัน 0-0 ทั้งที่ ลิเวอร์พูล มีโอกาสทำประตูสวยๆ หลายครั้ง หนึ่งในนั้นคือการที่ ซาลาห์ ยิงลูกจุดโทษไม่เข้าในนาทีที่ 22 แต่ในครึ่งหลังเกมรุกของเจ้าบ้านก็กลับมาเฉียบคม โดยเฉพาะ ซาลาห์ ที่ทำได้ 2 ลูก นั่นคือในนาทีที่ 49 กับลูกจุดโทษในช่วง 4 นาทีสุดท้าย
ดาวเตะชาวอียิปต์เผยว่า "บรรดานักเตะพูดกันในห้องแต่งตัว (ตอนพักครึ่ง) ว่า -เราต้องใจเย็นเข้าไว้ เราต้องเล่นฟุตบอลตามสไตล์ของเราเอง- เรายิงทิ้งยิงขว้างเยอะมากๆ ผมเองก็ยิงลูกจุดโทษไม่เข้าเหมือนกัน ซึ่งหลังจากนั้นผมก็คิดกับตัวเองว่า -โอเค นี่นายจะบอกลาทีมเพื่อไปเล่นเกมทีมชาติด้วยฟอร์มแบบนี้งั้นเหรอ ? ไม่มีทาง!- ดังนั้นผมเลยมีสมาธิกับตัวเองและยกระดับการเล่นของตัวเอง รวมถึงพยายามสร้างความแตกต่างให้ได้ ซึ่งสุดท้ายผมก็ทำแบบนั้นได้"
ซาลาห์ เปิดเผยด้วยว่าเกมนี้ตนเปลี่ยนรองเท้าในช่วงพักครึ่ง เพื่อที่จะได้ไม่หมกมุ่นกับการที่ยิงลูกจุดโทษไม่เข้า "อันที่ผมใช้ตอนยิงลูกจุดโทษไม่เข้าน่ะเป็นอันที่ผมเพิ่งหยิบมาใส่ลงซ้อมเมื่อวานนี้ มันไม่ใช่เรื่องความเชื่อทางไสยศาสตร์อะไรหรอกนะ เพราะผมเองก็ใช้รองเท้าหลายคู่อยู่แล้ว แต่พอผมคิดว่ามันอาจจะทำให้ผมเสียสมาธิแล้วน่ะผมก็ตัดสินใจเลยว่า -โอเค พอกันที เปลี่ยนรองเท้าดีกว่า-"
"ผมไม่ชอบลงเล่นในช่วงครึ่งหลังพร้อมกับมีความคิดในหัวว่า -ฉันยังไม่เคยยิงได้ด้วยรองเท้าคู่นี้เลย- ไม่ล่ะ ผมเลือกที่จะเปลี่ยนเพื่อทำให้ตัวเองไม่เสียสมาธิและมีความมุ่งมั่นกับเกมการเล่นเท่านั้น"
"ผมเล่นแบบใจเย็นอยู่แล้ว ผมพยายามทำงานของตัวเองและซ้อม (การยิงลูกจุดโทษ) อยู่เสมอ ลูกแรก (หมายถึงลูกจุดโทษลูกแรกที่ยิงไม่เข้า) น่ะผมไปสับสนเองเพราะผมเห็นโค้ชผู้รักษาประตูที่อยู่นอกสนามยืนอยู่ข้างหนึ่งของเขา ผมเลยตัดสินใจว่า -โอเค งั้นยิงเข้าไปตรงกลางเลยแล้วกัน- จากนั้นเขาก็เซฟได้ดีมากๆ ส่วนลูกที่สองผมตัดสินใจประมาณว่า -โอเค นี่คือสิ่งที่ฉันเคยทำตอนซ้อม- ผมก็แค่ทำไปตามที่เคยซ้อมและเล่นตามแบบของตัวเอง"