อยากยืนระยะต้องทำด่วน! 5 นักเตะที่ ลิเวอร์พูล ควรพิจารณาดึงตัวร่วมทัพช่วงตลาดรอบ 2

"หงส์แดง" สร้างผลงานได้ดีกว่าที่หลายๆ คนคาดคิดเอาไว้ในช่วงครึ่งแรกของซีซั่นนี้ เพราะเมื่อฤดูกาลที่ผ่านมาทีมต้องพบกับความผิดหวังจากการหลุดท็อปโฟร์ แต่ตอนนี้พวกเขาสามารถขับขึ้นไปรั้งจ่าฝูงลีกได้แล้วเมื่อจบปี 2023

อย่างไงก็ตามในปี 2024 มีหลายอย่างที่ยากลำบากมากกว่าเดิมสำหรับ เจอร์เก้น คล็อปป์ เนื่องจากทีมไม่มี โฌแอล มาติป ที่บาดเจ็บเข่าจนปิดเทอมไปเรียบร้อยแล้ว ขณะที่แบ็กซ้ายอย่าง แอนดรูว์ โรเบิร์ตสัน และ คอสตาส ซิมิกาส โดนอาการบาดเจ็บเล่นงาน

นอกจากนี้ทีมจะไม่มี โมฮาเหม็ด ซาลาห์ และ วาตารุ เอ็นโด ที่ต้องเดินทางไปรับใช้ชาติในเกมชิงแชมป์ทวีปแอฟริกา กับเอเชีย ตามลำดับในช่วงระหว่างเดือนมกราคมจนถึงต้นเดือนกุมภาพันธ์ ด้วยเหตุนี้ คล็อปป์ จำเป็นอย่างยิ่งต้องหากำลังเสริมเพื่อไม่ให้ผลงานของทีมสะดุด

จะว่าไปแล้ว ลิเวอร์พูล เคยประสบความสำเร็จในการเซ็นสัญญากับนักเตะใหม่ช่วงตลาดฤดูหนาวที่ผ่านมา ทั้งการได้ตัว เฟอร์จิล ฟาน ไดค์, หลุยส์ ดิอาซ, โคดี้ กัคโป เป็นต้น ฉะนั้นการเสริมแกร่งในเดือนม.ค.มีความจำเป็นอย่างยิ่งถ้า "เดอะ เร้ดส์" ต้องการลุ้นแชมป์ในซีซั่นนี้

1.แอนโทนี่ โรบินสัน (ฟูแล่ม) 

 คล็อปป์ อาจตัดสินใจที่จะใช้งาน โจ โกเมซ ต่อไปในตำแหน่งแบ็กซ้ายจนกว่า แอนดี้ โรเบิร์ตสัน จะหายเจ็บกลับมาช่วยทีมได้ โดย ดาวเตะชาวอังกฤษ ทำผลงานได้ดีเยี่ยมในฐานะผู้เล่นแนวรับสารพัดประโยชน์ และมีส่วนกับชัยชนะของทีมในช่วงที่ผ่านมา

อย่างไรก็ตาม "เดอะ เร้ดส์" ต้องการแบ็กซ้ายขนานแท้เพื่อแก้ปัญหาระยะยาว และแน่นอนว่าชื่อของ แอนโทนี่ โรบินสัน ซึ่งโชว์ฟอร์มได้ยอดเยี่ยมกับ ฟูแล่ม โดยซัดไปแล้ว 3 ประตูจากการเล่น 21 เกมในทุกรายการ คือเป้าหมายที่พวกเขาสนใจ 

คำถามสำคัญก็คือ "เจ้าสัวน้อย" ยินดีที่จะปล่อยตัว แบ็กซ้ายทีมชาติสหรัฐอเมริกา ออกไปในช่วงกลางซีซั่นหรือเปล่า ? มันคงเป็นไปได้ยาก โดยเฉพาะอย่างยิ่งการที่ ดาวเตะวัย 26 ปีเพิ่งจะขยายสัญญาฉบับใหม่ไปจนถึงปี 2028 เมื่อเร็วๆ นี้ 

แล้วถ้าหากถาม โรบินสัน ว่าสนใจอยากย้ายไปเล่นในถิ่นแอนฟิลด์ไหม ? คำตอบชัดเจนว่านักเตะต้องการที่จะย้ายไปสวมชุด "หงส์แดง" แน่นอน แม้ก่อนหน้านี้เขาจะเคยเป็นเด็กปั้นของ "ทอฟฟี่สีน้ำเงิน" เอฟเวอร์ตัน ก็ตาม 

2. ปิเอโร่ อินกาปี (ไบเออร์ เลเวอร์คูเซ่น)

มีโอกาสเป็นไปได้ไหมที่ คล็อปป์ จะยิงปืนนัดเดียวได้นกสองตัว ? การที่แบ็กซ้ายชุดใหญ่ยังไม่ฟิต และ มาติป ต้องพักตลอดทั้งซีซั่น ลิเวอร์พูล มีปัญหาในแนวรับที่ต้องแก้ไข แม้พวกเขาจะมี โกเมซ ทำหน้าที่ได้ทั้งฟูลแบ็ก และเซนเตอร์แบ็ก ส่วน จาเรลล์ ควอนซาห์ ปราการหลังดาวรุ่งก็พัฒนาฟอร์มการเล่นขึ้นมาก 

 อย่างไรก็ตาม การเซ็นสัญญากับ ปิเอโร่ อินกาปี ถือเป็นการแก้ปัญหาทั้งหมดที่พวกเขามี โดย แนวรับดาวรุ่งทีมชาติเอกวาดอร์ วัย 21 ปี ไม่ใช่แค่แข็งแกร่งในตำแหน่งเซนเตอร์แบ็กเท่านั้น แต่เขายังสามารถขยับไปยืนแบ็กซ้ายได้ด้วย  

แน่นอนว่าปัญหาเดียวก็คือ ไบเออร์ เลเวอร์คูเซ่น ต้องการขายหนึ่งในผู้เล่นสำคัญของทีมช่วงตลาดพ่อค้าแข้งรอบ 2 หรือไม่ เนื่องจากตอนนี้ทัพ "ห้างขายยา" กำลังลุ้นแชมป์บุนเดสลีกา ดังนั้นพวกเขาต้องการเก็บขุมกำลังที่แข็งแกร่งเอาไว้กับทีมถ้าหากต้องการยึดตำแหน่งจ่าฝูงไปยาวๆ จนกระทั่งจบซีซั่นนี้ 

 จะว่าไปแล้วเอเจนต์ของ อินกาปี ยืนยันว่า ลิเวอร์พูล สนใจนักเตะรายนี้จริงๆ โดยค่าตัวของเขาน่าจะประมาณว่า 43 ล้านปอนด์ (ราว 1,892 ล้านบาท) และถ้าได้จำนวนตัวเลขดังกล่าว เลเวอร์คูเซ่น ก็น่าจะพิจารณาปล่อยตัว แม้จะขัดใจ ชาบี อลอนโซ่ กุนซือชาวสแปนิช ก็ตาม 

3.  วิลเลี่ยน ปาโช่ (ไอน์ทรัค แฟร้งค์เฟิร์ต)

 อีกหนึ่งนักเตะที่น่าสนใจก็คือ วิลเลี่ยน ปาโช่ เพื่อนร่วมชาติของ อินกาปี โดยนักเตะสร้างผลงานได้อย่างสุดยอดนับตั้งแต่ย้ายจาก รอยัล อันท์เวิร์ป มาเล่นกับ ไอน์ทรัค แฟร้งค์เฟิร์ต เมื่อช่วงซัมเมอร์ล่าสุด โดยสถิติระบุว่าไม่มีกองหลังในบุนเดสลีกาคนไหนโดดเด่นกว่าเขา  

 ผลงานที่แข็งแกร่งในเกมรับของ ปาโช่ มีส่วนสำคัญอย่างยิ่งที่ทำให้ แฟร้งเฟิร์ต โชว์ฟอร์มได้อย่างสุดยอดโดยทีมรั้งอยู่ในอันดับ 6 ของตาราลีกสูงสุดเมืองเบียร์ และแน่นอนว่านั่นทำให้พวกเขามีลุ้นพื้นที่โควตาไปเล่นในฟุตบอลถ้วยยุโรป

 อย่างไรก็ตาม ปาโช่ ได้รับความสนใจจากหลายๆ ทีมในช่วงที่ผ่านมา โดยมีทั้ง คริสตัล พาเลซ, เอฟเวอร์ตัน และ เวสต์แฮม ยูไนเต็ด ที่พิจารณาในการยื่นข้อเสนอซื้อตัว ดาวเตะวัย 22 ปี ขณะที่ ลิเวอร์พูล ก็ล็อกเป้าแข้งรายนี้เช่นกัน แถมค่าตัวของเขาน่าจะถูกกว่า อินกาปี 

4. กอนซาโล่ อินาซิโอ  (สปอตติ้ง ลิสบอน) 

อีกหนึ่งออปชั่นที่น่าสนใจไม่น้อยซึ่งสามารถเล่นได้ทั้งแบ็กซ้ายและเซนเตอร์แบ็กนั่นก็คือ กอนซาโล่ อินาซิโอ ซึ่งนักเตะรายนี้ได้รับความสนใจจาก "ราชันชุดขาว" เรอัล มาดริด เนื่องจากพวกเขาอยากได้ตัวมาแทนที่ เอแดร์ มิลิเตา กับ ดาบิด อลาบา ที่มีปัญหาบาดเจ็บต้องพักยาว ขณะที่ อาร์เซน่อล ก็อยากได้ตัวเช่นกัน 

สตาร์วัย 22 ปีเป็นผู้เล่นตัวหลักของ สปอตติ้ง ลิสบอน และยิงให้กับทีมชาติโปตุเกสไปแล้ว 2 ประตู หลังถูกเรียกติดธงครั้งแรกเมื่อเดือนมีนาคมที่ผ่านมา แน่นอนว่านี่คือผู้เล่นสารพัดประโยชน์ที่สามารถแก้ปัญหาให้กับ ลิเวอร์พูล ได้ในระยะยาว

กระนั้นคำถามสำคัญก็คือ คล็อปป์ พร้อมที่จะควักเงินก้อนโตเพื่อซื้อแนวรับในช่วงเดือนมกราคมหรือไม่ เพราะแทบไม่มีโอกาสเลยที่จ่าฝูงลีกสูงสุดแดนฝอยทอง จะยอมปล่อยตัวหนึ่งในแข้งคีย์แมนออกไปด้วยค่าตัวน้อยกว่าค่าฉีกสัญญาจำนวน 52 ล้านปอนด์ (ราว 2,288 ล้านบาท)

อย่าลืมว่า ลิเวอร์พูล เคยใจป้ำตอนที่ทุ่มเงินจำนวนมหาศาลในการเซ็นสัญญา ฟาน ไดค์ มาจาก เซาธ์แฮมป์ตัน ในช่วงตลาดฤดูหนาวมาแล้ว และผลที่ได้รับก็คือแผงหลังของ "เดอะ เร้ดส์" แข็งแกร่งขึ้นทันตา พร้อมคว้าแชมป์มากมาย 

5. ชูเอา ปาลินญ่า (ฟูแล่ม)

 ลิเวอร์พูล ไม่ได้แสดงความสนใจอยากได้ตัว ชูเอา ปาลินญ่า ในช่วงระหว่างซัมเมอร์ล่าสุด เพราะผลงานที่ไม่ได้โดดเด่นและค่าตัวที่สูงเกินเหตุ โดยในตอนนั้น ฟูแล่ม อยากได้ค่าตัว 55 ล้านปอนด์ (ราว 2,420 ล้านบาท) ซึ่งตัวเลขดังกล่าวมันดูไม่สมเหตุสมผลเลยจริงๆ

สถานการณ์นี้ยังคงไม่มีการเปลี่ยนแปลง ที่สำคัญมีความเป็นไปได้สูงที่ ดาวเตะชาวโปรตุกีส วัย 28 ปีจะไปเล่นกับ บาเยิร์น มิวนิค ซึ่งเกือบได้ตัวเขาไปร่วมทัพในช่วงเดดไลน์ตลาดพ่อค้าแข้งรอบแรก เนื่องจากทีมไม่ยอมขายเพราะไม่สามารถหาผู้เล่นคนอื่นมาแทนตำแหน่งได้ 

อย่างไรก็ตามถ้า ลิเวอร์พูล กำลังมองหากองกลางตัวรับที่พิสูจน์ศักยภาพของตัวเองมาแล้วในศึกพรีเมียร์ลีก  และสามารถลงเล่นเป็นตัวหลักของทีมได้ทันที แน่นอนว่า ปาลินญ่า เหมาะสมลงตัวที่สุด และคงทำให้แผงกองกลางของทีมแข็งแกร่งขึ้น

 ปาลินญ่า เป็นหนึ่งในผู้เล่นที่สามารถสร้างความแตกต่างให้กับ "หงส์แดง" ในการลุ้นแชมป์ลีกฤดูกาลนี้ได้เลย ที่สำคัญหากนักเตะไม่เก่งจริงคงไม่มีข่าวว่า อาร์เซน่อล หนึ่งในทีมลุ้นแชมป์ลีก ก็แสดงความสนใจอยากได้เขาไปเสริมทัพเช่นกัน