เรื่องของเรื่องมีอยู่ว่า...
1.เมื่อคืน ผู้ชมทางบ้านอย่างผมเลือกดูเกมพรีเมียร์ลีก คู่ 4 ทุ่ม (ตามเวลาไทย) ระหว่าง แมนฯ ซิตี้ กับ คริสตัล พาเลซ ที่ เอติฮัด สเตเดี้ยม
เหตุเพราะผู้มาเยือนอย่าง "ดิ อีเกิ้ลส์" นี่แหละคือตัวแสบของทีมสีฟ้าแห่งแมนเชสเตอร์
2.เจ้าบ้านเหนือกว่าทุกเหลี่ยมมุม แม้นจะยังไม่ได้ตัว เออร์ลิ่ง ฮาลันด์ กลับมาก็ตาม
พวกเขาครองบอลมากกว่า บุกอยู่ข้างเดียวพลางหาจังหวะทำประตูได้มากกว่าตามเชิง ก่อนขึ้นนำ 1-0
ดูแล้วไม่น่าจะมีปัญหาอะไร
3.ครึ่งหลังผ่านไปไม่นาน แมนฯ ซิตี้ ก็ทิ้งห่างเป็น 2-0
แบบนี้ก็จบสิครับ...นาย
ผมจึงกดตุ่มรีโมทเปลี่ยนช่องไปดูการศึกระหว่าง นิวคาสเซิ่ล กับ ฟูแล่ม ที่ยังเสมอกันอยู่ 0-0 แทน
กระทั่งมีรายงานว่า คริสตัล พาเลซ ตีไข่แตกไล่มาเป็น 2-1 จึงเปลี่ยนกลับไปดูช่องเดิมอีกครั้งด้วยความรู้สึก..ตะหงิดๆ ชอบกล !!!
4.พบว่า แมนฯ ซิตี้ ที่ตอนแรกเหนือกว่าทุกเหลี่ยมมุมออกอาการปั่นป่วนเวลาถูกทีมเยือนบุกเข้าใส่อย่างชัดเจน
เห็นเลยครับว่า "แชมป์เก่า" เล่นกันแบบตื่นตระหนกมากอย่างไม่น่าเชื่อ
จนเข้าสู่ช่วงทดเจ็บจากจังหวะที่ไม่มีอะไร แบร์นาโด้ ซิลวา เสียบอลง่ายๆ ทางขวา และไม่กี่อึดใจต่อมา ฟิล โฟเด้น ก็วิ่งเข้าหวดคู่แข่งแบบโฉ่งฉ่างในเขตโทษซะงั้น
เข้าใจแหละว่าตั้งใจหวดลูกฟุตบอล แต่ดันช้ากว่าคู่แข่งเลยกลายเป็นการหวดหน้าแข้งคู่แข่งแบบเต็มเปา
จุดโทษแบบไม่ต้องเช็ค VAR ก็ได้
5.เกมรับกลายเป็นปัญหาของ แมนฯ ซิตี้ ใน 6 นัดล่าสุดในพรีเมียร์ลีกที่เก็บได้แค่ 7 แต้ม เท่านั้น
ลูกทีมของ เป๊ป กวาร์ดิโอล่า เสียประตูง่ายๆ และเสียแบบไม่น่าเสียเกือบทุกนัด แถมโดนยิงแล้วมักออกอาการเหวอแดร็กซ์ กองหลังเข้าบอลหลวมมาก ไม่ระมัดระวัง ผิดพลาด ทั้งๆ ที่เจนจบด้วยประสบการณ์
นำ 2-0 ด้วยรูปเกมที่เหนือกว่า สุดท้ายเสมอ 2-2 มันบ่งสัญญาณบางอย่างที่ไม่ค่อยโสภาสักเท่าไหร่
และนั่นอาจหมายความว่า...???
โบนัส แทร็ค: ใครเขาแพ้ แมนฯ ซิตี้ กัน 55555
บอ.บู๋