สองคู่ในวันอาทิตย์มีประเด็นน่าสนใจแตกต่างกันออกไป
คู่แรก สเปอร์ส ที่มีปัญหาเรื่องตัวผู้เล่นตัวหลักบาดเจ็บและแบน เจอกับ แอสตัน วิลล่า ที่ฟอร์มกำลังสด
คู่หลัง เอฟเวอร์ตัน ที่เริ่มต้นจาก 4 แต้มหลังจากโดนตัดแต้มกรณีผิดกฏงบการเงินถึง 10 แต้ม มาเจอกับ แมนฯยูไนเต็ด ที่แม้สภาพทีมไม่เอื้ออำนวยนักเตะตัวหลักหลายคนสลับกันกันเจ็บ แต่กลับชนะ 4 ใน5 เกม หลังสุดก่อนฟีฟา เดย์ แพ้เกมเดียวต่อแมนฯซิตี้ เท่านั้น
ว่ากันถึงคู่แรกก่อนครับ เพราะทอตแน่มฮอตสเปอร์ ที่ออกตัวได้ดี ก้าวขึ้น "จ่าฝูง"มาแล้ว ต้องเผชิญหน้ากับการแก้ปัญหาแถมแพ้มาสองเกมติดต่อกันก่อนฟีฟา เดย์ ส่วนทีมเยือนแอสตัน วิลล่า เริ่มดีวันดีคืนทำแต้มเข้าใกล้พื้นที่ ช.ป.ล
บทสรุป ควันหลงเกมคาบ้านของไก่เดือยทองคงมีประเด็นเดียว....
-ปอสเตโคกลู...แก้ไม่ตก
หลังออกตัวได้ยอดเยี่ยมเกินคาด มาถึงจังหวะที่ต้องเผชิญหน้ากับการแก้ปัญหาในทีมจากการบาดเจ็บของนักเตะและการติดโทษแบน ส่งผลกระทบจากคู่เซนเตอร์ฮาล์ฟไปจนถึงตัวรุกข้างบน
กองหลัง ;โรเมโร่ แบน, มิคกี ฟาน เดอ เฟน เจ็บ
ต้องส่ง เอแมซอน โรยัล เล่นเซนเตอร์คู่กับ เบน เดวิส
กองกลาง; อิฟ บิสซูมา โดนแบน แต่ได้ เบนตานกูร์ กลับมา
ตัวรุก ; เจมส์ แมดดิสัน, ริชาร์ลิซอน, โซโลมอน เจ็บ
เท่ากับชุดแรกได้เซนเตอร์จำเป็นเล่นด้วยกัน แม้ อูโดกี กลับมายืนแบ๊กซ้าย แต่ทีมขาดสมดุลชัดเจน ตรงกลางใช้ เบนตานกูร์ กับ โล เซลโซ่ ตัวรุกก็ต้องส่ง ไบรอัน กิล ลงมารวมงานกับ เบรนแนน จอห์นสัน, คูลูเซฟสกี้ และ ซน ฮึง มิน
พอเล่นไปได้ครึ่งชั่วโมง เบนตานกูร์ โดนแมตตี แคช เสียบ จนต้องออกจากเกม ฮอยแบร์ก ลงมาเล่นแทน
เริ่มต้นดี ยิงได้ก่อนจากลูกยิงของ โล เซลโซ ที่แฉลบหัวเข่า การ์โลส เข้าไป แม้ครองบอลได้มากกว่า แต่ แอสตัน วิลล่า มาเน้นรับแดนสองและรับลึกเป็นหลัก รอจังหวะสวนกลับ อย่างใจเย็น จนได้ประตูตีเสมอช่วงทดเวลาครึ่งแรกจากลูกฟรีคิก ที่เปิดเข้าหัว เปา ตอร์เรส โขกเต็มๆ
เห็นชัดเลยว่า ปอสเตโคกลู พยายามแก้ปัญหาตัวเจ็บและแบน แต่ชุดสองลงไป5-6 คนนั้นแทนที่ไม่ได้ โดยเฉพาะต้องมาเจอกับทีมวิลล่าของ อูไน เอเมรี ที่เน้นความรัดกุม และสวนกลับเร็ว จนลูก 2 นั้นตอกย้ำชัดเจนเลยว่า มิดฟิลด์ โดยเฉพาะ ฮอยแบร์ก ยืนป้องกันหน้าไลน์ไม่ดี คู่เซนเตอร์ ยืนห่างและเปิดช่องให้ โอลลี วัตกิ้นส์ ได้โอกาสหลุดเข้าไปยิง
อย่างไรก็ตาม....สิ่งที่ยังพอมองเห็นได้คือ "แดนสาม" สเปอร์สสร้างโอกาสได้ชัดเจนกว่า วิลล่า เพียงแต่ เอมี มาร์ติเนส ยังเข้าฝักไม่มีหลุดง่ายๆ ช่วยป้องกันลูกยากไม่ให้ ทอตแน่มตีเสมอได้ บวกกับหลายจังหวะใช้โอกาสเปลืองไป ส่งผลให้ สเปอร์ส แพ้ สามนัดติดต่อกัน
แพ้ วิลล่า 1-2 (ห)
แพ้ วูล์ฟ 1-2 (ย)
แพ้เชลซี 1-4 (ห)
การพ่ายแพ้สามนัดติดต่อกันยืนยันคำตอบได้ระดับหนึ่งว่า เมื่อทีมเผชิญหน้ากับปัญหา การแก้ปัญหานั้นทำได้ดีขนาดไหน อังเก้ ปอสเตโคกลู กำลังเจอกับงานแก้ของเขา ทั้งที่พึ่งเริ่มสร้างทีม
ส่วนแอสตัน วิลล่าของ อูไน เอเมรี ยังคงต้องรักษาความต่อเนื่องต่อไป การขึ้นมาอันดับสี่คือความก้าวหน้าอย่างหนึ่งและถือว่าการฉวยโอกาสซ้ำทีมที่ไม่พร้อมอย่างสเปอร์สแล้วได้สามแต้ม คือความยอดเยี่ยมของพวกเขาในเวลานี้
-งานง่ายของผีแดง
เอฟเวอร์ตัน แพ้ แมนฯยูไนเต็ด ขาดลอย ทั้งที่มีแรงกดดันจากการโดนพรีเมียร์ลีกตัดแต้ม 10 คะแนนจากเรื่องผิดกฏงบการเงิน ขาดทุนเกินตัวเลขที่กำหนดระหว่างปี 2019-2022
แฟนบอลนำแผ่นกระดาษสีชมพูพร้อมโลโกพรีเมียร์ลีกและข้อความ corrupt แสดงออกถึงการต่อต้านการตัดแต้ม โดยน.10 พร้อมใจกันชูแผ่นกระดาษชมพูขึ้นมา แต่...ทีมกล้องพรีเมียร์ลีกไม่ตัดภาพแคบ ต้องหาดูจากสื่ออื่นๆ เอา 5555
ส่วนฟุตบอลนั้นทีมนักเตะของ ไดส์ ระบบ 4-4-1-1 ตั้งแต่ พิคฟอร์ด ; ยัง, ทราคอฟสกี้, แบรนเวธ, มิโกเลนโก้ ; แฮร์ริสัน, การ์เนอร์, กานา เกย์, แมคนีล ; ดูกูเร่ และ ดอม ขาด โอนานา มิดฟิลด์ห้องเครื่องไป
ส่วน เอริก เทน ฮาก นัดนี้ไม่ได้คุมทีมเพราะโดนใบเหลืองสะสมครบสามใบ โดนแบนหนึ่งนัด มิตเชล ฟาน เดอ ฮาก ต้องคุมทีมข้างสนามแทน เกมนี้ส่งเจ้าหนู คอบบี้ ไมนู วัย 18 ปีที่เป็นดาวรุ่งยอดเยี่ยมปีก่อน แล้วไปร่วมทีมซ้อมพรีซีซั่น ก่อนเจ็บไป เกมนี้ได้โอกาสยืนกลางตัวรับคู่กับ แมกโทมิเนย์
ลุค ชอว์ กลับมา คู่เซนเตอร์คู่ที่เคยเหนียวแน่นยุค น้าลูกอม แม็กไกวร์-ลินเดอเลิฟ ส่วน ราฟาแอล วาราน นั่งยาว แบ๊กขวา ดาโลต์ กลางรุก บรูโน่, แรชฟอร์ด และ กานาร์โช่ ส่วนหน้าเป้าส่ง มาร์กซิยาล
แม้ทีม ชอน ไดส์ ทำได้ดีขึ้นเรื่อยๆใน 6 เกมหลังสุด แต่การเริ่มต้นด้วยการโดนลูกจักนยานอากาศของ กานาร์โช (ดาโลต์ ครอส) น.3 ทำให้พวกเขาเริ่มเกมด้วยความลำบากทันที
ทอฟฟี่ เคยเสียประตูเร็วสุดในพรีเมียร์ลีกเมื่อ ส.ค. 2014 โดน ดีเอโก คอสต้า ของเชลซี ยิงที่กูดิสัน พาร์คใน 35 วินาที.....
ส่วนลูกจักรยานอากาศของ กานาร์โช่ ถูกนำไปเทียบกับ ลูกยิงของ เวย์น รูนีย์ เมื่อ12 ก.พ. 2011 เป็นดาร์บี แมตช์ กับ ซิตี โดย รูนีย์ จักรยานอากาศเข้าไปอย่างงดงาม เกมนั้นแมนฯยูฯ ชนะ แมนฯซิตี้ 2-1
-ทอฟฟี เปลืองจึงต้องแพ้
ครึ่งแรกแมนฯยูฯยิงนำก่อน เหมือนจะเริ่มต้นดี แต่กลับโดนทอฟฟี่ ทำเกมกดดันได้ดีขึ้น สร้างโอกาสหลายครั้ง แต่ไม่ผ่านมือ โอนานา แถมยิงนกตกปลาไปเรื่อย ส่วนแมนฯยูฯยิงครึ่งแรก 2 ครั้ง เกมก็ออกลูกสะเปะสะปะ แต่รอดตัวไม่เสียประตู ก่อนมาได้ลูกจุดโทษจากความทะเล่อทะล่าของ อ.ยัง ที่เข้าพรวดเหยียบข้อเท้า มาร์กซิยาล ที่เร็วกว่า
ตอนแรกผ.ต.ส. ให้ ใบเหลือง มาร์กซิยาล แต่ทีม วีเออาร์ ขอให้ดูภาพ ชัดเจน จนต้องให้จุดโทษ และยกเลิกใบเหลือง ทาง บรูโน่ เอาบอลให้ แรชฟอร์ด ที่ต้องการหาความเชื่อมั่นที่หายไป ยิงไม่พลาด 2-0
จากนั้นก็ไม่มีอะไรน่าสนใจ...ทอฟฟี่ พยายาม แต่ก็ยิงแมนฯยูฯ ไม่ได้ ก่อนโดน มาร์กซิยาล ยิงลูกสามปิดเกม แพ้ไป 3-0
ว่าแต่นัดนี้ เจ้าหนู ไมนู นี่ผมให้ 8/10 ครับ
ผู้บรรยายฝรั่งบอก ไมนู feel like home
เล่นบอลเหมือนไม่มีอะไรต้องตื่นกลัว สบายๆ เหมือนอยู่บ้าน ตัวจริงนัดแรกของเขากับทีมเล่นไป72 นาที
สำหรับทอฟฟี สถานการณ์น่าจะเลวร้ายลงเรื่อยๆ หากยังไม่รีบตั้งสติ กลับมาเพื่อต่อสู้กับแต้มที่หายไป
ทางด้านแมนฯยูไนเต็ด เห็นแฟนผีบ่นด่าทีมตัวเองกันอยู่เรื่อยๆ นี้เล่นบอลพรีเมียร์ลีก 6 นัดหลังสุด ชนะ 5 เกม ชนะเบรนต์ฟอร์ด 2-1, ชนะ เชฟฯยูฯ 2-1, แพ้ แมนฯซิตี้ 0-3, ชนะ ฟูแล่ม 1-0, ชนะ ลูตัน 1-0 และชนะเอฟเวอร์ตัน 3-0
เด็กผีทำแต้มขึ้นอันดับ 6 ห่างสเปอร์ส 2 แต้ม ห่างวิลล่าและลิเวอร์พูล แค่ 4 แต้มเท่านั้น
ฟุตบอลอยู่ได้ด้วยผลแข่ง....ไม่ว่าสภาพทีมจะพร้อมหรือไม่พร้อมอย่างไร ลงสนามไปต้องสามแต้ม
เอาจริงๆนะครับบอลเล่น 6 นัด ชนะ 5 แม้ดูไม่สวยงาม หรือมีรูปแบบที่ชัดเจน แต่หากผลแข่งเป็นใจ ความเชื่อมั่นย่อมเกิดขึ้น
คล้ายๆปีก่อนเริ่มต้นได้ไม่ดี แต่ค่อยๆทำแต้มไต่ขึ้นกลุ่มบนจนไปช.ป.ล
เมื่อดูตารางคะแนนที่ไม่โกหกเมื่อผ่านหนึ่งในสามระยะทาง 13 แมตช์
อาร์เซนอล 30
แมนฯซิตี้ 29
ลิเวอร์พูล 28
วิลล่า 28
สเปอร์ส 26
แมนฯยูฯ 24
นี่ขนาดออกลูกสะเปะสะปะ แทกติกไม่ชัดเจน ยังเล่นไม่เข้าที่เข้าทางนะครับ
ยังเก็บ 15 แต้มจาก 18 แต้มล่าสุด (แพ้แมนฯซิตี้ทีมเดียว)
ถ้าหากลงตัวมากกว่านี้ ในอีกสองสามนัดข้างหน้า
อะไรจะเกิดขึ้นวันแดงเดือด 17 ธ.ค.
ขอบอกว่าชักเริ่มหนาวๆร้อนๆ แล้วนะครับ
JACKIE