5 ปัญหาที่ ลิเวอร์พูล ยังต้องแก้ไข

 5 ปัญหาที่ ลิเวอร์พูล ยังต้องแก้ไข
ความพ่ายแพ้ต่อ ตูลูส ในศึก ยูโรปา ลีก เป็นเหมือนการแสดงให้เห็นถึงจุดอ่อนของ ลิเวอร์พูล มากขึ้น ซึ่งเอาจริง ๆ มันก็เป็นสิ่งที่แฟน ๆ ทราบดีอยู่แล้ว และควรได้รับการแก้ไข

แล้วอะไรบ้างที่เป็นปัญหา เรามาย้ำให้เห็นภาพชัดเจนมากขึ้นจาก 5 ข้อเหล่านี้

1. ปัญหาเรื่องมิดฟิลด์ตัวรับ

เจอร์เก้น คล็อปป์ ปกป้องการใช้งาน แม็ค อัลลิสเตอร์ ในฐานะกองกลางตัวรับอย่างหนักแน่น 

เขายืนยันว่า แม็คก้า ทำได้ดีตอนที่ต้องดวลตัวต่อตัวกับคู่แข่ง และบอกว่าคนที่เหลือในทีมต้องคอยทำให้คู่แข่งมีพื้นที่ว่างไม่มากนักเพื่อปกป้องคนที่เล่นตำแหน่งหมายเลข 6

แต่นั่นไม่ใช่ตำแหน่งที่ แม็ค อัลลิสเตอร์ ถนัดตามธรรมชาติ 

เขาไม่มีความเร็วมากพอที่จะวิ่งไล่ปิดพื้นที่ได้ ซึ่ง วาตารุ เอ็นโด ก็ไม่มีสิ่งนั้นเหมือนกัน ในเกมกับ ตูลูส เขาแพ้การดวลถึง 9 จาก 11 ครั้ง และนั่นส่งผลเสียต่อความมั่นใจของแข้งเลือดซามูไรอย่างมาก

แน่นอนว่าในสถานการณ์เฉพาะหน้า แม็ค อัลลิสเตอร์ สามารถรับมือกับมันได้ แต่เขาไม่ควรจะปล่อยให้ทีมต้องตกอยู่ในสถานการณ์แบบนี้เมื่อสามารถแก้ไขปัญหาได้นั้นตลอดทั้งช่วงซัมเมอร์ที่ผ่านมา โดยเฉพาะอย่างยิ่งกับการที่ตรงจุดนี้มันเป็นปัญหาตั้งแต่ตอนที่ ฟาบินโญ่ ยังอยู่กับทีมด้วยซ้ำ

ช่วงท้าย ๆ ที่ ฟาบินโญ่ อยู่กับทีม ชัดเจนว่า ลิเวอร์พูล ใช้งานเขาในทุกทางเท่าที่จะทำได้ และแทนที่จะหาคนที่มีความสามารถพิเศษในการเล่นเป็นกองกลางตัวรับ เพื่อเป็นตัวแทนที่จะเข้ากับระบบของ ลิเวอร์พูล ได้อย่างสมบูรณ์แบบ แต่ "หงส์แดง" กลับปล่อยวางจนทำให้ตอนนี้ต้องเจอในสถานการณ์ที่ต้องแก้ปัญหาแบบเฉพาะหน้า

นี่ไม่ใช่ความผิดของ แม็ค อัลลิสเตอร์ เขาโดนสั่งให้ทำงานนี้ และ เอ็นโด ก็ยังไม่สามารถเรียกความไว้วางใจจาก คล็อปป์ ได้อย่างเต็มที่ แต่เราไม่ควรจะต้องมาอยู่ในสถานการณ์ที่บอกว่า -เราเตือนคุณแล้ว- เลย

2. ปัญหาแบ็กซ้าย


อาการบาดเจ็บหัวไหล่ของ แอนดรูว์ โรเบิร์ตสัน สร้างความกดดันแก่ คอสตาส ซิมิกาส ทันที และยิ่งตอกย้ำว่าแบ็กกรีกไม่สามารถทำผลงานตามความคาดหวังได้

ข้อผิดพลาดและความประมาทในตอนครองบอลก่อให้เกิดความเสียหายต่อการเสียประตูที่ ตูลูส 

ย้อนไปช่วงต้นฤดูกาล ซิมิกาส เพิ่งได้รับการต่อสัญญาใหม่ออกไป ซึ่งบางคนก็งุนงงกกับเหตุผลที่เลือกทำแบบนั้น เพราะหลายครั้งที่เห็นว่า ช่วงที่ "ร็อบโบ้" ถูกใช้งานหนักหน่วง แต่ คล็อปป์ ก็ยังไม่ค่อยไว้วางใจ ซิมิกาส สักเท่าไหร่

ตัวเลือกชุดซีเนียร์ตำแหน่งนี้มีจำกัดก็จริง แต่ยังมีดาวรุ่งอย่าง ลุค แชมเบอร์ส ที่สามารถเล่นได้ อีกทั้งยังยืนเป็นเซนเตอร์แบ็กฝั่งซ้ายได้อีก

แชมเบอร์ส ยังเด็กและอาจมีข้อผิดพลาด แต่เขาก็สามารถเรียนรู้ ซึ่งการใช้ ซิมิกาส ก็เสี่ยงอยู่แล้ว ทำไมจะลองเสี่ยงกับดาวรุ่งคนนี้อีกคนไม่ได้

3. ปัญหาตามหลังก่อน

เป็นเรื่องที่น่าหงุดหงิดตั้งแต่ฤดูกาลที่แล้ว เมื่อทีมตกเป็นฝ่ายตามหลังคู่แข่งไปก่อน 21 จาก 52 เกม และมันลามมาถึงซีซั่นนี้ด้วย

จากเกมกลางสัปดาห์ นับเป็นหนที่ 9 จาก 17 เกมที่ ลิเวอร์พูล ปล่อยให้สกอร์ตามหลัง คิดเป็น 52 เปอร์เซ็นต์ และ 7 จาก 9 นัดเป็นการเล่นนอกบ้าน

จากทั้งหมด 9 นัดนั้น ลิเวอร์พูล พลิกกลับมาชนะได้ 5 นัดก็จริง แต่มันคงไม่ดีไปตลอดแน่หากยังมีเกมที่ตามหลังไปก่อนบ่อย ๆ 

4. ปัญหาในการเล่นเกมเยือน โดยเฉพาะอย่างยิ่งเมื่อเจอกับทีมที่ไม่ใช่ทีมใหญ่

ลิเวอร์พูล เก็บชัยนอกบ้านได้แค่นัดเดียวจาก 5 เกมหลังสุด นั่นคือเกมเยือน บอร์นมัธ ในศึก คาราบาว คัพ และเกมนั้นฟอร์มการเล่นก็ไม่ได้ดีอะไรมากมาย

อย่างที่บอกไปในเบื้องต้น ในฤดูกาลนี้ ลิเวอร์พูล เล่นเกมเยือนไปแล้ว 9 นัด ซึ่งในจำนวนนั้นมีถึง 7 เกมที่พวกเขาเสียประตูไปก่อน และทำให้ตัวเองต้องเจองานยาก

หลังจากผ่านไปในแต่ละนัด เกมเสมอ เชลซี นัดเปิดฤดูกาลก็ดูเหมือนเป็นการโยนแต้มทิ้งแบบน่าเจ็บใจมากขึ้นเรื่อย ๆ

แต่ ลิเวอร์พูล ควรจะรู้ไว้ว่า แมนฯ ซิตี้ ไม่ได้เจอปฏิกิริยาแบบเดียวกันจากคู่แข่ง 

เพราะเวลาคู่แข่งเจอกับ "เรือใบสีฟ้า" นักเตะของพวกเขาไม่ได้มีหลักความคิดแบบเดียวกับเรื่องที่ว่า -มันจะเป็นยังไงหากเอาชนะทีมอย่าง ลิเวอร์พูล ได้- โดยเฉพาะอย่างยิ่งเวลาเจอกับทีมที่ไม่ใช่ทีมใหญ่

ลูกทีมของ คล็อปป์ ต้องเตรียมตัวให้พร้อมสำหรับเรื่องแบบนั้น แต่พวกเขามักจะไม่สามารถเล่นด้วยความกระตือรือร้นและความกระฉับกระเฉงแบบเดียวกับคู่แข่งได้ เกมกับ ตูลูส ถือเป็นข้อพิสูจน์ถึงเรื่องนั้น

ฤดูกาลก่อน ลิเวอร์พูล เก็บชัยในเกมเยือนได้เพียง 9 นัดจาก 26 เกมในทุกรายการ และแม้ว่าในซีซั่นนี้พวกเขาจะชนะเกมเยือนไปแล้ว 4 หน แต่ฟอร์มการเล่นมันไม่ได้สวยงามเหมือนตอนเล่นใน แอนฟิลด์

5. ปัญหาอาการล้า

คล็อปป์ อาจจะไม่เห็นด้วยกับเรื่องนี้ เพราะเขาพูดหลังจบเกมกับ ตูลูส ว่า "ความล้าไม่ใช่ปัญหาของเรา เราตัดสินใจเองว่าเราอยากเล่นแบบไหน บรรดาลูกทีมของผมตัดสินใจว่าเราจะเล่นกันยังไง"

แต่เมื่อมองถึงภาพรวมที่ใหญ่กว่านั้นก็ต้องบอกว่ามันไม่ใช่เลย

ฤดูกาลก่อน ลิเวอร์พูล เล่นเยอะจนแทบจะหมดแรง และถึงแม้ตอนนี้พวกเขาจะหันไปใช้งานนักเตะเยาวชนอยู่บ้าง แต่ทีมที่มีการหมุนเวียนอยู่บ่อย ๆ ก็ยังทำได้ไม่ดีพอจนบางครั้งต้องให้พวกตัวจริงมาช่วยกอบกู้สถานการณ์

นักเตะอย่าง เทรนท์ อเล็กซานเดอร์-อาร์โนลด์, โดมินิค โซโบซไล และ โมฮาเหม็ด ซาลาห์ ไม่ควรจะต้องเป็นตัวจริงทุกนัด แต่พวกเขาต้องถูกเรียกใช้งานบ้างเพื่อช่วยให้ทีมที่เปลี่ยนไปจากเดิมเยอะสามารถบรรลุเป้าหมายได้ โดยจนถึงตอนนี้ 2 คนหลังสุดลงเล่นไปมากกว่า 1,000 นาทีแล้วด้วยซ้ำ

การได้พักคือสิ่งที่จำเป็นต่อการเล่นที่ยาวนานในแต่ละฤดูกาล แต่ 3 เกมหลังสุดบีบให้ คล็อปป์ ต้องหันไปใช้งาน 3 คนในเบื้องต้น รวมถึงนักเตะอย่าง ดาร์วิน นูนเญซ, โคดี้ กัคโป และ ดีโอโก้ โชต้า เพื่อที่จะพยายามทำให้ทีมได้ผลการแข่งขันที่ดี

คล็อปป์ อยากให้ทีมของเขาเล่นแบบดุดัน, เดินเกมรุกอยู่เสมอ และพร้อมที่จะกดดันคู่แข่ง แต่ต่อให้จะบังเอิญเจอทางแก้ปัญหาในเบื้องต้นได้ ยังไงซะความล้าก็จะเกิดขึ้นทั้งด้านสภาพจิตใจและสภาพร่างกาย

มันจะนำไปสู่คำถามที่ว่า คล็อปป์ เชื่อมั่นหรือไม่ว่าทีมที่ทำการโรเตชั่นของเขาจะเอาชนะ เวสต์แฮม ในเกม ลีก คัพ ได้โดยไม่ต้องพึ่งเหล่าตัวจริง โดยเกมนั้นอยู่คั่นกลางระหว่างเกมกับ แมนฯ ยูไนเต็ด และ อาร์เซน่อล

บางคนอาจจะคิดแบบนั้น แต่เมื่อพิจารณาถึงปัญหาต่าง ๆ ในเบื้องต้นแล้วล่ะก็ มันยังเกิดความแคลงใจอยู่บ้าง

HOSSALONSO


ที่มาของภาพ : GETTY IMAGE
BY : Hossalonso
ธีรศานต์ คงทอง
ติดตามช่องทางอื่นๆ:
Website : siamsport.co.th
Facebook : siamsport
Twitter : siamsport_news
Instagram : siamsport_news
Youtube official : siamsport
Line : @siamsport