"สนามฟุตบอลคือสถานที่ที่ปลอดภัยสำหรับนักเตะ"
เจอร์เก้น คล็อปป์ บอกอย่างนั้นกับลูกทีมในสนามซ้อม ซึ่งเขาได้บอกว่า แม้อารมณ์ความรู้สึกยังไม่ได้กลับเป็นปกติ แต่ หลุยส์ ดิอาซ ตัดสินใจด้วยตัวเองเมื่อสามวันก่อนว่าเขาต้องการกลับมาซ้อมอีกครั้ง
นั่นคือเรื่องดี ๆ ก่อนเกมที่เราเห็นภาพ หลุยส์ ดิอาซ พร้อมรอยยิ้ม แล้วเขาได้รับการต้อนรับด้วยเสียงปรบมือจาก เดอะ ค็อป ที่ยกพลมายัง เคนิลเวิร์ธ โร้ด
ขณะเดียวกัน เคอร์ติส โจนส์ ไร้ชื่อเกมนี้จากปัญหาอาการบาดเจ็บ ส่วนตำแหน่งแบ็กซ้ายใช้บริการ โจ โกเมซ แทนที่ คอสตาส ซิมิกาส
ลิเวอร์พูล สบโอกาสจบสกอร์ได้หลายครั้งตอนช่วงต้น แต่ลูกยิงไม่ได้สร้างความอันตรายต่อ โธมัส คามินสกี้ มากนัก
สองครั้งของ ดาร์วิน นูนเญซ เกิดจากนอกกรอบเขตโทษ และอีกหนที่รับบอลจาก เทรนท์ อเล็กซานเดอร์-อาร์โนลด์ แต่ซัดไปชนคาน
โชต้า เป็นอีกคนที่มีช็อตได้จบเช่นกัน แต่ลูกนั้นตามน้ำของเขาไม่ได้ยากเกินความสามารถของนายด่านเบลเจี้ยน
เวลาผ่านไป ลิเวอร์พูล หาช่องเข้าทำยากขึ้น ผู้เล่น ลูตัน แข็งแกร่งชิงจังหวะเล่นได้ดี เกมฝั่งทีมเยือนไม่ได้ไหลลื่นเหมือนที่เคยเป็น
ฉะนั้น หากต้องการคว้าชัย ครึ่งหลังต้องถีบตัวเองขึ้นมาอีกหลายเท่าตัว
ขณะที่ ลิเวอร์พูล ต้องการประตูเพื่อปลดล็อก ทว่า ลูตัน ยังคงความเหนียวแน่น และรับมือกับ "หงส์แดง" ได้ดี
กระทั่ง โมฮาเหม็ด ซาลาห์ กะจังหวะโหม่งพลาดแต่บอลตกมาถึง นูนเญซ
แทนที่เขาจะส่งบอลไปซุกก้นตาข่าย แต่กลับยิงลอยเหินขึ้นบนอัฒจันทร์แบบเหลือเชื่อ
ขณะที่อีก 1 นาทีหลังจากนั้น นูนเญซ ได้จังหวะหลุดเข้าไปยิงจากการผ่านบอลของ ซาลาห์ และเขาก็ยิงแบบไม่ต้องแต่ง ซึ่งถือว่าทำได้ดีกว่าจังหวะก่อนหน้านี้
ถึงกระนั้นการพลาดอันน่าเหลือเชื่อของ นูนเญซ เป็นการสรุปได้ดีว่าเกมนี้ ลิเวอร์พูล เล่นได้แย่แค่ไหน
เช่นเดียวกับนี่เป็นเกมที่ โดมินิค โซโบซไล เล่นไม่ออกนับตั้งแต่ย้ายมาสวมเสื้อสีแดงเพลิง
โซโบซไล ไม่สามารถช่วยทีมได้ในพื้นที่สุดท้าย หลังจาก ลูตัน จัดการกับเขาอยู่หมัดจนแทบจะเรียกว่าทำให้เขาออกจากเกม
สิ่งที่ตอกย้ำถึงเรื่องนี้คือการที่เขามีจังหวะผ่านบอลสำคัญแค่ 1 ครั้งตลอดทั้งเกม ทั้งที่ก่อนหน้านี้เขามีค่าเฉลี่ยในด้านนั้นถึง 4 ครั้งต่อนัด
คงต้องหวังว่ามันจะไม่เกิดเหตุการณ์แบบนี้ขึ้นอีก และเป็นเพียงรอยด่างพร้อยเล็ก ๆ หลังจากเขาออกสตาร์ตได้ยอดเยี่ยม
ความกระตือรือร้นของ ลูตัน ทำให้บรรดานักเตะ ลิเวอร์พูล วิ่งเยอะตามไปด้วยจนเกิดอาการล้า
พวกเขาขาดความไหลลื่นและความเฉียบขาดในการจบสกอร์ตอนอยู่หน้าปากประตู ขณะที่บางครั้งพวกเขาก็เล่นได้แย่ทั่วทุกพื้นที่ของสนามเลยด้วยซ้ำ
จนกระทั่ง เจ้าถิ่นสร้างความช็อคด้วยการชิงออกนำจาก ทาฮิธ ชอง ซึ่งทำให้ คล็อปป์ หยิบ ดิอาซ จากม้านั่งสำรองลงเล่น
เหมือนเป็นบทละครที่เขียนมาเพื่อดาวเตะโคลอมเบีย จริง ๆ เขากลายเป็นผู้พา ลิเวอร์พูล รอดพ้นความปราชัย พร้อมกับส่งข้อความให้คนทั้งโลกได้เห็น
"Libertad Para Papa"
"Freedom For Papa"
"อิสรภาพเพื่อคุณพ่อ"
และเป็นอีกครั้งที่ ฮาร์วี่ย์ เอลเลียตต์ สร้างความแตกต่างในฐานะตัวสำรอง เขาลงมาเติมความสดและความไหลลื่นตรงพื้นที่ฝั่งขวา
การวิ่ง, การเชื่อมเกมทำได้ดี และที่สำคัญคือมีส่วนพา ลิเวอร์พูล กลับออกจากบ้าน ลูตัน ด้วยการมีแต้มเมื่อเขาแอสซิสต์ให้ ดิอาซ โขกประตูสำคัญ
ตอนเริ่มฤดูกาล หลายคนมองกันอยู่แล้วว่ามันยังเร็วเกินไปที่ ลิเวอร์พูล ชุดนี้ที่ผ่านการยกเครื่องครั้งใหญ่จะมีลุ้นแชมป์ลีกได้ในทันที
แต่การที่พวกเขาเก็บแต้มได้เป็นกอบเป็นกำในช่วงต้นฤดูกาล และการที่บรรดาทีมคู่แข่งร่วมลีกมีผลงานไม่คงเส้นคงวามันก็ทำให้ ลิเวอร์พูล อยู่ในสถานการณ์ที่สามารถป่าวประกาศได้ว่าพวกเขาตั้งเป้าที่จะลุ้นแชมป์ลีกเหมือนกัน
อย่างไรก็ตาม ทีมที่โดน ลูตัน ซึ่งอยู่ในกลุ่มหนีตกชั้นเล่นงานก็ดูแทบจะไม่เหมือนทีมที่จะมีลุ้นแชมป์ในฤดูกาลนี้ได้เลย
พวกเขาจำเป็นต้องทำผลงานให้ดีกว่านี้ในการเยือนทีมน้องใหม่ โดยมันเป็นปัญหาที่เกิดขึ้นมาตั้งแต่ฤดูกาลก่อนแล้ว และพวกเขาต้องป้องกันเกมสวนกลับเร็วของคู่แข่งให้ดีกว่านี้ด้วย
การติด 4 อันดับแรกของตารางคะแนนให้ได้ดูเป็นเป้าหมายที่พอเป็นจริงได้มากกว่าการได้อยู่ในกลุ่มลุ้นแชมป์มาโดยตลอด
และเกมนี้อาจจะเป็นข้อพิสูจน์ว่าทำไมมันถึงเป็นแบบนั้น
HOSSALONSO