แอนโธนี่ กอร์ดอน ตัวตึงรายล่าสุด! 5 ประเด็น นิวคาสเซิ่ล จบสถิติไร้พ่าย อาร์เซน่อล

1. สาลิกาชุดเดิม

นิวคาสเซิ่ล ส่งทีมชุดเดิมลงเล่นเมื่อเทียบกับขุนพล 11 ในเกม พรีเมียร์ลีก สัปดาห์ก่อนที่พวกเขาบุกไปเสมอกับ วูล์ฟส์ 2-2

อย่างไรก็ดี หากจะยึดจากเกมกลางสัปดาห์แมตช์บุกไปเขี่ย แมนฯ ยูไนเต็ด ตกรอบสี่ถ้วย คาราบาวคัพ ด้วยสกอร์ 3-0 เอ็ดดี้ ฮาว ส่ง นิค โป๊ป กลับมาเฝ้าเสา และคงนักเตะตัวรุกอีกสามรายเอาไว้ทั้ง ฌอน ลองสตาฟฟ์ , แอนโธนี่ กอร์ดอน และ โชลินตอน

2. ปืนใหญ่ไร้ โอเดการ์ด

อาร์เซน่อล บุกมาเยือน นิวคาสเซิ่ล โดยเปลี่ยนทีมสามตำแหน่งจากเกมถล่ม เชฟฯ ยูไนเต็ด ในลีก 5-0 โดยไม่มี มาร์ติน โอเดการ์ด กัปตันทีมเดินทางมาด้วย

มิเกล อาร์เตต้า นายใหญ่ เดอะ กันเนอร์ส เผยว่ามิดฟิลด์ทีมชาติ นอรเวย์ ยังไม่ฟิตแม้จะส่งเขาลงเล่นเป็นตัวสำรอง และยิงประตูตีไข่แตกให้ทีมได้ในช่วงทดเวลาเกม คาราบาวคัพ รอบสี่ที่บุกไปแพ้ เวสต์แฮม 3-1 ส่งผลให้ จอร์จินโญ่ ได้สวมปลอกแขนนัดนี้

สำหรับสามรายที่ปรับเปลี่ยนประกอบไปด้วย จอร์จินโญ่ , กาเบรียล มากัลเญส และ ทาเคฮิโระ โทมิยาสึ ที่ได้ออกสตาร์ตแทน ยาค็อบ คิวิออร์ , โอเล็กซานเดอร์ ซินเชนโก้ และ เอมิล สมิธ โรว

3. กอร์ดอน กำลังห้าว

จะว่าไปหากเกมนี้ไม่มีประตูของ กอร์ดอน เกิดขึ้นก็น่าจะยุติธรรมดีเนื่องจากทั้งสองทีมต่อสู้กันได้อย่างคู่คี่ และสมควรแบ่งแต้มกันไปมากกว่าที่จะมีผู้แพ้ผู้ชนะโดยเฉพาะอย่างยิ่งต่างก็แทบไม่ได้สร้างปัญหาให้นายทวารทีมคู่แข่งออกแรงเซฟลูกอันตรายสักเท่าไหร่

แต่ไม่ว่าจะอย่างไร สำหรับ กอร์ดอน ซึ่งกลายมาเป็นฮีโร่ของ นิวคาสเซิ่ล พาทีมยัดเยียดความปราชัยให้ทีม ปืนโต เป็นเกมแรกในลีกซีซั่นนี้ บอกเลยว่าอดีตปีกทีม เอฟเวอร์ตัน พัฒนาฝีเท้าได้รุดหน้าขึ้นเป็นลำดับจนแทบจะเป็นคนละคนกับที่เคยค้าแข้งกับ ท๊อฟฟี่สีน้ำเงิน 

นั่นเป็นเพราะนับตั้งแต่ช่วงที่เขายังอยู่กับถิ่น กูดิสัน พาร์ค เดือนต.ค.2022 และถูกทีมอีสานดึงมาร่วมทีมในราคาเบื้องต้น 40 ล้านปอนด์เมื่อเดือนม.ค. 2023 จวบจนถึงเกมนี้ ปีกซ้ายวัย 22 ปีซัดประตูในเกมลีกไปแล้ว 5 ลูกจาก 11 นัดหลังสุดทั้งๆที่ก่อนหน้านั้น 20 นัดแรกที่ได้ลงเล่นใน พรีเมียร์ลีก เขายิงประตูไม่ได้เลย

พร้อมกันนี้ ในฐานะ แมน  ออฟ เดอะ แมตช์ เกมคว่ำ อาร์เซน่อล กอร์ดอน คู่ควรที่จะได้ตำแหน่งดังกล่าวอย่างแท้จริงเนื่องจากเขามีผลงานยิง 1 ประตู , สับไก 2 หน , เข้าปะทะ 4 ครั้ง และชนะการแย่งบอล 7 ครั้ง

ฉะนั้นแล้ว เชื่อเถอะว่าอีกไม่นานฟอร์มของสตาร์ทีมชาติ อังกฤษ ชุดยู 21 น่าจะทำให้เขาได้ติดธงชุดใหญ่ของกุนซือ แกเร็ธ เซาธ์เกต อย่างแน่นอนหากเจ้าตัวยังฉายความจัดจ้านได้อย่างต่อเนื่อง และพา สาลิกาดง บินได้สูงมากไปกว่านี้

4. โทนีย์ ต้องมา

จากความปราชัยที่มีต่อ นิวคาสเซิ่ล เดากันล่วงหน้าได้เลยว่าพาดหัวข่าววันรุ่งขึ้น อาร์เซน่อล จะต้องโดนลือกับ อีวาน โทนีย์ หัวหอกทีม เบรนท์ฟอร์ด อีกรอบตามระเบียบเนื่องจากผู้เชี่ยวชาญหลายรายมองตรงกันว่าหากจะมีจุดไหนที่ทำให้ทีม ปืนใหญ่ ต้องอกหักซ้ำอีกปีมันก็น่าจะเป็นการปราศจากศูนย์หน้าตัวจบสกอร์ที่มีความเด็ดขาดมากพอ

ทั้งนี้เพราะนัดบุกมาแพ้ สาลิกาดง แบบหวุดหวิด 1-0 ทีมของ มิเกล อาร์เตต้า มีสถิติที่เหนือกว่าเจ้าบ้านทุกด้านทั้งการครองบอลในครึ่งแรก 52:48% และหลังครบ 90 นาที 60:40% อีกทั้งได้ยิงประตูมากกว่าในสัดส่วน 14-9 ครั้งด้วย แต่สิ่งที่ทีมเมืองหลวงต้องปรับปรุงคือการส่งบอลเข้ากรอบแค่ครั้งเดียว ขณะที่ เดอะ แม็กพายส์ ส่งบอลเข้ากรอบสองครั้ง และได้ประตูโทนที่ทำให้ทีมคว้าสามแต้ม

ด้วยเหตุนี้ หาก อาร์เซน่อล มีจอมล่าตาข่ายอย่าง โทนีย์ ที่จะพ้นโทษแบนในเดือนม.ค.มาช่วยระเบิดสกอร์ พวกเขาก็น่าจะเป็นทีมที่มีพิษสงมากขึ้นโดยเฉพาะตัวนักเตะกระหายย้ายสโมสรอยู่แล้วจึงขึ้นอยู่กับว่า เดอะ กันเนอร์ส พร้อมทุ่มเงินอีกก้อนเพื่อเพิ่มโอกาสลุ้นแย่งแชมป์หรือเปล่า และพวกเขาจะตกลงเม็ดเงินกับ เดอะ บีส์ ได้หรือไม่

5. สถิติที่น่าสนใจ

- เป็นครั้งแรกที่ อาร์เซน่อล ยิงประตูไม่ได้จากการลงสนามทุกรายการของซีซั่นนี้ (17 นัด) 

- นิวคาสเซิ่ล อีกเช่นกันที่เป็นทีมแรกไม่เสียประตูให้กับ อาร์เซน่อล ในเกม พรีเมียร์ลีก หนล่าสุด (0-0 ที่ เอมิเรตส์ สเตเดี้ยม เดือนม.ค.2023)

- แอนโธนี่ กอร์ดอน ยิงได้ 5 ประตูจากการลงเล่นเกม พรีเมียร์ลีก 11 นัดหลังมากกว่าที่เจ้าตัวเช็กบิลได้ในเกมลีก 51 นัดก่อนหน้านี้

- นิวคาสเซิ่ล ชนะเกมเหย้าเหนือ อาร์เซน่อล ได้สองหนในสามเกมหลัง (แพ้ 1) โดยก่อนหน้านี้ 19 นัดที่ทั้งสองทีมบู๊กันใน เซนต์ เจมส์ พาร์ค ทีมอีสานไม่เคยได้เฮเลย (เสมอ 7 แพ้ 10)  

- นิวคาสเซิ่ล ชนะเกมลีกนัดเหย้าสี่เกมติดต่อกันโดยไม่เสียประตูเป็นครั้งแรกนับตั้งแต่เดือนเม.ย.2012 (ชนะ เบรนท์ฟอร์ด 1-0 , ชนะ เบิร์นลีย์ 2-0 และชนะ  คริสตัล พาเลซ 4-0)