เสียงตะโกนแซว เอริก เทน ฮาก ของแฟน นิวคาสเซิล ยูไนเต็ด หลังจาก โจ วิลล็อค ยิงลูก 3-0
You r sacking in the morning
ล่าสุด เทน ฮาก ขึ้น "เต็งสอง" โดนปลดออกจากบริษัทพนันที่ถูกต้องตามกฏหมายของอังกฤษ 5-2 ต่อจากเต็งหนึ่ง พอล เฮคกิ้งบอทท่อม ของเชฟฟิลด์ ยูไนเต็ด
การตกรอบ ลีก คัพ ในฐานะแชมป์เก่าดูหมองๆ แต่ที่หนักกว่าคือการแพ้ "คาบ้าน" สองนัดติดด้วยสกอร์ 0-3 แถมยังเป็นการแพ้นิวคาสเซิลด้วยสกอร์ที่แย่สุดรอบ 93 ปี
สถิติอันเลวร้ายเกิดขึ้นจนสื่อรวบรวมมาละเลง
เทน ฮาก แพ้ 8 ใน 15เกม ทุกรายการครั้งแรกนับจากซีซั่น 1962-63
"คาบ้าน" สกอร์ 0-3 สองนัดติดต่อกันต่อจากปี 1962
เทน ฮาก แพ้แค่ 6 ครั้งจากนัดแรกที่คุมทีมจนถึงการคว้าแชมป์ ลีก คัพ ซีซั่นที่แล้ว แต่หลังจากได้แชมป์ ลีก คัพเมื่อต้นปี เล่นมาแล้ว 36 นัด ทุกรายการ คาบเกี่ยวซีซั่นนี้ เขาทำทีมแพ้ไปแล้ว 13 นัด!!!
รวมของเก่าปีก่อน เช่น... แพ้สองเกมแรกของซีซั่น ต่อจากปี 1921 ที่ จอห์น แชปแมน เคยทำเอาไว้ หรือแพ้ลิเวอร์พูล 7-0 ......
มีอีกนะครับ ก็พอเข้าใจกันได้ว่าค่าของคนอยู่ที่คนของใคร
ไม่ใช่สิ ผลของงาน
ฟุตบอลอยู่ที่ผลแข่งขัน ยิ่งยุคโซเชียล ยิ่งหนัก เพราะเสียงวิจารณ์ถาโถมและสาดเข้าหาทันที หลังบอลเตะจบ
เล่นดีแต่เกมไม่สวย....ยังโดนวิจารณ์เลย นับประสาอะไรกับบอลแพ้
กรณีของ เอริก เทน ฮาก บอลเดินทางมาถึงจุดนี้ได้ยังไง ผมก็ยังงงๆ ทั้งที่ผลงานซีซั่นแรกมันมีความก้าวหน้า หลังแพ้สองเกมแรก พวกเขาอัดลิเวอร์พูลลงได้ มันถูกบันทึกเอาไว้ว่าคือนัดแรกที่ เทน ฮาก ชนะ ในพรีเมียร์ลีก
ชนะลิเวอร์พูล....เกมนั้นน่าจะเป็นจุดเปลี่ยนให้เส้นทางซีซั่นแรกจบที่อันดับ 3 และคว้าแชมป์ ลีก คัพ , รองแชมป์ เอฟเอ คัพ
ทิศทางจากซีซั่นแรก....คือไปข้างหน้านะครับ
แต่พอเริ่มต้นซีซั่นที่สอง งานของเขาส่อแววว่าจะกลับมาตั้งหลัก นับหนึ่งใหม่อีกครั้ง
ในพรีเมียร์ลีก อยู่อันดับ 8 เตะ 10 นัด 15 แต้ม ชนะ 5 แพ้ 5 ไม่มีเสมอ
การแพ้ 5 จาก10 นัดแรกของซีซั่นเพียงแค่ 3 เดือน ตัวเลขนี้บ่งบอกได้ว่าเป้าหมายสูงสุดของพวกเขาเหลือแค่ ยูโรปา ลีก เว้นเสียแต่ว่าจะพลิกสถานการณ์ชนะรวดแบบ 10 นัดติดต่อกันหลังจากนี้...
ซึ่ง....หลายคนคงไม่เชื่อเมื่อดูจากฟอร์มการเล่นล่าสุด
ทั้งวิธีการ, สภาพจิตใจ, ภาษากายนักเตะ การแก้ปัญหาของ เทน ฮาก เอง
ไม่มีใครเชื่อว่าจะพลิกสถานการณ์ได้ดีขนาดนั้น
ตอนนี้คงไม่มีใครมาคุยเรื่องปัญหาของทีมอีกแล้ว ไม่ว่าจะเรื่อง "บ้านเกลเซอร์" ลงทุนให้จำกัด ตามงบการเงิน และการบริหารตัวเลขเฉพาะส่วนสโมสรฟุตบอล ที่ไม่ใช่ตลาดหุ้น (ซึ่งโกยเงินเข้าเป๋าตุง) , ตัวนักเตะ, แทกติกของเทน ฮาก
ตอนนี้เรามาคุยกันว่า.....เขาจะแก้ปัญหาอย่างไร เพื่อให้ทีมกลับมา และเพื่อเซฟตัวเองให้ทำงานนี้ต่อไปยาวๆ
นั่นสิครับ
เทน ฮาก จะแก้วิกฤตปัญหานี้ได้อย่างไร
ปัญหาเรื่องผลงานฟุตบอล ก็คงต้องแก้ด้วยฟุตบอล คงไม่ใช่อย่างอื่นๆ แต่ครั้งหนึ่งก่อนเซอร์ อเล็กส์ เฟอร์กูสัน คว้าแชมป์พรีเมียร์ลีกสมัยแรก เขาเคยบอกผ่านหนังสือตัวเองว่า..
ช่วงแย่ๆ นั้นเขาเคยได้รับการสนับสนุนจาก เซอร์ บ๊อบบี ชาร์ลตัน ผู้ล่วงลับ โดยเฉพาะวันหลังจากที่ แมนฯซิตี้ ถล่ม 5-1 เสียงตะโกนจากแฟนผี fergie out หรือ เฟอร์กี้ ออกไป....ดังกระหึ่ม
เซอร์ บ๊อบบี ให้กำลังใจและเชื่อว่า เขาคือคนที่ใช่ ในการพาแมนฯยูฯ คืนสู่ความสำเร็จ
หรืออย่างช่วงออกตัวซีซั่น 1992-93 ผลงานไม่ดี ชนะยาก ยิงได้น้อย พอ เซอร์ อเล็กส์ ซื้อ เอริก คันโตนา มาจากลีดส์ ช่วงปลายเดือนพ.ย. เท่านั้นเอง ทุกอย่างพุ่งไปข้างหน้า
เทน ฮาก มีทางเลือกอะไรแบบนั้นมั้ย...
เซอร์ อเล็กซ์ ตอนนี้ยังคงอยู่ในภาวะเศร้าใจหลังสูญเสีย เคธี ภรรยา สุดที่รัก ผู้เป็นเบื้องหลังความยิ่งใหญ่ของท่านเซอร์ ครั้นจะให้ท่านเซอร์ มาปลอบประโลมคงไม่ใช่จังหวะนั้น
ส่วนนักเตะในทีมตอนนี้ล่ะ...พึ่งพาใครได้บ้าง
กลุ่มรุ่นใหญ่.....ราฟาแอล วาราน ก็เอาแต่เจ็บ เช่นเดียวกันกับ กาเซมิโร โรยรา เล่นได้ไม่ทุกเกม คริสเตียน เอริคเซ่น เลยจุดพีคไปแล้ว
บรูโน่ แฟร์นันด์ส กัปตันขี้บ่น ก็ใช้ปากมากกว่าเท้า
มาร์คัส แรชฟอร์ด ที่ปีก่อนยิงได้เป็นกอบเป็นกำ เล่นทีมชาติล่าสุดก็ยิง แต่กับสโมสร มุ่งหน้าเน้นยิงประตูมากไป จนลืมร่วมเล่นกับเพื่อน
ดาวรุ่งนี่ยาก...
การซื้อนักเตะช่วงระหว่างซีซั่นทำไม่ได้ มันไม่เหมือนยุค ท่านเซอร์ ตอนนั้น ที่สามารถคว้า คันโตนา มาช่วงพ.ย. (เมื่อก่อนตลาดนักเตะอังกฤษซื้อได้ตลอดเวลา ไม่มีแบ่งสองช่วงเหมือนทุกวันนี้)
เทน ฮาก ต้องรอ ม.ค. ซึ่งไม่รู้เหมือนกันว่า เกลเซอร์ จะมีงบให้ใช้มั้ย และการซื้อนั้นจะตอบโจทย์หรือไม่...
วันนี้ เทน ฮาก ต้องช่วยตัวเองแล้วละครับ
โอเค....เมื่อพิจารณาจากการเล่นบอลของแมนฯยูฯล่าสุด...
มันมีปัญหาหลักๆ5 ข้อให้แก้ด่วนๆ
1 เล่นเกมไม่ต่อเนื่อง
แมนฯยูฯ เล่นดี 20-30 นาทีหรือครึ่งแรก จากนั้นปิดสวิทช์ แผ่วลง พอแผ่ว หย่อนยานในวินัยการเล่น เสียประตู แล้วพอเสียประตูก็เรื่องใหญ่ทันที เหมือนไปต่อให้คู่แข่ง ทางกลับมายาก หรือเล่นไป บอลนำ ก็พร้อมเสียประตูเมื่อผ่อนเกมหรือเสียสมาธิ ไม่เล่นเหมือนเดิมที่ทำได้
ยังมีรายละเอียดเชิงแทกติก อย่างเช่น การเพรสแย่งบอลแดนสาม แดนสอง ทำได้ดี ตัวเลขติดอันดับทอป แต่แย่งได้แล้ว ทำอะไรต่อจากนั้น... คือมันไม่สามารถใช้ประโยชน์จากจุดนั้น แทกติก counterpress ไม่มีใครมองเห็นเพราะมันเปลี่ยนเป็นประตูไม่ได้ พอแย่งได้ เข้าไปยิงไม่ได้ ก็ท้อแท้กันไป
2 เกมรับ
ขาดวินัย ไม่ออแกไนซ์ อะไรเลย แดนกลางไม่ compact รัดกุม การรับจึงดูหลวมโครก หลายครั้งเหลือกองหลัง 4 คนกับพื้นที้ป้องกันอันกว้างใหญ่ ยังไงก็โดนโจมตีง่าย แถมความผิดพลาดส่วนตัวนักเตะมาเติมอีก ทำเสียบอล ทำเสียประตู มาร์คคู่ไม่ชิด ยืนห่าง .....
3 เกมรุก
แดนสาม ไม่คุกคาม กดดันคู่แข่ง บอลด้านข้างไม่อันตราย ปีกสองฝั่ง มี แรชฟอร์ด ที่พอใช้ความเร็วได้ แต่พอถึงแดนสุดท้ายก็เลือกทำเพื่อตัวเอง คือจะก้มหน้าก้มตายิง มุมไม่มีก็ยังจะยิง ไม่พยายามร่วมเล่นกับเพื่อนที่แดนสาม หรือไม่ก็ไปจนสุดทาง แล้วเสียบอล
การเล่นหน้าไลน์เกมรับคู่แข่ง พอ บรูโน่ ถอนไปต่ำ หรือไปด้านข้าง ดัน แม็คโทมิเนย์ ขึ้นหน้า ก็ขาดตัวสร้างสรรค์เกมหน้าไลน์เกมรับคู่แข่ง บอลช่องไม่มี จี้ชิ่ง ไม่ได้
ยิงเซต พีซ ไม่น่ากลัวเลย แมนฯยูฯ เตะมุมดูไม่อันตราย ลูกสูตร อะไรก็ไม่เห็น
ฟรีคิก ก็ไม่มีตัวยิงเด็ดๆ
คือหนทางจะได้ประตูจากเกมรุก โอเพ่น เพลย์, เซต พีซ มีน้อยมาก
ครั้นจะเล่นสวนกลับ เกมที่พบ แมนฯซิตี้ เล่นได้แค่ครึ่งเดียว พอไหว แต่พอโดนยิง ทุกอย่างจบลงทันที
ส่วนเกมสวนกลับพอไปเล่นทีมอื่นๆ ก็ไม่มีใครบุกใส่ แมนฯยูฯ ต้องไปบุกใส่เขาอีก คราวนี้ก็หมดหนทาง
4 แก้แล้วแก้อีก
พอทีมผลแข่งไม่ดี เอริก เทน ฮาก ก็ออกลูกกดดันตัวเองจนสะเปะสะปะ จับนักเตะเล่นผิดตำแหน่ง ไม่ put the right man จนทำให้ความสามารถสูงสุดนักเตะลดลง เช่น เอา บรูโน่ ไปยืนปีกขวา บางเกมเอาไปยืนเบอร์6 แล้วดัน สกอต แมคโทมิเนย์ เล่นเบอร์ 10 เพราะยิงประตูได้
11 คนแรกจึงปรับเปลี่ยนไปเรื่อยๆ แล้วไม่มีโครงสร้างที่ลงล็อค แม้ว่ากองหลังสลับหน้ากันเจ็บก็ตาม แต่งานแก้ของเขาออกลูกสะเปะสะปะแล้ว ลินเดอเลิฟ เล่นแบ๊กซ้าย ทั้งที่มี เรกีลอน ซ้ายอาชีพ เหมือนเวลาผลแข่งไม่เป็นใจ ปรับเปลี่ยนตำแหน่งดู มิดฟิลด์คู่กลาง ก็เปลี่ยนคู่บ่อย ปีกสองข้างก็เช่นกัน
5 ความเชื่อมั่นของนักเตะ
บอลแพ้ก็อย่างที่เห็น มันไม่ใช่การเล่นไล่โค้ช อย่างที่เข้าใจกัน เพราะนักเตะไม่มีความเชื่อมั่นในการเล่นตามแทกติก จะบอกว่านักเตะไร้ความสามารถคงไม่ใช่ มันก็ชุดเดียวกันกับปีที่แล้ว 90% เติมแค่ ประตู ที่ปรับตัวช่วงแรก ตอนนี้ก็ช่วยทีมได้เยอะ มิดฟิลด์ นี่น่าผิดหวัง ได้ตัวที่ไม่ใช่เป้าหมายแต่แรก ยังดีที่มี ฮอยลุนด์ มาเป็นหน้าเป้า ช่วยทำให้ทีมตัวเลือก
กระนั้นวันนี้....ความเชื่อมั่นนักเตะหายไปเยอะ
ปัญหา 5 ข้อหลักๆนี้ คือสิ่งที่ เทน ฮาก ต้องแก้ให้ได้ในเดือนพ.ย. หาไม่แล้ว เขาจะต้องไปแก้งานที่สโมสรอื่นๆ
โปรแกรม พ.ย. ถือว่าพอเป็นใจให้ เทน ฮาก หยุดวิกฤตนี้
พรีเมียร์ลีก 3 นัด เจอฟูแล่ม, ลูตัน และเอฟเวอร์ตัน
ช.ป.ล 2 นัด เจอ โคเปนเฮเก้น, กาลาตาซาราย
คู่แข่งไม่ได้เหนือกว่าพวกเขาเหมือนแมนฯซิตี้ ทางชนะมี แต่ 5 ข้อปัญหาข้างบนนั่น จะแก้ได้ลุล่วงหรือไม่
ด้วยความเห็นใจครับ..
แม้ว่าผมเองหนุนหลัง เอริก เทน ฮาก มาตั้งแต่แรก เพราะเข้าใจว่ารู้จักเขาดีพอจากการลงเสียงเทปบันทึกแข่งขันดัชท์ลีก (3BB Sport one) แต่ผลงานที่ผลิตออกมาเรื่อยๆ เนี่ย...
ดูไม่สมกับที่แฟนบอลจะฝากความหวังอะไรได้เลย
สถิติอันเลวร้ายเกิดขึ้นอยู่เรื่อยๆ
ไม่ใช่แค่เคยแพ้ลิเวอร์พูล 0-7 อะนะ
มันบ่อยเกินจนทีมกลายเป็นตัวตลกในสายตาชาวโลกไปแล้ว
สถานการณ์ล่าสุดนั้นเชื่อว่าบ้านเกลเซอร์ ยังคงนิ่งไม่แสดงท่าทีอะไร คงไม่ใช่เพราะเซฟค่าชดเชย £15 ล้าน (700 ล้านบาท) แต่มันคือแนวทางของ "บ้านเกลเซอร์" ที่มองวิกฤตเป็นโอกาสทางการเงินอยู่เสมอ คงไม่รีบร้อนอะไร
แค่ช้อนหุ้น MANU ตอนราคาตกเอาไว้ ก่อนปล่อยขายเมื่อราคาขึ้น รับทรัพย์เข้าเป๋าสบายตัว
เพียงแต่ว่าถ้ามันไม่ดีขึ้นกว่านี้ละ....
ล่าสุด...เอริก เทน ฮาก ให้สัมภาษณ์หลังแพ้ นิวคาสเซิ่ล "คาบ้าน" ตกรอบ ลีก คัพ ด้วยหัวจิตหัวใจอันเข้มแข็งว่า...
"But I am confident I can do it. At this moment we are in a bad place and I take responsibility for it.
"But I am a fighter. I see it as a challenge."
ตามความหมายสามสี่ประโยคของ เทน ฮาก มันคือว่า.......
ผมคือคนที่ใช่...ไงครับ
JACKIE