บิ๊กแมตช์ที่จัดให้ห้าดาวระหว่าง อาร์เซนอล กับลิเวอร์พูล
บททดสอบปืนใหญ่ที่ฟอร์มสด กับลิเวอร์พูลที่ออกตัวย่ำแย่สุดนับตั้งแต่ เจอร์เก้น คลอปป์ คุมทีมแถมแต้มตามหลังอาร์เซนอล 11 แต้มก่อนเล่นเกม พอหลังจบเกมตามอีก 14 แต้ม
เกิดอะไรขึ้นบ้างเกมนี้
ปืนรูปแบบ 4-2-3-1
แรมส์เดล ;ไวท์, ซาลีบา-กาเบรียล, โทมิยาสุ ;ปาร์เตย์- ชากา วซากา, โอเดการ์ด, มาร์ติเนลลี ; เชซุส
รูปแบบของ อาร์เตต้า เวลาบุกจะยืน 4-1-4-1 เนื่องจาก กรานิต ชาก้า จะสอดขึ้นไปเป็นตัวรุกเพิ่ม เท่ากับเวลารุกจะเป็นห้าคน บวกกับตัวทำด้านข้าง, โอเดการ์ด, ชาก้า และแน่นอน เชซุส
JK 4-4-2
จากชัยชนะต่อเรนเจอร์สด้วยระบบ 4-4-2 ที่ใช้หน้าคู่ และได้ผลงานที่ดีมันเหมือนกันกับการได้ซ้อมใหญ่ เกมนี้เจออาร์เซนอล คลอปป์ ยังคงใช้รูปแบบนี้ เมื่อต้องบุกเข้าหาอาร์เซนอล
หากแต่พอรับจะเป็น 4-5-1 โดย โชต้า ดรอปลงมาต่ำเพื่อช่วยเกมรับ หากเพรสแดนบนไม่ได้ ถอยมาในแดนตัวเอง โดย ดาร์วิน เป็นหน้าเป้าไป ซึ่งธรรมชาติของ โชต้า ไม่ใช่ตัวเปิดป้อนหรือเป็นเพลย์เมคเกอร์เบอร์สิบเหมือนกันกับ บ๊อบบี ฟีร์มีโน สักเท่าไหร่
เบคเกอร์ ;เทรนต์, มาติป-ฟานไดจ์, ซิมิกาส ;ซาลาห์, เฮนเดอร์สัน, ติอาโก, ดิอาส ; ดาร์วิน นูนเยส,โชต้า
เกมรับหงส์หลวมเกิน
ลิเวอร์พูลเสียประตูแรกให้คู่แข่งอีกแล้ว....6 ใน8 เกม นี่คือสัญญาณแห่งหายนะชัดๆ
แค่ 58 วินาทีเท่านั้นเอง (เร็วที่สุดที่ปืนยิงหงส์ในพรีเมียร์ลีก) จากจังหวะ โชต้า กับ ดาร์วิน เล่นกันแล้วเสียบอลแดนอาร์เซนอล จากนั้น เบน ไวท์ ออกบอลด้านข้าง ให้ ซากา แถม ซิมิกาส ไม่รักษาตำแหน่ง ยืนลอย บอลถึง บูกาโย ซากา มีพื้นที่โล่งพาบอลเข้าหา ฟานไดจ์ ก่อนไหลให้ โอเดการ์ด แดนกลางหงส์เบรกไม่ทัน โอเดการ์ด อยู่หน้าไลน์ กองหลัง ก่อนแทงเข้าช่อง เทรนต์ และ มาติป ให้ มาร์ติเนลลี หลุดเข้าไปแปสวน เบคเกอร์ ง่ายๆเลย
การป้องกันไม่รัดกุมทั้งแนว....บวกกับความเร็วและแม่นในการเล่นเกมรุกแดนสามอาร์เซนอล
สองแรงบวกก็เรียบร้อย
ประตู 2-1 เกิดขึ้นในอีก20 วินาทีก่อนหมดครึ่งแรก
โดนสวนกลับ....ในช่วงทดเวลานาทีที่ 5 จังหวะลิเวอร์พูลได้ฟรีคิก ซิมิกาส เปิดให้ มาติป โขกบอลไม่ดี โดนตัดได้ บอลจังหวะสองปืนเก็บหน้าเขตโทษแล้วสวนกลับตูมบอลถึง มาร์ติเนลลี โดยมี เฮนโด กับ เทรนต์ คุมอยู่ สองคน แต่โดน มาร์ติเนลลี หลอกเข้าเท้าถนัดถลำพร้อมกันสองคน ก่อนเปิดเข้าใน กาเบรียล ไม่เล่น ปล่อยบอลไหล ซิมิกาส หลงเหลี่ยม ปล่อยตาม ซากา ชาร์ตที่เสาสองง่ายๆ 2-1
ส่วนประตู 3-2 นั้นเกิดขึ้นหลังจากอาร์เซนอล กดดันหงส์แดง อย่างหนัก จนกระทั่ง ติอาโก ทำเสียจุดโทษ จากการเล่นไม่ละเอียดไปเตะด้านหลัง เชซุส จังหวะนี้คุณเสียเปรียบเขาแน่นอน เพราะเชซุส อยู่ข้างหน้าคุณชัดๆ ไปเตะด้านหลัง แบบนี้ก็เสียจุดโทษให้ อาร์เซนอล และเป็น ซากา ยิงเข้าไป น.75
จากนั้นช่วงเวลาที่เหลือ "หงส์แดง" เหมือนหมดพลังดื้อๆ เร่งไม่ขึ้น แม้ว่าจะมีการเปลี่ยนตัวผู้เล่น แต่ก็ไม่ได้คุมเกมบุกหรือเล่นแล้วมีลุ้นทำประตูได้เลย จนกระทั่งพ่ายแพ้ในท้ายที่สุด
เกมรุกหงส์พอได้
2 ประตูจาก ดาร์วิน ชาร์ต ลูกแอสซิสต์ ของ ดิอาส และ การให้บอลช่องของ โชต้า แล้ว บ๊อบบี ฟีร์มีโน วิ่งทำทางโฉบเข้าไปยิงตีเสมอ 2-2 การเข้าทำ และการสกอร์ของตัวรุกยังเป็นอะไรที่ไว้วางใจได้ ทำให้ทีมพอมีโอกาสได้แต้ม การได้โอกาสลงสนามต่อเนื่องของ ดาร์วิน ทำให้เขาเล่นเข้าขากับเพื่อนร่วมทีมมากขึ้น เข้าใจเกมมากขึ้น
ยังไง...ต้องส่งลงเล่นต่อเนื่อง ด้วยเพราะสภาพร่างกายของเขาตอนนี้พร้อมมาก
อาร์เซนอลเหนือกว่า
ครึ่งแรกพอโดนตีเสมอ เกมอาจดูเป็นรอง เพราะหงส์แดงเดินเกมรุก แต่จังหวะสวนกลับของพวกเขาอันตรายอย่างยิ่ง จนมาได้ประตูขึ้นนำ 2-1 แต่ครึ่งหลังพอโดนตีเสมอ 2-2 เกมอาร์เซนอลกลับดีขึ้นเรื่อยๆ คุมเกมได้หมด และนั่นแสดงให้เห็นว่า เด็กหงส์แผ่ว...สภาพไม่ได้ สู้อาร์เซนอล ไม่ได้ในเรื่องการแย่งบอล แถมโดนกดดันอย่างหนักจนกระทั่งเสียประตู 3-2
ทั้งสด...ทั้งลงล็อค ปืนเหนือกว่าหงส์แดงในเรื่องของเกมการเล่น
ถึงจุดนี้อาร์เซนอล เดินหน้าเก็บชัยชนะต่อเนื่อง ชนะ 8 ใน 9 เกม ทำแต้มนำ แมนฯซิตี้ 1 แต้ม ไม่มีข้อสงสัยในเรื่องผลงานของปืนใหญ่ แค่ติดตามกันว่าพวกเขาจะยืนระยะยาวๆในซีซั่นนี้กับทีมอย่างแมนฯซิตี้ ดีขนาดไหน
แต่เชื่อว่าแฟนปืน...ไม่จำเป็นต้องใส่ใจเรื่องนี้เพราะเป้าหมายแต่แรกคือไปแชมเปี้ยนส์ ลีก ที่เหลือคือโบนัส หากเล่นไม่กดดันตัวเองไปเรื่อยๆ ย่อมมีโอกาสลุ้นกับแมนฯซิตี้ได้ยาวๆ
ส่วนลิเวอร์พูล มาถึงจุดนี้....ลงสนาม 8 ชนะ 2 เสมอ 4 แพ้ 2 อันดับ 10 มี 10 แต้ม
เป้าหมายซีซั่นนี้คืออะไร แม้ว่ายังพึ่งเริ่มต้น ไม่ถึงสิบนัด แต่ดูเหมือนว่าปัญหาใหญ่ของเจอร์เก้น คลอปป์ คือ
"ป้องกัน" ยังไงไม่ให้เสียประตู ไม่ว่าจะนาทีที่ 1 หรือนาทีทดเวลา
"ป้องกัน" ยังไงให้มีความรัดกุม ทั้งแดนกลางจนถึงแดนหลัง ซึ่งต้องยอมรับว่า "ไม่ไหวเลย"
ตั้งแต่ เวอร์จิล ฟานไดจ์, โชแอล มาติป, เทรนต์ กระทั่ง ซิมิกาส
ขณะที่ "วิธีการเล่น" เกมนี้เล่นดีแค่ครึ่งแรกช่วงก่อนตีเสมอจนถึงช่วงนาทีที่ 45+5
ส่วนครึ่งหลังพอตีเสมอ 2-2 ได้ กลับไม่สามารถเล่นเกมอะไรได้ถนัดเลย เป็นอาร์เซนอลที่คุมเกมจนได้ประตู 3-2 จากการรุกอย่างกระหน่ำ แบบว่าเกมรับหงส์แดง "โงหัวไม่ขึ้น"
ช่างเป็นผลงานที่สวนทางเมื่อเส้นกร๊าฟของปืนกำลังขึ้น
ของหงส์แดงกำลังจะลง.....
ถ้าจะตั้งคำถามว่า....
เร็วไปมั้ยที่จะตัดสินซีซั่นของหงส์แดง?