อนาคตของ เอริค เทน ฮาก ผู้จัดการทีมกับ แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด อาจถูกตัดสินจาก 5 แมตช์สำคัญ หลังกุนซือชาวดัตช์ตกเป็นข่าวอย่างหนักเตรียมโดนไล่ออกเซ่นผลงานสุดย่ำแย่ในช่วงต้นฤดูกาล 2023-2024
เทน ฮาก สร้างความหวังให้กับสาวก "เร้ด อาร์มี่" หลังเข้ามากุมบังเหียนฤดูกาลแรกด้วยการนำทีมคว้าแชมป์คาราบาว คัพ และคว้าโควตากลับไปลุยศึกยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ ลีก
ด้วยเหตุนี้ทำให้เหล่าแฟนผีทั่วโลกเริ่มคาดหวังว่าในซีซั่นต่อไปทีมรักจะก้าวขึ้นมาท้าทาย แมนเชสเตอร์ ซิตี้, อาร์เซน่อล และลิเวอร์พูล ในการลุ้นแชมป์พรีเมียร์ลีก อังกฤษ หลังทุ่มเงินเสริมทัพเต็มที่ในช่วงซัมเมอร์นี้
แมนฯ ยูไนเต็ด คว้าแข้งชั้นนำมาเสริมแกร่งอาทิเช่น เมสัน เมาท์, อ็องเดร โอนาน่า, โซฟียาน อัมราบัต (ยืมตัว), เซร์คิโอ เรกีลอน (ยืมตัว) และ ราสมุส ฮอยลุนด์ แต่ผลงานกับไม่เป็นดังหวังเมื่อพวกเขาเก็บได้เพียง 15 คะแนนจาก 10 เกมแรกในลีก ส่งผลให้รั้งอยู่ในอันดับ 8 เท่านั้น
ที่สำคัญในแมตช์ล่าสุดที่โดน แมนเชสเตอร์ ซิตี้ บุกมายำใหญ่คาถิ่นโอลด์ แทร็ฟฟอร์ด ด้วยสกอร์ 3-0 ส่งผลให้ เทน ฮาก ต้องตกอยู่ภายใต้แรงกดดันอย่างหนักถ้าหากยังไม่สามารถนำสโมสรกลับมาเก็บผลการแข่งขันที่ดีขึ้นกว่านี้ได้
เมื่อไม่กี่วันที่ผ่านมามีรายงานจากสื่อหลายสำนักว่า แมนฯ ยูไนเต็ด เล็งกุนซือฝีมือดีเอาไว้หลายคนแต่คนที่เป็นตัวเก็งเต็งหนึ่งก็คือ ซีเนดีน ซีดาน เทรนเนอร์ชาวฝรั่งเศส หากสโมสรตัดสินใจปลด เทน ฮาก ออกจากตำแหน่ง
สำหรับอนาคตของ เทน ฮาก ในตอนนี้น่าจะถูกตัดสินจาก 5 แมตช์สำคัญโดยเริ่มด้วยเกมแรกที่จะพบกับ นิวคาสเซิ่ล ยูไนเต็ด ในศึกคาราบาว คัพ วันพุธที่ 2 พ.ย.นี้ หลังจากนั้นก็เกมลีกปะทะ ฟูแล่ม ในช่วงสุดสัปดาห์
ตามด้วยศึกยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ ลีก เยือน เอฟซี โคเปนเฮเก้น ซึ่ง แมนฯ ยูฯ ต้องเอาชนะให้ได้หากพวกเขายังต้องการลุ้นทะลุเข้าไปเล่นในรอบ 16 ทีมสุดท้าย หลังจากนั้นก็ต้องเจอกับ 2 เกมบิ๊กแมตช์ในลีกปะทะ นิวคาสเซิ่ล กับ "สิงโตน้ำเงินคราม" เชลซี
ฉะนั้นหาก แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด ไม่สามารถเก็บชัยชนะใน 5 แมตช์ที่ระบุเอาไว้ข้างต้น แน่นอนว่าแรงกดดันมหาศาลจะถาโถมใส่ เทน ฮาก และอาจทำให้เขาโดนไล่ออกได้เลย